HomeBrand Move !!หลากหลาย – รวดเร็ว – เรียนรู้ 3 กุญแจผ่านวิกฤติ ของ “วิลเลียม ไฮเน็ค” แห่ง MINOR

หลากหลาย – รวดเร็ว – เรียนรู้ 3 กุญแจผ่านวิกฤติ ของ “วิลเลียม ไฮเน็ค” แห่ง MINOR

แชร์ :


การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่หินที่สุดในการดำเนินธุรกิจ โรคนี้ไม่เพียงคร่าชีวิต แต่ยังดับฝันธุรกิจหลายเจ้า เพราะหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 วิกฤติครั้งนี้ หนักกว่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งไหน ๆ เนื่องจากผลกระทบที่ไม่ได้อยู่แค่ในระดับภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง หรืออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง แต่เป็นระดับโลก ในอุตสาหกรรมวงกว้าง แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะทุเลาลงแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่กลับมาคึกคักในทันที ประเทศต่าง ๆ ค่อย ๆ คลายล็อกดาวน์อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการระบาดระลอกสองที่อาจเกิดขึ้นฉับพลัน ทั้งนี้ ในทุกวิกฤติ ภาคธุรกิจที่รอดมาได้ จะได้รับบทเรียนเสริมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินมากขึ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ผู้นำธุรกิจ โรงแรม อาหาร และสินค้าแบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ระดับโลก ได้รอดจากจุดต่ำสุดของวิกฤติโควิด-19 พร้อมทั้งยืนกรานว่าการกระจายการลงทุนจะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณวิลเลียม ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้มอบบทเรียนในการประกอบธุรกิจหลายประการให้กับไมเนอร์ ประการแรกคือ การระบาดของโควิด-19 พิสูจน์ว่า ธุรกิจที่มีประกาศนียบัตรความสะอาดอนามัยดี ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าใช้บริการ ระหว่างช่วงที่มีการคลายล็อกดาวน์อย่างระมัดระวัง ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานด้านการบริหารงานความปลอดภัยและสุขภาพอนามัย หรือ SHA จาก ททท. และใบรับรองสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมที่ได้มาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัยสูงจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ใบประกาศนียบัตรเหล่านี้เป็นเครื่องมือรับประกันประสบการณ์การเข้าพักที่ปลอดภัยและถูกหลักอนามัย โรงแรมอื่น ๆ ในเครือก็ได้ส่งคำร้องขอประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานอนามัยและความปลอดภัย ตามหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้เข้าพักมั่นใจในการใช้บริการของโรงแรมในเครือไมเนอร์

พื่อยกระดับมาตรฐานสุขอนามัยกับความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและพนักงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจในเครือไมเนอร์จึงให้ความสำคัญกับบริการทำความสะอาดมากขึ้น มีการใช้เครื่องทำความสะอาด และน้ำยาทำความสะอาด อีโค่แล็บ (ECOLAB) กับไดเวอร์ซี่ (Diversey) ซึ่งต่างเป็นเครื่องมือทำความสะอาดคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในธุรกิจบริการอาหาร การแปรรูปอาหาร โรงแรมและงานดูแลสุขภาพ ในกรณีของโรงแรมในเครือไมเนอร์ ผลิตภัณฑ์ที่โรงแรมใช้มีคุณภาพเทียบเท่ากับที่ใช้ในโรงพยาบาล อนึ่ง ทุกจุดที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าพัก เช่น กุญแจห้อง และปากกา ห้องพัก ล็อบบี้ เป็นต้น จะมีการฆ่าเชื้ออยู่สม่ำเสมอ มาตรการความสะอาดปลอดภัยนี้เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับการเข้าพักโรงแรมในเครือ

ประการต่อมาคือ การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไมเนอร์ที่เดิมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประกอบการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว ต้องเร่งมือเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรอย่างมีกลยุทธ์โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งภายใต้วิกฤติการระบาดโควิด-19 พฤติกรรมของผู้คนเอนเอียงไปทางโลกดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อการติดโรคโควิด-19 ขณะที่กิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการทำงานบางอย่างเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคได้ แล้วการปรับตัวนี้จะช่วยองค์กรให้ทันตามโลกเศรษฐกิจ ในสถานการณ์ล็อกดาวน์ที่ร้านอาหารไม่สามารถให้บริการในร้านได้ หรือห้างสรรพสินค้าที่ปิดช่วงการระบาดนี้ ก็ทำให้ร้านค้าหลายร้านได้รับผลกระทบไปด้วย แต่เพราะไมเนอร์ได้เปิดบริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ทางออนไลน์ รวมทั้งสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มุ่งเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้บางส่วน แม้จะยังประสบวิกฤติโควิด-19 อยู่ก็ตาม

คุณวิลเลียม เสริมว่า บทเรียนที่สำคัญที่สุดคือ หนึ่งในหัวใจของการลงทุนธุรกิจคือการกระจายการลงทุน โดยปกติ หากเกิดอุปสรรคทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง บริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ก็จะประสบปัญหาอย่างหนัก

เช่นเดียวกับธุรกิจที่มีฐานอยู่ในภูมิภาคเดียว หากภูมิภาคนั้นประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเมือง หรือภัยธรรมชาติ ก็จะกระทบการดำเนินงานทั้งหมด แต่ถ้าหากบริษัทกระจายกิจการไปตามอุตสาหกรรมต่าง ๆ และภูมิภาคหลาย ๆ แห่ง บริษัทก็จะยังมีรายได้เข้ามา และสามารถดำเนินธุรกิจเป็นส่วน ๆ ต่อไปได้ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยง ควบคุมความสูญเสียที่อาจเกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

คุณค่าขององค์กรไมเนอร์มาจากกิจการของบริษัทที่มีความหลากหลายทั้งด้านอุตสาหกรรม และความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ไมเนอร์ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าแบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ที่ดำเนินกิจการอยู่ในตลาดเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา มหาสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกา รวมกัน 63 ประเทศ แม้ผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 จะทำร้ายธุรกิจมากมายในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมทั้งไมเนอร์ หากแต่ว่าในระหว่างที่ธุรกิจโรงแรมชะงักอยู่ ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่ กับธุรกิจร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ออนไลน์ก็มียอดขายที่โตขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับตามสถานการณ์ ทั้งนี้ ผลกระทบทางธุรกิจจากวิกฤติครั้งนี้ก็ไม่ถาวร ในอดีต อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองต่าง ๆ แต่ภาคการท่องเที่ยวก็ฟื้นตัวเสมอ และจะส่งผลบวกต่อธุรกิจร้านอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ในระดับถัด ๆ ไป

ขณะที่ประเทศต่าง ๆ คลายล็อกดาวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป การท่องเที่ยวภายในประเทศจะฟื้นกลับมาก่อน ตามมาด้วยการท่องเที่ยวเชิงภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในเครือไมเนอร์ ไมเนอร์มีโรงแรมในเครือกว่า 530 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในทั้งหมด 55 ประเทศ ผู้เข้าพักโรงแรมในครือในยุโรปกับเอเชียเป็นคนในท้องที่นั้นอยู่แล้วมากถึง 60% โรงแรมในเครือ ไม่ว่าจะเป็นภายใต้แบรนด์ อนันตรา (Anantara) อวานี (Avani) ทิโวลี (Tivoli) เอ็นเอช โฮเทลส์ (NH Hotels) นาว (nhow) เอเลวาน่า (Elewana) โฟร์ซีซั่นส์ (Four Seasons) เซ็นต์ รีจิส (St. Regis) แมริออท (Marriott) หรือ เรดิสัน บลู (Radisson Blu) ล้วนมีชื่อเสียง โรงแรมในเครือมีตั้งแต่ 4 ดาว ถึง 6 ดาว พร้อมบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละแห่งไว้รองรับผู้เข้าพักหลากหลายประเภท

ร้านอาหารในกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นหนึ่งในบริษัทร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งครอบคลุมอาหารนานาประเภท ทั้งอาหารฝรั่งอย่างแบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) กับ เบอร์เกอร์ คิง (Burger King) อาหารเอเชียเช่นแบรนด์ ริเวอร์ไซด์ (Riverside) เบนิฮานา (Benihana) ไทย เอ็กซ์เพรส (Thai Express) และบอนชอน (Bonchon) ไมเนอร์ยังมีแบรนด์ของหวานในดวงใจของประชาชน สเวนเซ่นส์ (Swensen’s) กับ แดรี่ ควีน (Dairy Queen) ร้านอาหารในเครือมีมากกว่า 2,300 ร้านใน 26 ประเทศ ทำให้ไมเนอร์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบรับประทานอาหารประเภทที่แตกต่างกันไป ในหลายพื้นที่

ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ขายสินค้าสารพัดสไตล์ ตามแบรนด์เหล่านี้ อเนลโล่ (Anello) โบเดิ้ม (Bodum) บอสสินี่ (Bossini) บรูคส์ บราเธอร์ส (Brooks Brothers) ชาร์ล แอนด์ คีธ (Charles & Keith) เอสปรี (Esprit) เอแตม (Etam) โจเซฟ โจเซฟ (Joseph Joseph) โอวีเอส (OVS) แรทลีย์ (Radley) สโกมาดิ (Scomadi) สวิลลิ่ง เจ. เอ. เฮ็งเคิลส์ (Zwilling J.A. Henckels) และ ไมเนอร์ สมาร์ท คิดส์ (Minor Smart Kids) ความหลากหลายของแบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของประชากรหลายกลุ่ม ชาย หญิง เด็ก หรือผู้ใหญ่ ความหลากหลายนี้ยังสอดคล้องกับความชื่นชอบของคนไทยที่แตกต่างกันไป มร. วิลเลียม ทิ้งท้าย

การกระจายการลงทุนจะช่วยองค์กรเมื่ออุปสงค์กลับมา พร้อมรับอุปสงค์ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไหน หรือฐานธุรกิจภูมิภาคใด เพราะฉะนั้นการขยายธุรกิจที่จะช่วยให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงพร้อมความเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่ำ คือการกระจายการลงทุนเพื่อไม่ให้ธุรกิจทั้งหมดของบริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากบางอุตสาหกรรม หรือภูมิภาคบางแห่ง


แชร์ :

You may also like