HomeFeaturedD’Oro ฉลอง 18 ปี ครีเอท Specialty Blend มัดใจคอกาแฟ ย้ำภาพลักษณ์ “ตัวจริงเรื่องคุณภาพ” จาก 3 ดอย

D’Oro ฉลอง 18 ปี ครีเอท Specialty Blend มัดใจคอกาแฟ ย้ำภาพลักษณ์ “ตัวจริงเรื่องคุณภาพ” จาก 3 ดอย

แชร์ :

มีนาคม 2018 ครบรอบ 18 ปีของร้านกาแฟสัญชาติไทย D’Oro ได้เวลาต่อยอดแบรนด์ด้วยการตอกย้ำคุณค่าและคุณภาพของสินค้า ด้วยแคมเปญฉลอง 18 ปี นำเมล็ดกาแฟจาก 3 แหล่งปลูกกาแฟมาผ่านกระบวนการคั่วเพื่อดึงจุดเด่นด้านกลิ่นและรสชาติของเมล็ดกาแฟแต่ละแหล่ง แล้วเบลนด์เป็นสูตรพิเศษ D’Oro Anniversary Blend พร้อมมอบของขวัญสุดพิเศษและโปรโมชั่นมากมายแทนคำขอบคุณ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

3 ดอย 3 จุดเด่นเบลนด์พิเศษในแก้วเดียว

จากต้นกำเนิดของธุรกิจที่มีพื้นฐานจากการเป็นผู้รวบรวมและส่งออกกาแฟ ทำให้คุณวีระเดช สมบูรณ์เวชชการ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ D’Oro ที่บุกบิกธุรกิจกาแฟ ตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเข้าไปให้ความรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์กาแฟ  การปลูกการเก็บ และการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของจุดเด่นของกาแฟแต่ละชนิด คัดสรรพิเศษมาสู่ปลายน้ำส่งถึงผู้บริโภคที่ร้านดิโอโร่ และการครบรอบ 18 ปีถือเป็นโอกาสพิเศษที่ดิโอโร่ ได้ดึงความโดดเด่นของรสชาติของเมล็ดกาแฟ 3 ชนิดและนำมารวมเป็นกาแฟ Anniversary Blend พิเศษ เน้นย้ำความเจ๋งเรื่องกาแฟ โดยสินค้านั้นประกอบมาจากเมล็ดกาแฟจาก 3 ดอยของไทย อันได้แก่

1. กาแฟจากดอยมูเซอ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกนำแปรรูปด้วยขั้นตอน Natural Hydro Honey Process ทำให้กาแฟที่ได้จะมีความโดดเด่นใน ความหวาน มีความเป็นกรด และรสละมุน

2. กาแฟจากขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากกาแฟที่ปลูกบนพื้นที่สูงกว่า 1200 เมตร ในป่าที่อากาศเย็นตลอดปี ดิโอโร่นำผลกาแฟสดมาผ่านกระบวนการ washed process กาแฟที่ได้จะมี body ที่ดีมาก และมีรสชาติของ Hazelnut

3. กาแฟจากขุนลาว อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย จากผู้รวบรวบกาแฟที่ดูแลกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกกาแฟในวิถีธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี ในพื้นที่ป่าอุทยาน นำมาผ่านกระบวนการ washed process ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอม หวานอมเปรี้ยว และมี After taste ที่ดี

ดิโอโร่จับเอาความมีเสน่ห์เฉพาะตัวของกาแฟทั้ง 3 แหล่ง มาหลอมรวมกัน ด้วยระดับ การคั่ว ทั้งระยะเวลาและอุณหภูมิ ไปจนถึงสัดส่วนการผสมที่ต่างกัน คอกาแฟจะสัมผัสได้ถึง ความโดดเด่นในกลิ่น และความเป็นกรดในจิบแรกดื่ม  แต่ยังมากด้วย body ที่สัมผัสได้ และได้รสชาติของ Fruity และ Berry อื่นๆ รวมถึง  Aftertaste ที่ชุ่มคอ กลมกล่อม

“ถ้าเทียบแบรนด์เป็นคน คนอายุ 18 ปี ก็เป็นวัยรุ่นที่มีความสดใส สดชื่น แต่ก็ใช้ชีวิตมาบ้าง ดังนั้นรสชาติที่ออกมา พอลูกค้าดื่มก็จะสะท้อนความรู้สึกเดียวกัน ดื่มแล้วกระฉับกระเฉง สดชื่น รื่นคออยู่ภายใน สัมผัสถึงคุณภาพ รสชาติที่นักดื่มตัวจริง ลองสักครั้งแล้วจะติดใจ ซึ่งสำหรับคอกาเเฟที่อยากลองกาแฟ D’Oro Anniversary Blend นี้ ทางเราจัด 9 สาขา ที่จะมาในรูปเเบบของกาเเฟ Drip ให้ลูกค้าสายกาแฟได้เอนจอยกันเต็มที่” คุณนีน่า ภคมน สมบูรณ์เวชชการ Chief Operation Officer พูดถึงรสชาติของ Anniversary Blend ที่กล้าท้าให้คอกาเเฟมาลิ้มลอง

Trend ในระยะหลัง นักดื่มมีรสนิยมที่ดีขึ้น หลากหลายขึ้น มีความรู้ที่จะเสาะแสวงหากาแฟที่ถูกปาก จนกลายเป็นความท้าทายให้ผู้ประกอบการต้องเร่งสปีดพัฒนาคุณภาพสินค้า ดิโอโร่ในฐานะร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจึงจะต้องนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไป

โดยกาเเฟเบลนด์แบบลิมิเต็ด เอดิชั่นนี้ ดิโอโร่จะวางขายทุกสาขาและมีจำนวนจำกัด รวมทั้งมีพรีออเดอร์ทางออนไลน์และหน้าร้าน มีทั้งชนิดเม็ดเเละชนิดบดเเละยิ่งไปกว่านั้นเพื่อความสะดวกในการดื่มของลูกค้า ดิโอโร่ยังมีอุปกรณ์ French Press ขายคู่กันในราคาพิเศษเป็นออปชั่นเสริมอีกด้วย

“ส่วนในเรื่องของมาร์เก็ตติ้ง ตอนอายุ 18 ทุกคนต้องรักสนุก ต้องฉลองใหญ่จัดเต็มแน่นอน เราเองก็เช่นกัน เราจึงจัดแคมเปญแทนคำขอบคุณเป็นของวัญวันครบรอบที่ให้กลับไปจากทุก ๆ ยอดซื้อ 150 บาท ลูกค้าก็สามารถลุ้นรับของรางวัลมากมายจากคูปอง ตั้งแต่โทรศัพท์ iPhone X, Apple Watch, บัตรกำนัลเงินสด, ส่วนลดรวมถึงเครื่องดื่มและเบเกอรี่ที่เป็น Signature ของทางร้าน เรียกได้ว่า เราให้ใจกลับไปให้ลูกค้าทุกท่าน” คุณเอนี่ – วรรณินา สมบูรณ์เวชชการ Brand Experience Director เล่าถึงที่แคมเปญฉลอง 18 ปีของดิโอโร่

ต่างเมล็ด ต่างเรื่องราว นำมาขยายและส่งต่อ

นอกเหนือจากแคมเปญที่ไฮไลท์ความเป็นตัวจริงด้านเมล็ดกาแฟและความเป็นมืออาชีพของทีมพัฒนาโปรดักท์ จนกระทั่งบาริสต้าหน้าร้านแล้ว แคมเปญนี้ยังหวนคืนประโยชน์สู่แหล่งกำเนิด โดยรายได้จากทุกๆแก้วและซองของ Anniversary Blend จำนวน 10 บาท จะถูกนำกลับไปเป็นเงินทุนสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นพื้นที่ของชุมชนที่ปลูกกาแฟของไทย

หลังจากแคมเปญใหญ่จบลง ดิโอโร่จะนำเมนูที่เป็น Single Origin ของไทยที่นำเอาเมล็ดกาแฟจากแต่ละแห่งมาทำเป็นเมนูเด็ดเสิร์ฟในร้านดิโอโร่เพื่อนำเสนอจุดเด่นของกาแฟแต่ละพื้นที่ นับจากนี้ กาแฟแบบ Single Origin จะกลายเป็นเมนูที่ “ท้า” ให้นักดื่มกาแฟมาลิ้มลองถึงความมีเอกลักษณ์

ไม่หมดเพียงเท่านั้น สำหรับสมาชิกวีไอพี เนื่องในโอกาสพิเศษนี้ ดิโอโร่ได้มอบของขวัญตอบแทน ซึ่งได้แก่ แก้วสแตนเลสทัมเบลอร์ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ไม่มีวางขายหรือแลกพอยท์ ทำพิเศษเฉพาะให้กับสมาชิกที่ถือว่าเป็นแฟนตัวยงของดิโอโร่เท่านั้น เน้นย้ำให้เห็นถึงความใส่ใจแก่ลูกค้าของตัวแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจาก Anniversary Blend, แคมเปญแจกของรางวัลและของขวัญแก่สมาชิกวีไอพีเเล้ว ใน Social Media ของดิโอโร่ทั้งแฟนเพจและไลน์ ก็จะมีเกมส์ให้ร่วมสนุกชิงของรางวัลสเปเชียลไอเทมตลอดทั้งเดือนเพื่อแทนคำขอบคุณให้แก่คอมมูนิตี้ของแฟนๆ ที่ชื่นชอบดิโอโร่ ซึ่งที่ผ่านมาก็การันตีได้ว่า ดิโอโร่ มีแฟนพันธุ์แท้เหนียวแน่นจริงๆ

วิสัยทัศน์ใหญ่ กาแฟไทยลุย CLMV

เชื่อว่าคนอายุ 18 ปี มีความคิดคล้ายกัน คือ วาดภาพความฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองที่อนาคตอย่างจะเดินไปตามเส้นทางนั้น ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะไกลแค่ไหน “ดิโอโร่” ก็เช่นกัน

จากฉายา “พ่อเลี้ยงแห่งอมก๋อย” ที่คุณวีระเดชได้เข้าไปให้ความรู้เรื่องของการปลูกกาแฟให้เป็นอาชีพ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาที่อำเภออมก๋อยให้ดียิ่งขึ้น วันนี้เขาเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้กาแฟไทยได้รับการยอมรับจากคนไทย นี่จึงเป็นที่มาของเส้นทางสายหลักที่ดิโอโร่จะเดินต่อไป

“จากประสบการณ์ในธุรกิจกาแฟหลายสิบปี ผมกล้าบอกว่ากาแฟของไทยนั้นมีคุณภาพไม่แพ้ใคร มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเราเอง ตรงนี้ ในฐานะแบรนด์กาแฟไทยเองจึงต้องเข้าไปส่งเสริมและทำความเข้าใจกับผู้ดื่มให้รับรู้มากยิ่งขึ้น”

หลังจากนั้นแผนระยะกลางของบริษัทคือการบุกตลาด C-L-M-V ส่งกาแฟคุณภาพของไทยจากแหล่งปลูกกาแฟต่างๆ กันออกไปให้เพื่อนบ้านได้ลิ้มลอง รวมทั้งทดลองนำเอาเมล็ดกาแฟจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาให้คนไทยได้บริโภคเช่นเดียวกัน นับว่านี่เป็นความฝันครั้งใหม่ที่ท้าทายอีกครั้งของดิโอโร่ ที่ครั้งนี้ก้าวไกลกว่าเดิม

ท่ามกลางเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และ “ร้านกาแฟ” ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่หลายคนฝันถึง วันนี้ที่ D’Oro แบรนด์ไทยได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วถึง 18 ปี น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการ ไปจนถึงนักการตลาด ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่แบรนด์ยึดมั่น 2 เรื่อง ประกอบด้วยคุณภาพที่มาพร้อมกับ “ความรับผิดชอบต่อ Stakeholder”  ผ่านเมนูเด็ด D’Oro Anniversary Blend … ซึ่งกาแฟแก้วเดียวแก้วนี้ มีเรื่องราวเบื้องหลังที่ทรงคุณค่ามากมาย ส่วนนักดื่มที่โฟกัสเรื่องรสชาติเป็นหลัก บอกเลยว่าต้องลอง D’Oro Anniversary Blend สักครั้ง รับรองไม่เหมือนใครและคนที่อยากจะทำให้เหมือนก็คงไม่ง่ายซะด้วย


แชร์ :

You may also like