บริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มีผู้หญิงที่ได้ดำรงตำแหน่ง CEO เพียงแค่ 6.4% มีผู้หญิงจำนวนไม่มากที่ทำงานวิศวกร และมีหัวหน้าเชฟเพียงแค่ 21% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง จากสถิติดังกล่าว เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับ “บาร์บี้” (Barbie) แบรนด์ตุ๊กตาที่อยู่เคียงข้างเด็กผู้หญิงมาทุกยุคทุกสมัย ทำแคมเปญ ‘#MoreRoleModels’ เพื่อบอกกับผู้หญิงทั้งโลกว่า พวกเธอก็สามารถเป็นบุคคลสำคัญในแต่ละสาขาอาชีพได้เช่นกัน
โดยบาร์บี้ จัดทำตุ๊กตาพิเศษ 17 ตัว จากผู้หญิงต้นแบบ 17 คน เช่น Amelia Earhart นักบินหญิงในตำนานที่บินข้ามมหาสมุทรแอคแลนติคด้วยตัวคนเดียว, Frida Kahlo ศิลปินสาวที่เรื่องราวของเธอเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว, Nicola Adams แชมป์โลกมวยหญิง, Patty Jenkins ผู้กำกับเรื่อง Wonders Woman, Hélène Darroze เชฟชาวฝรั่งเศส หรือแม้แต่ Xiaotong Guan นักแสดงสาวชาวจีน, นักคณิตศาสตร์ผิวสีที่ทำงานในนาซ่า Katherine Johnson ที่เรารู้จักเรื่องของเธอดีขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง Hidden Figures วางจำหน่ายในเดือนมีนาคม เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างแรงบันดาลใจให้กับ ผู้หญิงทั่วโลก เนื่องในวันสตรีสากล
Lisa McKnight, senior vice president และ general manager ของแบรนด์ Barbie กล่าวว่า “เรารู้ว่าคุณไม่สามารถเป็นอะไรในสิ่งที่คุณมองไม่เห็น เด็กผู้หญิงสามารถเล่นกับจินตนาการว่าเธอสวมบาทบาทอะไรก็ได้กับบาร์บี้ และเราพยายามจะส่งเสริม รวมทั้งส่องแสงสว่างให้กับเส้นทางของเด็กๆ เหล่านั้น จากจินตนาการไปสู่ความจริงให้ได้ และบอกกับพวกเธอกว่า เธอเป็นอะไรก็ได้ที่อยากจะเป็น”
นอกเหนือจากออกผลิตภัณฑ์แล้วยังมีภาพยนตร์โฆษณาที่ให้เด็กสาวกลุ่มหนึ่งมาเป็นเสียงสะท้อนความไม่เท่าเทียมในโอกาสทางอาชีพที่พวกเธอได้รับ พร้อมทั้งกระตุ้นให้ผู้หญิงลุกขึ้นสู้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง โดยมี Role Model ทั้งหลายเป็นแรงบันดาลใจ ผลงานนี้เป็นไอเดียสร้างสรรค์ของ BBDO San Francisco
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 บาร์บี้ เคยสื่อสารประเด็นทางสังคม ผ่านตุ๊กตามาแล้ว ด้วยการเปลี่ยนสีผิว สีตา และรูปร่าง ของตุ๊กตา เพื่อบอกว่า เด็กสาวทั้งหลายสามารถมีผิวพรรณและรูปร่างแบบไหนก็ได้ในแบบที่พวกเธอเป็น