HomeBrand Move !!‘บล๊อคเชน’ เวิร์คมาก SCG เผยผลใช้จริง 1 ปี ทุ่นเวลาระบบจัดซื้อจัดจ้าง ได้ 50%

‘บล๊อคเชน’ เวิร์คมาก SCG เผยผลใช้จริง 1 ปี ทุ่นเวลาระบบจัดซื้อจัดจ้าง ได้ 50%

แชร์ :

Blockchain ระบบโครงข่ายซึ่งมีลักษณะเครือข่ายใยแมงมุม ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การทำธุรกรรมในอนาคต สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงสถิติอื่นๆ โดยไม่มีตัวกลาง นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆ ได้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ทั้ง 22 แห่งในไทย เปิดตัว บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสร้างระบบ Blockchain สำหรับภาคธนาคารใช้งานร่วมกัน โดยบริการแรกคือหนังสือค้ำประกัน ที่ลดความยุ่งยากในกระบวนการรับส่งเอกสาร

ขณะที่ทางฝัง เอสซีจี เป็นอีกหนึ่งธุรกิจรายใหญ่ที่ได้นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง-วางบิล-ชำระเงิน หรือที่เรียกว่า B2P” (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) ระหว่างเอสซีจีและคู่ค้าธุรกิจ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของเดิมที่มีขั้นตอนต้องตรวจสอบมากมาย ทำให้สูญเสียเวลาการทำงานในแต่ละวันค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ ระบบ B2P พัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยใช้ Corda for Enterprise ของบริษัท R3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรชั้นนำต่างๆ เช่น โครงการอินทนนท์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น

การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Digital Transformation หรือการปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านการสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญอย่าง “ดิจิทัล เวนเจอร์ส” ซึ่งเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินชั้นนำ เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจขององค์กรให้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเริ่มใช้งานแพลตฟอร์ม B2P กับคู่ธุรกิจกว่า 240 ราย ที่ทำรายการจัดซื้อจัดจ้าง (Purchase Order) ประเภทวัตถุดิบ (Raw Materials) วัสดุสิ้นเปลือง (Supply) วัสดุอะไหล่ (Spare Part) และการให้บริการ (Service)

ลดเวลา 56,000 นาทีต่อวัน

กว่า 1 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม B2P ช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง-วางบิล-ชำระเงิน ได้กว่าร้อยละ 50 เหลือเฉลี่ย 35 นาที จาก 70 นาทีต่อรายการ จากการลดขั้นตอนในการรับ-ส่งข้อมูลและการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ทำให้สามารถลดระยะเวลาที่ใช้ในการทำรายการตลอดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต่อวันได้ 56,000 นาที อ้างอิงจากปริมาณรายการต่อวันเฉลี่ย 1,600 รายการหากมีคู่ธุรกิจเข้าใช้งานแพลตฟอร์มตามแผน

รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนต่อรายการได้ร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับกระบวนการทำงานแบบเดิม และทำให้การทำงานมีความกระชับและคล่องตัว (Lean Process) มากขึ้น จึงสามารถเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะให้สามารถทำงานอื่นที่มีคุณค่ากับองค์กรและผู้มีส่วนได้เสียได้มากขึ้น เช่น การพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจได้

รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างอีโคซิสเทม ที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ คู่ธุรกิจยังได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้งานแพลตฟอร์ม B2P กับเอสซีจี เพราะทำให้สามารถตรวจสอบสถานะของรายการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งได้รับชำระเงินตรงตามกำหนด จากขั้นตอนการตรวจสอบรายการที่มีความรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้คู่ธุรกิจสามารถทำเรื่องขอสินเชื่อจากธนาคาร (Invoice Financing) บนระบบ B2P ได้สะดวกรวดเร็ว จึงทำให้คู่ธุรกิจเกิดสภาพคล่องทางธุรกิจมากขึ้น

ถือได้ว่าเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง-วางบิล-ชำระเงิน มีความน่าเชื่อถือ (Reliability) สร้างอีโคซิสเทม (Ecosystem) ที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง (High Security) เนื่องจากแต่ละรายการถูกเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยและไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เกี่ยวข้องในเครือข่าย ช่วยลดความผิดพลาดได้ดียิ่งขึ้น จากการที่ระบบสามารถตรวจสอบรายการในจุดต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติและแม่นยำ

โดยเอสซีจี ได้สร้างการมีส่วนร่วมกับคู่ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และให้คำปรึกษา ตั้งแต่การเริ่มต้นใช้งานไปจนถึงการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน ให้ทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม B2P ได้อย่างดีที่สุด

ปัจจุบัน เอสซีจี อยู่ระหว่างการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานบนแพลตฟอร์ม B2P เพื่อขยายผลไปยังประเภทการจัดซื้อจัดจ้างอื่นๆ โดยตั้งเป้าให้มีจำนวนคู่ธุรกิจที่เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์ม B2P 2,400 ราย ภายในปี 2563 รวมถึงศึกษากระบวนการส่วนที่เป็นการขายสินค้าและบริการของเอสซีจีให้ลูกค้าหรือผู้แทนจำหน่าย ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการส่งใบเรียกเก็บเงิน (Bill Presentment) การเก็บรวบรวมเอกสาร (Collection) และการจ่ายเงิน (Payment)

ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในมุมต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า ภายใต้การดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ความปลอดภัย สามารถป้องกันความเสี่ยงด้านการทุจริต คงความน่าเชื่อถือของข้อมูล และความแข็งแรงของระบบ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2Q0SUhR

 


แชร์ :

You may also like