HomeMediaย้อนไทม์ไลน์! คดีไร่ส้ม-อสมท ก่อนถึงบทสุดท้าย ‘พรุ่งนี้’ ศาลฎีกาชี้ชะตา ‘สรยุทธ’

ย้อนไทม์ไลน์! คดีไร่ส้ม-อสมท ก่อนถึงบทสุดท้าย ‘พรุ่งนี้’ ศาลฎีกาชี้ชะตา ‘สรยุทธ’

แชร์ :

cr. IG @sorrayuth9111

คดี “ไร่ส้ม อสมท และสรยุทธ” เป็นอีกมหากาพย์ลากยาวมาเกือบ 10 ปี นับจากปี 2555 ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดด้วยมติเอกฉันท์ “ส่งฟ้อง” ปม “ไร่ส้ม” ของนักเล่าข่าวชื่อดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ขายโฆษณาเกินเวลารายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทาง อสมท มูลค่า 138 ล้านบาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษา “มีความผิด” กำหนดโทษ “จำคุก” 13 ปี 4 เดือน คดีนี้เดินทางมาถึงบทสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.2563) ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษาเวลา 10.00 น.

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

มาย้อนดู “ไทม์ไลน์” เหตุการณ์คดี “ไร่ส้ม” ขายโฆษณาเกินเวลา 138 ล้านบาท เหตุเกิด ณ อสมท

1. ปี 2548 จุดเริ่มต้นมาจากยุค นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เข้ามานั่งเป็น กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ได้ทำสัญญาร่วมผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” กับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด  ซึ่งมี  นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นเจ้าของบริษัทและผู้ดำเนินรายการ

2. รายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทางช่อง 9 เป็นสัญญาร่วมผลิตรายการ โดยฝ่าย อสมท  ลงทุนเวลาออกอากาศ (เจ้าของช่องทีวี) ส่วนไร่ส้ม ลงทุนผลิตรายการ โดยแบ่งเวลานาทีโฆษณา (Time Sharing) ไปขายหารายได้  (ต่างคนต่างขาย)

– รายการคุยคุ้ยข่าว มี 2 ช่วง คือ จันทร์-ศุกร์  เวลา 21.30-22.00 น. ไร่ส้ม ได้เวลาโฆษณา 2.30 นาที (ราคาโฆษณานาทีละ 2.4 แสนบาท)  และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-13.00 น. ไร่ส้ม ได้เวลาโฆษณา 5 นาที (ราคาโฆษณานาทีละ 2 แสนบาท)

– อสมท มีข้อกำหนดว่า กรณีขายโฆษณาเกินเวลา ไร่ส้มต้องจ่ายค่าโฆษณาเกินเวลา ให้ อสมท ตามราคาโฆษณาที่กำหนด  และ อสมท ให้ส่วนลด 30%

รายการคุยคุ้ยข่าว ทางช่อง 9 อสมท

3. เดือน ก.ค. 2549  อสมท มีข้อสังเกตว่ารายการข่าวเที่ยงคืน ออกอากาศช้ากว่าเวลาที่กำหนด จึงตรวจสอบสาเหตุ และพบว่ามาจาก “ไร่ส้ม” ขายโฆษณาเกินเวลา โดยมีพนักงานของ อสมท  คือ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ชนาภา บุญโต)  ซึ่งมีหน้าที่ลงใบคิวเวลาโฆษณา ไม่ได้แจ้งการขายโฆษณาเกินเวลาของ ไร่ส้ม และใช้ “น้ำยาลบคำผิด” ลบคิวโฆษณาเกินเวลาของไร่ส้ม

– ไร่ส้ม ผลิตรายการ คุยคุ้ยข่าว ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2548 ถึงวันที่ 15 ก.ค. 2549  รวมมูลค่าโฆษณาเกินเวลา 138 ล้านบาท

–  หลังจาก อสมท ตรวจสอบเจอโฆษณาขายเกินเวลา วันที่ 20 ต.ค. 2549  ไร่ส้ม “ยอมจ่ายเงิน” ค่าโฆษณาส่วนเกินให้ อสมท  138 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

cr. facebook คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

4. วันที่ 20 ก.ย.2555 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีไร่ส้ม และมติเอกฉันท์ (7:0)  ชี้มูลความผิด นางพิชชาภา พนักงาน อสมท มีความผิดทางวินัยร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา, นายสรยุทธ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ไร่ส้ม และ น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ ไร่ส้ม มีมูลความผิดทางอาญา ฐาน “สนับสนุนพนักงานกระทำความผิด”

– ช่วงที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด  นายสรยุทธ ยังคงทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้”  จันทร์-ศุกร์ และ “เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์” ทางช่อง 3 ต่อไป โดยขอต่อสู้คดีในชั้นศาล

– หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งสำนวนการไต่สวนให้กับ อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณา เห็นว่าสำนวนคดียังไม่สมบูรณ์ จึงใช้เวลาเก็บข้อมูลและไต่สวนเพิ่มเติม

5. เดือน ม.ค.2558 อัยการสูงสุด มีคำสั่ง “ฟ้อง” คดีไร่ส้ม คือ นางพิชชาภา (พนักงาน อสมท) นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา (ไร่ส้ม) ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2502 ม.6 ม.8 และ ม.11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม.86 และ ม.91

–  ตามบทลงโทษคดีนี้ของ นางพิชชาภา คือ ผู้กระทำผิด (เจ้าหน้าที่รัฐ) อัตราโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วน นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หากพบว่ากระทำผิดจริง ต้องรับโทษ 2 ใน 3 ของอัตราโทษผู้กระทำผิด ฐานร่วมกันสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำความผิด

6. วันที่ 29 ก.พ.2559  “ศาลชั้นต้น” อ่านคำพิพากษาคดีไร่ส้ม  นางพิชชาภา พนักงาน อสมท “มีความผิด” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของรัฐ มาตรา 6, 8, 11  ส่วน นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา (ไร่ส้ม) มีความผิดฐานสนับสนุน เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายรวม 6 กระทง

หลักฐานสำคัญในคดีนี้ มาจากการสั่งจ่ายเช็คธนาคารของไร่ส้ม โดยมีลายเซ็น นายสรยุทธ เป็นผู้สั่งจ่าย ให้กับนางพิชชาภา จำนวน 6 ใบ รวมมูลค่า 739,770 บาท เป็นค่าตอบแทนที่ไม่แจ้งโฆษณาส่วนเกิน จึงเป็นความผิดคราวเดียวกัน รวม 6 กระทง

– นายสรยุทธ ต่อสู้คดีในชั้นศาลว่า …ไม่ได้รู้จักนางพิชชาภา ไม่เคยติดต่อใครให้ไม่รายงานโฆษณาส่วนเกิน  ไม่ได้ทำให้ อสมท เสียหาย และได้จ่ายเงินการขายโฆษณาเกิน 138 ล้านบาท ให้ อสมท แล้ว (จ่ายหลังจากมีการตรวจสอบพบ)

– คำพิพากษา ศาลชั้นต้น สั่งจำคุก นางพิชชาภา 6 กระทง กระทงละ 5 ปี รวม 30 ปี ส่วน นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำคุก 6 กระทง กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกคนละ 20 ปี ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3  นางพิชชาภา จำคุกเหลือ 20 ปี ส่วน นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำคุก เหลือคนละ 13 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา  นายสรยุทธ ขออุทธรณ์คดีต่อ

– หลังมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งจำคุก วันที่ 3 มี.ค.2559 นายสรยุทธ โพสต์ IG @sorrayuth9111 ว่า “ตั้งแต่เย็นนี้ ผมขอยุติการทำหน้าที่พิธีกร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และขอบคุณครอบครัวช่อง 3 ขอบคุณแฟนข่าว และขอบคุณทุกกำลังใจ จนกว่าเราจะพบกันใหม่ครับ”

cr.facebook สรยุทธ สุทัศนะจินดา

7. วันที่ 29 ส.ค.2560 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษา “ศาลอุทธรณ์” คดีไร่ส้ม โดยพิพากษา “ยืนตามศาลชั้นต้น” จำคุกจำเลยทั้งหมด นายสรยุทธ ขอสู้คดีต่อที่ศาลฎีกา

8. วันที่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกา คดีไร่ส้ม นับเป็นบทสรุปสุดท้ายที่ใช้เวลาต่อสู้คดีมาเกือบ 10 ปี  และเป็นวันชี้ชะตาของ “นักเล่าข่าว” ชื่อดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่ต้องมารอลุ้นว่าจะจบอย่างไร!


แชร์ :

You may also like