HomeBrand Move !!อารียา พรอพเพอร์ตี้ ชูต้นแบบการพัฒนาความรู้และทักษะบุตรหลานแรงงาน นำร่อง “ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง”

อารียา พรอพเพอร์ตี้ ชูต้นแบบการพัฒนาความรู้และทักษะบุตรหลานแรงงาน นำร่อง “ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง”

แชร์ :

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูงในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เน้นการสร้างความสุขและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนมาตลอด 3 ปี (Sustainable Happiness) นำร่องสร้างศูนย์การเรียนรู้ในสถานที่ก่อสร้าง มุ่งพัฒนาความรู้และทักษะบุตรหลานแรงงาน ส่งเสริมและดูแลด้านบุคลากรที่เป็นแรงงานในทุกระดับ เพื่อการทำงานที่มีความสุข “สุขที่ยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างบ้าน” ส่งผลถึงการสร้างงานที่มีประสิทธิภาพ

ดร.ทวีรัก กลิ่นสุคนธ์  ผู้อำนวยการสายงานส่งเสริมพัฒนามาตรฐานงาน งานชุมชนและการบริการลูกบ้าน บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อารียา พรอพเพอร์ตี้ เชื่อเรื่องความสุขที่ยั่งยืนโดยเริ่มต้นจากความสุขของบุคลากรที่เป็นแรงงานแข็งแกร่งทุกระดับ จึงสร้างสรรค์โครงการ ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง (Child Friendly Space) ขึ้น ซึ่งถูกริเริ่มจากการจัดมาตรฐานคุณภาพชีวิตแรงงานให้เกิดการดูแลพนักงานอย่างครบวงจร ลดความกังวลต่อบุตรหลานโดยให้เด็กอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุในพื้นที่ก่อสร้าง อีกทั้งยังได้รับการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์ ซึ่งอารียาฯ ได้ดำเนินกระบวนการบนพื้นฐานความคิดเป็นสำคัญ เมื่อแรงงานมีสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี ไม่มีความกังวล จะมีความพร้อมและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงความมั่นคงในด้านบุคลากรและแรงงาน หลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแรงงานคุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานที่ดีอย่างยั่งยืน

“ในปี 2558 ได้นำร่องในพื้นที่โครงการหทัยราษฎร์ โดยการประชุมหาความต้องการร่วมกับผู้ปกครองที่เป็นแรงงาน  ทำทะเบียนประวัติเด็ก ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะตามวัย การเรียนรู้การอ่านและเขียนเบื้องต้น ตลอดจนการฝึกระเบียบวินัย โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ช่วยเป็นพี่เลี้ยงและให้การอบรมอาสาสมัครในโครงการ  ศึกษาดูงานมูลนิธิรักษ์ไทยในการจัดรูปแบบการเรียนการสอน ซึ่งผลจากการริเริ่มจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่โครงการหทัยราษฎร์ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ และได้รับความพึงพอใจจากบุคลากรและแรงงานอย่างมาก หลังจากนั้นจึงได้ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน โดยจัดให้มีครูผู้สอนประจำศูนย์ฯ ดำเนินการตามแผนการเรียนการสอนที่มีมาตรฐาน รวมถึงครูจิตอาสาที่สับเปลี่ยนมาให้ความรู้พื้นฐาน และเสริมทักษะต่าง ๆ ตามช่วงอายุวัย ตลอดจนจัดกิจกรรมพิเศษ ในวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00  – 16.30 น. โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ความสามารถ เพื่อสร้างโอกาสเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาตามระบบต่อไป”

นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในปี 2558 อารียาฯ มีจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้รวมทั้งสิ้น 6 พื้นที่โครงการฯ ได้แก่ หทัยราษฎร์ ไทรน้อย บางนา บางบัวทอง รังสิตคลอง 4 และ รังสิตคลอง 5 โดยเกิดจากความตั้งใจที่มุ่งสร้างพัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชนในด้านต่าง ๆ การรู้จักใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การได้รู้จักเพื่อนใหม่ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านทักษะชีวิต รวมถึงวิชาความรู้ขั้นพื้นฐาน อาทิ วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ศิลปะ และการปลูกฝังความคิดที่ดี เช่น การปลูกต้นไม้ เพื่อให้ได้เรียนรู้และซึมซับด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสะอาด รวมถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็ก ๆ สนุกสนานและผ่อนคลายร่วมกับครอบครัว เป็นต้น

“รวมทั้ง 6 พื้นที่โครงการฯ มีจำนวนเด็กที่ได้รับโอกาสทั้งสิ้น 149 คน คิดเป็น 95% ของจำนวนเด็กทั้งหมดในแคมป์ก่อสร้าง และจำนวน 5% เป็นเด็กที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมกับครอบครัว นอกจากนี้ภายในระยะเวลากว่า 2 ปี สามารถนำพาเด็ก ๆ เข้าสู่การศึกษาตามระบบปกติได้จำนวน 24 คน แบ่งออกเป็นเด็กที่มีสัญชาติไทย 3 คน และเด็กสัญชาติกัมพูชา 21 คน ซึ่งในอนาคต ทางอารียาฯ คาดหวังให้เด็ก ๆ มีทักษะทางด้านวิชาการควบคู่ไปกับทักษะการใช้ชีวิตที่มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งส่งเสริมและผลักดันให้เด็กทุกคนสามารถเข้ารับการศึกษาในระบบการศึกษาของภาครัฐได้อย่างสมบูรณ์” ดร.ทวีรัก กล่าวทิ้งท้าย

ด้วยความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ที่ดี เดินหน้าต่อยอดพื้นที่โครงการ ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ก่อสร้าง (Child Friendly Space) โดยในอนาคตตั้งใจขยายไปในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกโซน เพื่อรองรับเด็กและเยาวชนที่เป็นบุตรหลานของแรงงานในสังกัดอารียา พรอพเพอร์ตี้ รวมถึงแรงงานในสังกัดผู้รับเหมา ได้มีโอกาสเรียนรู้เสริมทักษะอย่างรอบด้าน ส่งผลถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาเป็นเยาวชนที่ “เก่งและดี” อย่างยั่งยืน


แชร์ :

You may also like