HomeDigitalตามดูไอเดียสตาร์ทอัพญี่ปุ่น “Vaak” จับตา (ว่าที่) โจรด้วย AI รู้และแจ้งเตือนตั้งแต่ก่อนหยิบ!

ตามดูไอเดียสตาร์ทอัพญี่ปุ่น “Vaak” จับตา (ว่าที่) โจรด้วย AI รู้และแจ้งเตือนตั้งแต่ก่อนหยิบ!

แชร์ :

การทำงานของ AI จาก Vaak (ขอบคุณภาพจาก Bloomberg)

เชื่อว่าคงไม่มีใครเป็นโจรโดยกำเนิด และคงไม่มีใครอยากจะทำเรื่องไม่ดี นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุให้ (ว่าที่) โจรหลาย ๆ คนเกิดอาการกระสับกระส่าย อยู่ไม่สุขเวลาจะต้องขโมยของตามร้านสะดวกซื้อ ภาษากายเหล่านี้ได้ถูกสตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่น “Vaak” นำมาพัฒนาต่อด้วย AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์ และตรวจจับบุคคลที่มีแนวโน้มจะ “ขโมยของ” ผ่านกล้องวงจรปิดได้อย่างเหนือชั้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

อย่างไรก็ดี จุดประสงค์ของการพัฒนาระบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจรกรรมมากกว่าจะเป็นการจับตัวผู้ร้ายเพื่อนำส่งตำรวจ โดยหากพนักงานในร้านสะดวกซื้อได้รับคำเตือนจากระบบว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดการขโมยของขึ้น พนักงานก็เพียงเดินไปที่ผู้ต้องสงสัย เพื่อทักทาย พูดคุย หรือถามว่าต้องการความช่วยเหลือไหม คน ๆ นั้นก็อาจล้มเลิก และเปลี่ยนใจไม่ขโมยของแล้วนั่นเอง

ชื่อของ Vaak ยังเคยเป็นข่าวพาดหัวเมื่อปีที่ผ่านมา หลังถูกนำไปทดสอบที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในโยโกฮามา ที่เกิดเหตุการณ์ถูกขโมยของแต่ไม่สามารถจับตัวหัวขโมยได้ แต่เมื่อนำระบบเข้าไปติดตั้งและวิเคราะห์จากภาพในกล้องวงจรปิด ระบบก็สามารถชี้เป้าผู้ต้องสงสัยได้ และนำไปสู่การจับตัวหัวขโมยในไม่กี่วันต่อมา

“ขโมยของ” ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของโลกค้าปลีก

หลายคนอาจมองการขโมยในร้านสะดวกซื้อเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะสินค้ามีมูลค่าไม่มากนัก แต่ข้อมูลจาก Tyco Retail Solutions ระบุว่า ปัญหาการโจรกรรมนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก เฉพาะในปี 2017 ค่าใช้จ่ายก้อนนี้คิดเป็นมูลค่าถึง 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากธุรกิจค้าปลีกสามารถจัดการปิดจุดอ่อนนี้ได้ ก็จะสามารถลดรายจ่ายไปได้อีกมากโข

ประกอบกับข้อมูลจาก IDC ที่ระบุว่า ธุรกิจค้าปลีกมีแผนจะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ราว 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้ Vaak มีโอกาสเข้ามาในตลาดค้าปลีกได้เร็วขึ้น

“ข้อดีของ Vaak คือการเป็นระบบวิเคราะห์ที่สามารถทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิดได้ เพราะธุรกิจค้าปลีกทั้งในสหรัฐอเมริกา และหลายประเทศทั่วโลกต่างติดตั้งกล้องเหล่านี้เอาไว้ในห้างอยู่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขาแค่ซื้อซอฟต์แวร์ไปใช้เฉย ๆ ไม่ต้องลงทุนด้านอุปกรณ์เพิ่มเติมแต่อย่างใด” Thomas O’Connor นักวิเคราะห์จาก Gartner กล่าว สอดคล้องกับการเปิดเผยของ Ryo Tanaka ผู้ก่อตั้ง Vaak ที่บอกว่า ปัจจุบัน ระบบของ Vaak ได้เริ่มติดตั้งใช้งานแล้วในร้านสะดวกซื้อ และเชนร้านขายยาในญี่ปุ่น

โดย Vaak ตั้งเป้าไว้ว่า บริษัทจะขยายการให้บริการ AI ตรวจจับขโมยนี้ไปยังร้านค้าต่าง ๆ ให้ได้ 100,000 แห่งภายในสามปี

อย่างไรก็ดี AI ของ Vaak ไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะ Takana เผยว่ามีแผนจะนำ AI ไปวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาในร้านค้าปลีกว่ามีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสินค้า เพื่อให้ทางร้านนำไปปรับปรุงการจัดวางสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หรือในแง่ของพื้นที่สาธารณะ หลายคนอาจทราบกันดีว่า ในญี่ปุ่นมักมีผู้กระโดดลงไปบนรางรถไฟเพื่อฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้ง Tanaka จึงมองว่า อาจนำ AI เข้าไปช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้โดยสารตามชานชาลารถไฟ เพื่อป้องกันการก่อเหตุฆ่าตัวตายได้ล่วงหน้า เป็นต้น

ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการระดมทุนซีรีย์เอ มูลค่า 1 พันล้านเยน โดยได้รับเงินลงทุนจากกองทุนด้าน AI ของ SoftBank มาแล้ว 50 ล้านเยน

Source


แชร์ :

You may also like