HomeSponsoredLAMINA เผย 6 เคล็ด (ไม่) ลับสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นยุค 4.0 เพราะ #ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ

LAMINA เผย 6 เคล็ด (ไม่) ลับสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นยุค 4.0 เพราะ #ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ

แชร์ :

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“ขอของแถมเยอะ ๆ เอาฟิล์มอะไรก็ได้ บานหน้า 40 รอบคัน 60”  เคยเจอประสบการณ์นี้กันมาบ้างมั้ย? ก็เพราะฟิล์มติดรถยนต์เป็นของแถมที่แทบจะเรียกได้ว่า must have ไปแล้วสำหรับการซื้อรถใหม่ป้ายแดงจากโชว์รูมรถยนต์ จึงมีลูกค้าจำนวนมากที่เห็นรายชื่อฟิล์มแล้วก็รู้สึกคุ้นหูคุ้นตาทั้งนั้น งั้นเอาอะไรก็ได้! และทำให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวตามมามากมาย

นี่จึงกลายมาเป็นอินไซต์ที่ ลามิน่า(Lamina) แบรนด์ฟิล์มกรองแสงชื่อดังหยิบขึ้นมาพูดในแคมเปญล่าสุด ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ ที่ต้องการบอกให้รู้ว่าฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์แต่ละยี่ห้อนั้นต่างกัน และสำคัญมากกว่าที่คิด ซึ่งเป็นความแปลกใหม่ที่น่าสนใจ ในการที่แบรนด์ฟิล์มติดรถยนต์เลือกพูดในเชิง Emotional ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เราจึงอยากชวนมาดู 6 ข้อ เคล็ด(ไม่)ลับของการสร้างแบรนด์ให้น่าจดจำในยุค 4.0 ในสไตล์ของลามิน่า ที่เราถอดออกมาได้ดังนี้

1. ไอเดียจากใจเจ้าของธุรกิจ

จุดเริ่มต้นของแคมเปญ ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ มาจากประสบการณ์จริงของ คุณจัน (คุณจันทนภา สายสมร แห่ง LAMINA FILMS) ที่มีโอกาสรับรู้ประสบการณ์ตรงของคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติสนิท หรือพนักงานในบริษัทที่เคยใช้ฟิล์มคุณภาพต่ำมาก่อน แล้วเจอปัญหากันร้อนไม่ดีเหมือนที่โฆษณา ใช้ได้ไม่นานฟิล์มก็ลอก เป็นฟอง บดบังทัศนวิสัยการขับขี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ พี่จัน เป็นห่วงผู้ใช้รถคนไทยมาก เพราะผลเสียจากการเลือก #ฟิล์มอะไรก็ได้ ส่งผลถึงความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง พี่จัน จะบอกต่อความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงแก่คนรอบตัวเสมอ ไม่โฆษณาเว่อร์เกินจริง จึงเป็นที่มาของแคมเปญ ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ ซึ่งนอกจากจะสื่อถึงจุดยืนของแบรนด์แล้ว ยังแทนความในใจจากผู้บริหารที่ต้องการให้ฟิล์ม LAMINA ดูแลผู้ใช้รถอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

2. เข้าใจความคิดลูกค้า เมื่อถูกมองเป็นแค่ของแถม

หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ต่อรองกับเซลล์เรื่องของแถมตอนออกรถคันแรก หนึ่งในนั้นก็จะมีเรื่องของฟิล์มที่ไม่ได้เลือกเฉพาะเจาะจงอะไรนอกจากระดับความสว่าง หรือคุณอาจเป็นคนหนึ่งที่เคยเชื่อรีวิวฟิล์มรถจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่ไม่น่าเชื่อถือ ความคิดเหล่านี้เองที่ทำให้ลูกค้าต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวมากมายภายหลัง ทั้งฟิล์มลอก เบลอ สีไม่เท่ากัน ไม่กันร้อน LAMINA จึงเปลี่ยน Functional Benefit ที่คนไทยละเลย มาเป็นการสื่อสารที่มี Emotional Connection เหมือนเพื่อนห่วงเพื่อนว่า “ติดฟิล์มอะไรก็ได้ … ไม่ได้นะ”

3. คิดให้ลึกถึง HUMAN INSIGHT

“It isn’t the customer’s job to know what they want – Steve Jobs” ที่ลูกค้ายอมจ่ายซื้อสมารท์โฟนระดับไฮเอนด์ เพราะเขาต้องการซื้อ “ความเหนือระดับทุกครั้งที่ได้ถือ” นี่แหละคือ HUMAN INSIGHT เสียงความต้องการในใจลึก ๆ ที่นักการตลาดหรือครีเอทีฟต้องค้นให้เจอ ซึ่ง LAMINA ก็เข้าใจคนออกรถใหม่อย่างดี ว่าออกรถมาใช้ทั้งทีไม่ได้มีไว้ขับคนเดียว บางคนขับไปรับ – ส่งลูก บางคนขับพาแฟนไปกินข้าว ฉะนั้นสำหรับคนที่มองหาฟิล์มคุณภาพ เค้าไม่ได้ซื้อแค่ฟิล์มกรองแสง แต่เขาเลือกสิ่งดี ๆ ไว้ดูแลคนสำคัญอีกด้วย

4. คำพูดง่าย ๆ โดนใจทุก GEN

ในตลาดฟิล์มกรองแสงที่แทบทุกแบรนด์เคลมตนเองว่าเป็นอันดับ 1 การขายสินค้าด้วย Functional Benefit เพียงลำพัง ไม่อาจสร้างความแตกต่างที่น่าจดจำได้ LAMINA จึงพลิกแนวคิดการเขียน Solution Message ให้เป็นภาษาเรียบง่าย ที่ไม่ว่าจะพูดโดยใครก็น่าฟัง นั่นคือ #ก็เค้าห่วง พูดโดยแบรนด์ก็สร้าง Perception ที่เป็นกันเอง จริงใจ พูดโดย End user ก็ฟังดูไม่ขายเกินไปแชร์ได้ไม่ขัดเขิน และยังสะท้อนความห่วงใยจาก LAMINA ที่นำเข้าฟิล์มกรองแสงคุณภาพสู่คนไทยเสมอ จนยืนหยัดเป็นผู้นำในตลาดมานานกว่า 25 ปี

5. หนัง HERO อารมณ์ดี อมยิ้มจนต้องแชร์

LAMINA เข้าใจว่าคนไทยชอบความสนุก ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปีขึ้นไปที่มีแนวโน้มออกรถคันแรก มักจะเริ่มคบหาแฟนจริงจัง หรือมีครอบครัวสร้างฐานะมั่นคงระดับหนึ่งแล้ว การใช้หนังสั้นอารมณ์ดี ชมแล้วอมยิ้ม เป็นเครื่องมือสื่อสาร จึงถูกใจกลุ่มเป้าหมายและช่วยสร้าง Awareness ของแคมเปญได้เป็นอย่างดี นี่คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำการตลาดยุค 4.0 ยิ่งธุรกิจเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าชอบหรือสนใจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

“เมื่อรัก ต้องเลือก”

https://www.facebook.com/FilmLamina/videos/687470545084028/

 

“เชื่อเค้า เชื่อใคร”

https://www.facebook.com/FilmLamina/videos/731824907243196/

6. ไม่หยุดแค่การโฆษณา

อีกหนึ่งความน่าสนใจของแคมเปญนี้คือแบรนด์ไม่ได้หยุดแค่การทำหนัง แต่ยังวางอินไซต์ที่ถูกแปรรูปเป็นข้อมูลที่น่าสนใจไว้ตาม Touch Point ต่างๆ ของ Lamina จนครบลูป ซึ่งจะพากลุ่มเป้าหมายไปพบคอนเทนต์ที่แสดงถึงความห่วงใยหลากหลายรูปแบบทั้ง Facebook Official ที่มี Infographic นำเสนอความรู้เกี่ยวกับการเลือกฟิล์มกรองแสง, Realtime Content ติดอารมณ์ขันส่งความห่วงใยถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย การส่งความห่วงใยผ่าน KOL (Key Opinion Leader) ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายหลากหลายกลุ่ม หรือ Website ที่มีภาพจำลองการติดตั้งฟิล์มรุ่นต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพราะสำหรับ LAMINA การทำการตลาดยุค 4.0 ไม่ควรหยุดแค่เพียงการทำ TVC แล้วจบกัน แต่ต้องสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภครู้สึกจริง ๆ ว่า #ก็เค้าห่วง เหมือนคำกล่าวว่า People will forget what you said, People will forget what you did, But people will never forget how you made them feel, Maya Angelou

รายละเอียดเพิ่มเติม LAMINA FILMS  https://bit.ly/2nNDSPa

 

 


แชร์ :

You may also like