ถือว่าขึ้นบันไดขั้นแรกไปได้อย่างสวยๆ หลังประกาศความพร้อมเพื่อเป็นสตรีทฟู้ดรายแรกที่สามารถเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ซึ่งเพียงแค่ปีแรกของการแต่งตัว เตรียมความพร้อมให้ธุรกิจ บริษัท ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จำกัด ก็ทำยอดขาย Top Form ในปี 2562 ที่มีแนวโน้มสร้างการเติบโตได้มากที่สุดในรอบ 25 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจมาเลยทีเดียว ด้วยตัวเลขยอดขายปี 2562 ที่คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับการแนวโน้มการเติบโตของบริษัทนั้น คุณอิทธิพัทธ์ ภูกิจจีรภรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ชายสี่หมี่เกี๊ยว จำกัด ให้เหตุผลว่า มาจากการทำตลาดและสื่อสารแบรนด์เชิงรุก เพื่อทรานสฟอร์มธุรกิจจาก Family Business สู่ความเป็นมืออาชีพ และเร่งสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อผู้บริโภคและนักลงทุน รวมทั้งการเพิ่มทีมงานมืออาชีพมาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ ทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มแฟรนไชส์ที่ต้องการเข้ามาร่วมธุรกิจกับชายสี่ รวมทั้งคู่ค้าทางธุรกิจต่างๆ ที่สนใจเสนอโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจเข้ามาเป็นจำนวนมาก
เพิ่มกองรบ สร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
ส่วนการเร่งเครื่องเพื่อบุกตลาดในปี 2563 นั้น ทางชายสี่ ได้เพิ่ม BU และ ช่องทางขายใหม่ เพื่อโฟกัสการสร้างโอกาสเติบโตใหม่ๆ ให้ธุรกิจโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็กต์พิเศษร่วมกับคู่ค้าธุรกิจต่างๆ การพัฒนาแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม หรือการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ นอกเหนือจากแนวทางการเติบโตเดิมๆ จากยอดขายวัตถุดิบและการขายแฟรนไชส์รถเข็นแบรนด์ต่างๆ ที่มีอยู่ โดยปัจจุบันมีจำนวนรถเข็นรวมทั้งประเทศกว่า 4,500 คัน ขณะที่รายได้ 80% มาจากการขายวัตถุดิบ ส่วน 20% มาจากธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งแฟรนไชส์ที่ลูกค้านิยม 90% ยังคงเป็นบะหมี่หมูแดง ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว โดยมียอดเปิดรถเข็นแฟรนไชส์รายใหม่ๆ เข้ามาโดยเฉลี่ยประมาณ 100 คันต่อเดือน
“ปี 2563 ชายสี่จะรุกธุรกิจใหม่มากขึ้น หลังจากปี 2562 ได้มีการแนะนำแบรนด์ใหม่อย่างชานมไข่มุก “ชายัง” ให้ตลาดรู้จักและมีแฟรนไชส์แล้วราว 35-40 สาขา ส่วนปี 2563 จะขยับเข้ามาในเซ็กเม้นต์อาหารพร้อมทาน ด้วยการจำหน่าย ชายสี่ บะหมี่พร้อมทาน ในรูปแบบ Frozen Food โดยเริ่มแนะนำ 2 เมนูแรก คือ บะหมี่ผัดกระเพราไก่ และผัดขี้เมาไก่ ที่ใช้เส้นบะหมี่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชายสี่เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งเส้น และการปรุงรสชาติพิเศษตามสูตรของชายสี่ เพื่อจำหน่ายเป็นเมนูพิเศษ ผ่านทางร้าน PT MAX MART จำนวน 200 สาขา รวมทั้งได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อผลิตอาหารพร้อมทานในเมนูใหม่เพิ่มเติม สำหรับจำหน่ายผ่านช่องทางร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ประมาณ 1,500-2,000 สาขา ประมาณเดือน กุมภาพันธ์ 2563 โดยคาดว่าตลอดทั้งปี จะมีเมนูอาหารพร้อมทานออกมาได้ ไม่ต่ำกว่า 10 เมนู”
ทั้งนี้ การเพิ่มช่องทางใหม่ให้ธุรกิจถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญ ด้วยการสร้างโอกาส สร้างตลาดใหม่ให้ธุรกิจเพิ่มโอกาสที่จะเติบโตได้รวดเร็วมากขึ้นเป็นเท่าตัวจากขาธุรกิจใหม่ๆ หรือเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปในช่องทางร้านสะดวกซื้อ หรือโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ ที่มีสาขากระจายเป็นหลักร้อย หลักพัน ทั่วประเทศ รวมทั้งการเปิดโอกาสในการ Collaborate กับคู่ค้าธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย ซึ่งในปีนี้น่าจะเห็นความเคลื่อนไหวใหม่ๆ จากทางชายสี่บะหมี่เกี๊ยวออกมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การขับเคลื่อนของ BU ใหม่นี้ และคาดว่าจะสร้างรายได้ในปีแรกประมาณ 100 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของยอดขายโดยรวม และสามารถสร้างการเติบโตได้เป็นเท่าตัวในปีต่อๆ ไป
เร่งเครื่องต่างประเทศ เล็งตั้งโรงงานในลาว
นอกจากการเติบโตแบบ Top Form สำหรับตลาดในประเทศแล้ว ในการรุกตลาดต่างประเทศ ก็มีความเคลื่อนไหวสำคัญเช่นกัน โดยเตรียมลงทุนหลักสิบล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบในลาว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เติบโตได้เป็นอย่างดี รองจากไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนรถเข็นกว่า 70 คันแล้ว จึงเห็นว่าควรมีฐานการผลิตเพื่อรองรับธุรกิจในพื้นที่แทนการนำเข้าจากประเทศไทย โดยปี 2563 คาดว่าจะเติบโตได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดลาวที่เติบโตได้อย่างน่าพอใจ
สำหรับความคืบหน้าในการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะในเรื่องของระบบต่างๆ เนื่องจาก ที่ผ่านมา ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวดำเนินธุรกิจในลักษณะ Family Business มาไม่ต่ำกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้บางส่วนยังมีการบริหารงานแบบระบบเดิมๆ ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งการเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ให้มีภาพลักษณ์แบบมืออาชีพมากขึ้น มีการวางกลยทุธ์เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่าจะสามารถเป็นธุรกิจที่มีกำไรคุ้มค่าสำหรับการลงทุนมากที่สุด
“แม้เราจะทำรายได้แตะหลักพันล้านบาทและสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย แต่ต้องการทำให้ธุรกิจมีความพร้อมมากที่สุดก่อนจึงจะเข้าไประดมทุนในตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างสูงสุด โดยจากนี้จะพยายามสร้างความน่าเชื่อถือทั้งต่อผู้บริโภคและนักลงทุน พิสูจน์ศักยภาพและความแข็งแรงของธุรกิจด้วยการเติบโตได้ต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านที่เตรียมมา Disrupted ธุรกิจ ซึ่งโจทย์สำคัญที่ชายสี่ต้องทำให้ได้ คือ การรักษา Brand Loyalty ทำอย่างไรให้ทุกคนยังมีความเชื่อมั่นในแบรนด์เรา แม้จะมีตัวเลือกมากขึ้น การแข่งขันรุนแรงขึ้น ทำให้เราไม่สามารถหยุดนิ่งได้ และต้องพยายามหาโซลูชั่นส์ใหม่ๆ เพื่อทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ รวมทั้งการเพิ่มช่องทางใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างสะดวกและจากหลากหลายช่องทาง”
ในส่วนภาพรวมรายได้สิ้นปี 2563 ทางชายสี่ตั้งเป้าการเติบโตไว้ค่อนข้าง Aggressive ที่ราว 20% เพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปี รวมทั้งมีแผนแตกไลน์ธุรกิจอาหารไปในหลากหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้น อาทิ รูปแบบภัตตาคารภายใต้ชื่อ ชายสี่ แฟคตอรี่ ทั้งที่เป็นสแตนอะโลนและสาขาในศูนย์การค้า, รูปแบบฟู้ดทรัค, อาหารแช่แข็งพร้อมทาน รวมทั้งการให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว และได้นำช่องทางสื่อสารแบบออนไลน์มาใช้ทั้งในแง่ของการสื่อสารและระบบเพย์เม้นต์เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน