หลังจากสยามดิสคัฟเวอรี่ ปรับโฉมใหม่ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ด้วยคอนเซ็ปต์ Siam Discovery Hybrid Retail Store และพลิกโฉมไปสู่ศูนย์การค้า ที่โดดเด่นสุดพลังแห่งการดีไซน์ และเปิดให้บริการไปเมื่อปี2559 ล่าสุดในปี2561 นี้ สยามดิสคัฟเวอรี่ ได้คว้ารางวัลศูนย์การค้าไฮบริด รีเทล สโตร์ (Hybrid Retail Store) แห่งแรกในประเทศไทย ระดับโลก และรางวัลด้านต่างๆอีกมากมาย
5 เหตุผล ชนะเลิศศูนย์การค้าระดับโลก สำหรับปัจจัยที่ทำให้ สยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นศูนย์การค้าหนึ่งเดียวในไทย ที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนั้น มีอะไรบ้าง เราลองมาดูกัน
1. ด้านนวัตกรรมละการออกแบบ (Innovation และ Design) คีย์หลักสำคัญ ที่ทำให้ สยามดิสคัฟเวอรี่ ศูนย์การค้าไทย ชนะรางวัลระดับโลกในปี 2018 นี้ จากการแข่งกับธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก รวมถึงศูนย์การค้าชั้นนำทั้งจากฝั่งอังกฤษและอเมริกา ด้วยรางวัล ICSC VIVA Awards, the 2018 VIVA (Vision-Innovation-Value-Achievement) Design Development Award Winner
ทั้งนี้ สยามดิสคัฟเวอรี ยังเป็นศูนย์การค้าแห่งเดียวในประเทศไทย และในโลกที่ได้รับรางวัลสูงสุด ถือเป็นที่สุดแห่งที่สุดของรางวัลเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจ ที่โดดเด่นทั้งด้านศูนย์กลางแห่งการจับจ่ายซื้อสินค้า ที่มีการพัฒนาและออกแบบอย่างยั่งยืน รวมถึงด้านการตลาด และการให้บริการแก่ลูกค้าด้วยมาตรฐานบริการระดับโลก
โดยผู้ที่ได้รับรางวัลระดับโกลด์ วินเนอร์ส ในเวทีระดับภูมิภาค(ICSC’s regional) ยังจะถูกบรรจุรายการให้เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติในระดับโลก (Prestigious Global Awards Program) โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
2. แหล่งรวมแบรนด์ชั้นนำ ในหนึ่งเดียว จากการวางตำแหน่งสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่เป็นไฮบริด รีเทล สโตร์ ที่เน้นดีไซน์ ทำให้แบรนด์ต่างๆที่คัดสรรมาไว้ในสยามดิสคัฟเวอรี่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทีเดียว แถมยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทั้ง Palmer Harding, Karl Lagerfeld, Stine Goya รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายอย่าง Barbour, Porter และอีกมากมาย รวมถึง Flagship Store ของ LOFT ที่ใหญ่และดีที่สุด แหล่งรวมของมีดีไซน์ และ Stationary สุดเจ๋งก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
3. อีโค ไลฟ์สไตล์ ที่แท้จริงเกิดขึ้นที่ Ecotopia ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ลงตัวกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Eco Lifestyle) ทำให้ทุกคนได้สุขภาพที่ดีและการมีสิ่งแวดล้อมยั่งยืนด้วยสินค้าออแกนิคสัญชาติไทยระดับอินเตอร์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปเพิ่มไอเดียเชิงสร้างสรรค์ตามแบบฉบับอีโค่ กรีน เพื่อให้คนเมืองใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์
4 ที่สุดของศูนย์ฯตอบโจทย์ Lifestyle คนเมือง สยามดิสคัฟเวอรี ยังได้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองไว้อย่างครบครัน ทั้งแบรนด์สินค้าแฟชันชั้นนำต่างๆรวมถึงร้านอาหารชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นร้าน Eric Kayser, I+D style Cafe x Brave Roasters หรือ Jamie’s Italian ของเชฟ Jamie Oliver ที่เปิดที่นี่ที่แรกและที่เดียว ส่วนบนชั้น 4 ให้บริการโซน My Kitchen (Co-Kitchen spce) แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำที่เตรียมเสิร์ฟให้ลูกค้าไปพร้อมกับวิวกรุงเทพฯ
5 แคมเปญ ‘Summer Exploratorium’ กับเอนเกจเมนต์ระดับโลก
และเพื่อตอกย้ำถึงความสำเร็จของสยามดิสคัฟเวอรี่ ในเวทีค้าปลีกระดับโลก สยามดิสคัฟเวอรี ยังได้จัดกิจกรรมการตลาดสุดฮอต ด้วยแคมเปญ ‘Summer Exploratorium ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคมนี้ พร้อมร่วมกับ ‘EyeEm’ เว็บไซด์รวบรวมภาพถ่ายระดับโลก (Global Scale) สร้างปรากฏการณ์ Global Engagement เชิญชวนให้มีผู้ร่วมกิจกรรมติดแฮชแทค #GodiscoverSummer จากทั่วโลกกว่า 70,000 คน พร้อมรวบรวมภาพถ่ายของผู้ชนะที่ออกไป #GoDiscoverSummer มาจัดเป็น Installation ภายในศูนย์ฯ ที่รวม Summer สุดเท่ของทุกคนไว้ที่สยามดิสคัฟเวอรี่แห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันต่างๆภายใต้แคมเปญ ‘Summer Exploratorium เข้ามาเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้กับนักช้อป ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์แห่งความเพลิดเพลินในการจับจ่าย ประกอบด้วย
- ซื้อสินค้าครบ 2,500 บาท รับสิทธิ์จับฉลากลุ้นของรางวัลมูลค่ากว่า 20,000 บาท
- ซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท รับฟรีทันทีคูปองส่วนลดมูลค่า 300 บาท
- ซื้อสินค้าครบ10,000 บาท รับฟรีทันทีคูปองส่วนลดมูลค่า800 บาท
- สมัครสมาชิกใหม่Viz (Viz member) รับฟรีทันทีคูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท
- สำหรับเอ็กคลูซีฟ พริวิเลจ ธนาคารกสิกรไทย รับทันทีส่วนลดพิเศษมากกว่า 22%
- รับอัตราดอกเบี้ย 0% นานกว่า10 เดือน เมื่อเลือกแผนการผ่อนชำระสินค้า
สำหรับกิจกรรมการตลาดภายใต้แคมเปญ ‘Summer Exploratorium วางกลุ่มเป้าหมายหลักนักช้อปคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-40 ปี รวมถึงช้อปอะฮอลิค จากทั่วทุกมุมโลก ที่หลงไหลการช้อปปิง และชื่นชอบงานศิลปะสุดคูล ณ ศูนย์กลางแห่งการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สมผสานความอาร์ท ณ ใจกลางเมืองแห่งนี้
Key Success สยามดิสคัฟเวอรี่
จากการปรับโฉมใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรีที่นำไปสู่ความสำเร็จ จนได้รางวัลระดับโลกมาครอบครองนั้น ทำให้เราสนใจว่า อะไรคือปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ในเวทีระดับอินเตอร์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
หากลองมาถอดส่วนประกอบศูนย์แห่งนี้ดู จะเห็นได้ชัดว่ามาจากการวางตำแหน่งของสยามดิสคัฟเวอรี ที่สร้างจุดต่างที่เด่นชัดไปจากรีเทลสโตร์แบรนด์อื่นๆในทำเลเดียวกัน ที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับผู้บริโภคยุคใหม่ที่ก้าวล้ำนำยุค ไม่ยึดติดกับแบรนด์สินค้าต่างๆ แต่จะสร้างเอกลักษณ์ของตนเองตามแรงบันดาลใจ และพร้อมที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่ Siam Discovery – The Exploratorium ยังกำหนดให้โพสิชั่นนิ่งตัวเองเป็นสนามทดลองที่ยิ่งใหญ่แห่งการการสร้างสรรค์สำหรับทุกคน ได้เข้ามาเพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการสร้างเอกลักษณ์ให้ตนเองได้อย่างอิสระในการเลือกชมสินค้าในพื้นที่เปิดกว้าง ค้นหาและค้นพบสินค้าและบริการต่างๆ จากเรื่องราวที่แต่ละคนสนใจ และเป็นแหล่งนัดพบของกลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันที่จะมาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแรงบันดาลใจ ในบ้านหลังใหญ่แห่งการค้นพบที่ไม่มีวันสิ้นสุด
นับว่าถูกจริตเป็นที่สุดสำหรับนักช้อปยุคมิลเลเนียม ในเวลานี้