ต้องบอกว่าการเมืองใน Facebook เป็นปัญหาที่น่าปวดหัวไม่น้อย โดยเฉพาะในวันที่ผู้นำอย่าง “Mark Zuckerberg” เลือกที่จะยืนอยู่คนละฝั่งกับกระแสสังคมที่ต้องการให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทกับปัญหาด้านการเหยียดผิว และการโพสต์ของ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”
โดยจะเห็นได้ว่า ไม่เพียงแต่บนหน้าฟีดที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่ศึกภายในองค์กรของ Facebook ก็มีการปะทุมาอย่างต่อเนื่อง หลัง Mark Zuckerberg ออกมาแสดงจุดยืนว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ควรตัดสินใครคนใดคนหนึ่งจากสิ่งที่เขาโพสต์ ตรงกันข้าม Mark Zuckerberg มองว่า การที่แพลตฟอร์มไม่เซ็นเซอร์จะทำให้ผู้คนได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน และสามารถใช้ข้อมูลนั้นในการตัดสินใจเองว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนอย่างไร ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter ทำกับทวีตของโดนัลด์ ทรัมป์ (ด้วยการใส่ Fact Check เอาไว้ข้างหน้าในหลาย ๆ ทวีต) จนได้รับการยกนิ้วให้ในความกล้าหาญ
การกระทำที่แตกต่างของสองซีอีโอยากที่จะตัดสินถูกผิดก็จริง แต่นั่นทำให้ภาพความขัดแย้งภายในองค์กรของ Facebook เริ่มปรากฏชัดต่อสื่อมากขึ้น เห็นได้จากกรณีที่พนักงานระดับอาวุโสหลายรายออกมาแสดงความไม่พอใจต่อจุดยืนของซีอีโอ และบางรายก็ไปโพสต์บนแพลตฟอร์มอื่น (Twitter) ว่าตนเองรู้สึกละอายใจที่จะบอกว่าทำงานอยู่ใน Facebook บ้างก็ยื่นใบลาออกเพื่อแสดงจุดยืนของตนเองว่าไม่เห็นด้วย
Brandon Dail
แต่ที่เป็นข่าวอื้อฉาวขึ้นมาในช่วง 2 – 3 วันนี้เห็นจะเป็นกรณีของวิศวกรชื่อ Brandon Dail ที่ถูก Facebook ไล่ออกอย่างเป็นทางการ โดยทีมประชาสัมพันธ์ของ Facebook ระบุว่า Brandon Dail มีพฤติกรรมคุกคามพนักงานคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับการแสดงจุดยืนสนับสนุน #BlackLivesMatter ผ่านแอคเคาน์ของเขาบน Twitter
โดยสิ่งที่ Brandon Dail ต้องการให้เพื่อนพนักงานทำให้ก็คือ การใส่แบนเนอร์สนับสนุน #BlackLivesMatter ลงบนโปรเจ็ค Recoil ที่เพื่อนพนักงานคนดังกล่าวดูแล แต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งทำให้ Brandon นำเรื่องของเพื่อนคนนี้ไปทวีตบน Twitter นั่นเอง และปัจจุบันทวีตดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
แอคเคาน์ของ Brandon Dail ที่ปัจจุบันไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว