Homeเปิด 15 ศาสตร์ 15 ร้านกาแฟดัง ในงาน BANGKOK COFFEE CULT 2018

เปิด 15 ศาสตร์ 15 ร้านกาแฟดัง ในงาน BANGKOK COFFEE CULT 2018

แชร์ :

เปิดโลกแห่งประสบการณ์แก่ผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมกาแฟ ล่าสุดอะเวย์ ออนไลน์ (AWAY Online) นิตยสารออนไลน์ เพื่อการท่องเที่ยวและการเดินทาง ร่วมกับ ล้ง 1919 แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในย่านคลองสาน ชวนมาสัมผัสกับวัฒนธรรมกาแฟ ในงาน “แบงค็อก คอฟฟี่ คัลท์ 2018” (BANGKOK COFFEE CULT 2018) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ที่ล้ง 1919

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ครั้งแรกในการรวบรวมคาเฟ่ 15 แห่งในกรุงเทพฯ ที่อบอุ่นและอบอวล กรุ่นกลิ่นกาแฟหลากหลายรสชาติตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาอยู่ในงานเดียวกัน เพื่อร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวของ Coffee Culture หรือวัฒนธรรมกาแฟที่มีคุณค่าในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์แห่งการคั่วของแต่ละคาเฟ่ที่สร้างตัวตนให้แตกต่างกัน ตลอดจนการเลือกแก้วกาแฟที่ใช้ซึ่งส่งผลกับรสชาติกาแฟอย่างไร รวมทั้งจับคู่รสชาติของกาแฟกับอาหารและเบเกอรี่ที่ไปด้วยกันได้ดีเพื่อให้คอกาแฟได้ลองลิ้มรส เรียนรู้วัฒนธรรมการดื่มเมนูค็อกเทลกาแฟซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมในหลายประเทศ

นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากคอฟฟี่ มาสเตอร์ (Coffee Master) ที่เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและในระดับโลก มาเปิดคลาสบรรยายและทำเวิร์คช็อปพิเศษให้กับงานนี้โดยเฉพาะ อาทิ วรัตต์ วิจิตรวาทการ แชมป์บาริสต้าประเทศไทย ตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขัน Barista Championship ที่เมือง Rimini ประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ. 2014 อสมา วิชัยดิษฐ์ บาริสต้ามือรางวัลและเจ้าของร้าน ASAMA ที่เชียงใหม่ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการแข่งขันในระดับสากล นพพล อมรพัชญ์ปรัชญา เจ้าของร้าน Bottomless ที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกาแฟในยุคเริ่มแรกที่มีความเชี่ยวชาญและทักษะชั้นเซียนของ Latte Art และศุภชัย สว่างอำไพ บาริสต้าและเจ้าของร้าน Duck You รวมถึงเป็นแชมป์จากการแข่งขันที่ได้รางวัลมาจากหลากหลายเวทีทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และรางวัลล่าสุดแชมป์จาก Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) 2018 เป็นต้น

 

รายชื่อร้านกาแฟในงาน

Phil Coffee

คาเฟ่ที่เริ่มต้นจากการเป็นโรงคั่วของครอบครัวพี่น้องชาวมาเลเซีย ที่มีน้องชายคนเล็กคือฮาน วัง (Haen Wang) เป็นผู้ขับเคลื่อนและดูแลธุรกิจ คุณฮานมีประสบการณ์เริ่มคั่วกาแฟครั้งแรกตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี จุดเด่นของ Phil Coffee คือเป็นทั้งโรงคั่วและคาเฟ่ที่พิถีพิถันในการคั่วที่เน้นเมล็ดกาแฟในกลุ่ม Floral โดยคาเฟ่แห่งนี้เน้นให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ตรงจากรสชาติของกาแฟจึงไม่มีเมนูที่เติมไซรัปใดๆ

 

Bottomless Espresso Bar

คาเฟ่นี้ไม่มีเมนูให้เลือก เพราะคุณหมู-นพพล อมรพิชญ์ปรัชญา เจ้าของร้านชอบที่จะมีโอกาสได้ถามไถ่ลูกค้าว่าชอบดื่มอะไรแนวไหน แล้วจะเลือกเครื่องดื่มที่ดีที่สุดของร้าน ณ ตอนนั้นให้ หรือหากลูกค้ามีความตั้งใจว่าอยากดื่มอะไร คุณหมูก็จะแนะนำว่าวันนี้ที่ร้านเมล็ดคั่วอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้าง ร้าน Bottomless Espresso Bar เป็นคาเฟ่ที่มีโรงคั่วขนาดใหญ่อยู่หลังร้าน ส่วนคาเฟ่อยู่ในบริเวณบ้านพัก คุณหมูเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนทำธุรกิจกาแฟ ว่ามีความเชี่ยวชาญในการทำ Latte Art โดยเคยเป็นโค้ชให้กับ บาริสต้าหลายคนไปคว้ารางวัลระดับสากลมาแล้วมากมาย

 

Somersault Coffee Roasters

คาเฟ่เล็กๆ ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในย่านสาธุประดิษฐ์ แรงบันดาลใจแรกเริ่มของ 2 เจ้าของร้าน คือคุณเชฟ-ศักรินทร์ จินต์วาณิชกาล และคุณบิว-วชิราพร อิฏฐะพงศ์ คืออยากมีคาเฟ่ที่มีวัฒนธรรมที่ชัดเจน และอยากมีเมล็ดคั่วที่เป็น Signature ของตัวเอง จึงเปิดร้านพร้อมทดลองคั่วเมล็ดกาแฟไปด้วยพร้อมๆ กัน ซึ่งเมล็ดคั่วของร้านนี้จะเน้นความ Light Body และเป็นเมล็ดในกลุ่มที่มีความเป็น Fruity คือดื่มง่ายและรสชาติดี

 

Sarnies
           คาเฟ่ที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ในร้านอาหารคราม ท้ายซอยสุขุมวิท 39 ที่เป็นโรงคั่วจากสิงคโปร์ โดยมี อีริค ชาน (Eric Chan) หนุ่มมาเลเซียรับหน้าที่เป็นบาริสต้าและดูแลการคั่วเมล็ดกาแฟ จุดเด่นและข้อแตกต่างของ Sarnies คือการที่มีโรงคั่วขนาดกะทัดรัดอยู่ในพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นคาเฟ่ ซึ่งเป็นเหมือน Coffee Lab ทำให้ลูกค้าได้มีโอกาสลิ้มรสกาแฟที่แตกต่างจากการคั่วใหม่ๆ ของเมล็ดกาแฟในทุกสัปดาห์ รวมไปถึงเมนูใหม่ๆ ที่ทีมบาริสต้าคิดค้นและพัฒนาอยู่เสมอ โดยเฉพาะEspresso Martini นั้น ไม่ควรพลาด

 

Cone Number 9

แบรนด์เซรามิค ที่เติบโตมาจากการแฝงตัวอยู่ใน Blue Dye Café โดยมีคุณมิ้นต์-วรามล ชุนชาติประเสริฐ ที่เคยเป็นบาริสต้ามาก่อน และเติบโตมากับธุรกิจโรงงานเซรามิคของที่บ้าน คุณมิ้นต์จึงเข้าใจถึงวัฒนธรรมการใช้แก้วกาแฟที่มีผลต่อรสชาติและรสสัมผัสในขณะจิบหรือดื่มกาแฟขนาดแก้วเป็นตัวกำหนดปริมาณของน้ำกาแฟในแก้ว อุณหภูมิ ความรู้สึกของผิวสัมผัส ซึ่งทุกวันนี้เริ่มมีคาเฟ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศสั่งทำแก้วกาแฟของ Cone Number 9 ไปใช้

 

Duck You Caferista

คาเฟ่ที่เป็นเสมือน Speakeasy Café ที่หลบอยู่ด้านหลังร้านขายข้าวหน้าเป็ด ซึ่งใครจะรู้ว่าด้านหลังของร้านที่เดินทะลุไปจนเจอร้าน Duck You Caferista นั้น คือโรงคั่วและคาเฟ่ที่ขับเคลื่อนโดยคุณพ้ง – ศุภชัย สว่างอำไพ ลูกชายเจ้าของร้าน ที่เป็นบาริสต้าระดับมือรางวัลที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย คุณพ้ง มักถามไถ่ลูกค้าทุกคนว่าชอบหรือไม่ชอบกาแฟแบบไหน แล้วพยายามให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าถ้าชอบแนวนี้ ควรจะดื่มอะไรดีจากที่ร้านมีอยู่ เรียกว่าทุกครั้งที่ไปร้านนี้ ได้ดื่มด่ำกาแฟคุณภาพดีอย่างแน่นอน

 

Baker gonna bake cafe

อีกหนึ่งวัฒนธรรมของการดื่มด่ำกาแฟ คือ Coffee Pairing ที่ตอนนี้เริ่มมีหลายคาเฟ่ที่ทำขนมหรืออาหารเองมาไว้สำหรับทานคู่กับกาแฟ ซึ่ง Baker gonna bake café ก็เป็นหนึ่งในคาเฟ่ ที่ขึ้นชื่อว่าทำขนมอร่อย และทุ่มทุนกับวัตถุดิบชั้นดี ทำขนมอย่างไม่กลัวขาดทุน และชอบที่จะให้คำแนะนำกับลูกค้าเมื่อสั่งกาแฟว่าควรจะจับคู่กับขนมประเภทไหนถึงจะเสริมส่งรสชาติแบบไปด้วยกันได้ดี

 

Spoonful Zakka

คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ที่แม้ว่าอาจไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของกาแฟมากนัก แต่ก็เป็นที่ยอมรับของกลุ่มคนที่ชอบดื่มด่ำวัฒนธรรมกาแฟในมุมของ Coffee Pairing ที่ทำ Soft Scone ได้อร่อยล้ำและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง คุณจิ๊บ-สิตานัน วุตติเวช เจ้าของร้านขยันทำ Scone รสชาติใหม่ๆ ในสไตล์ Homemade ที่เมื่อนำมาทานคู่กับกาแฟหรือชาแล้ว ให้ประสบการณ์ความอร่อยที่ไม่สามารถหาได้จากร้านอื่นๆ ถือเป็น Signature Menu ที่เป็นอัตลักษณ์ของร้านโดยแท้

 

DoiChaang Coffee

จะมีสักกี่คนที่ล่วงรู้ว่า ดอยช้าง คือผู้นำกาแฟไทยให้ไปปรากฏอยู่บนแผนที่กาแฟโลก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในระดับสากล มีคาเฟ่อยู่ในต่างประเทศมากมาย รวมถึงไร่กาแฟและศูนย์การเรียนรู้ที่เชียงราย ในงานนี้ดอยช้างจะนำเมล็ดกาแฟมาชงด้วยวิธีที่แตกต่างและหลากหลาย เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเมล็ดคั่วตัวเดียวกัน เมื่อใช้วิธีการชงที่แตกต่างกัน จะให้รสชาติที่ต่างกันได้อย่างไร

 

Doilanka Coffee

คาเฟ่เล็กๆ ในสุขุมวิทซอย 1 ที่เริ่มต้นจากเหตุจำเป็นเมื่อคุณป้อม – วสันต์ จันทร์แรมเจ้าของร้าน ได้รับการขอร้องจากพระภิกษุในวัดป่าที่ลำปางให้ช่วยซื้อที่ดินบนเขาเก็บไว้ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีไร่กาแฟอยู่ด้วย คุณป้อมจึงกลายเป็นเจ้าของไร่กาแฟในเวลาอันรวดเร็ว และด้วยความไม่รู้เรื่องธุรกิจกาแฟ จึงผ่านการลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากการไปตะลอนชิมกาแฟมาแล้วแทบจะทุกคาเฟ่ในกรุงเทพฯ จนทุกวันนี้คุณป้อมมีทั้งโรงคั่วและร้านกาแฟ ที่มีเมนูเฉพาะที่โดดเด่นและต่อยอดมาจากเมล็ดกาแฟของดอยลังกา

 

Blue Whale

คาเฟ่สีน้ำเงินย่านท่าเตียน ที่มีวัฒนธรรมของตัวเองที่ชัดเจน กับ Blue Culture ที่ไม่ใช่เพียงตกแต่งร้านด้วยโทนสีน้ำเงินเท่านั้น แต่ยังคิดค้นและสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่ม ทั้งแบบมีส่วนผสมของกาแฟและไม่มีกาแฟในโทนสีน้ำเงินด้วย เครื่องดื่มหลายเมนูของที่นี่ใช้น้ำอัญชันคั้นสด ที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ ที่ใช้น้ำอัญชันที่ชงจากชา ความเข้มข้นและรสชาติที่ได้จึงแตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

Simple Coffee, Simple Life x AmatissimoCaffè

ร้าน Simple Coffee, Simple Life คือคาเฟ่ที่ขับเคลื่อนด้วย passion อย่างแรงกล้า โดยคุณแพด -จรัญญา จันทร์วงษ์ บาริสต้าระดับมือรางวัลจากหลากหลายเวทีการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ ที่เริ่มต้นทำคาเฟ่ เพราะโดนคุณพ่อบังคับมาให้ช่วยทำ เริ่มต้นเพราะความไม่ชอบและไม่รู้ จนทุกวันนี้ไม่สามารถแยกขาดจากกาแฟได้ แม้ว่าจะโดนสั่งให้เลิกทำร้านก็ไม่ยอม ด้วยฝีมือลายมือการชงกาแฟระดับมือรางวัล เครื่องดื่มร้านทุกแก้วคือความดีงามในรสชาติและรสสัมผัสที่ชัดเจนทุกกลิ่นทุกรสจากการคั่ว และตอนนี้คุณแพดกำลังสนุกกับการทดลองหมักเหล้ากาแฟด้วยตัวเอง และในส่วนของ AmatissimoCaffè คาเฟ่ที่โดดเด่นในการทำขนมที่ Pairing กับกาแฟอย่างเป็นที่รู้จักว่าหาตัวจับยาก กับการคิดค้นรสชาติของขนมด้วยสูตรพิเศษ เช่น ครัวซองต์ไส้ไข่เค็มลาวา รวมไปถึงขนมโฮมเมดที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าชั้นดีมากมาย จะมาเป็น Coffee Pairing ในงานนี้ด้วย

 

Brave Roasters

จากคาเฟ่และโรงคั่วเล็กๆ ปัจจุบันนี้ Brave Roaster คือ 1 ในคาเฟ่ที่ได้รับการยอมรับถึง Coffee Culture ของตัวตนของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ในการเลือกคั่วเมล็ดที่แตกต่างและให้รสชาติที่พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคอกาแฟหลายๆ คน จนเริ่มขยายสาขาจากเอกมัย เพิ่มเป็นสองสาขาที่สยามดิสคัฟเวอรี่ และล่าสุดกับสาขาที่ 3 ที่ช่างชุ่ย

 

Roast Runner

ร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่คั่วกาแฟเองแบบ Micro Roaster ซึ่งเป็นการคั่วทีละน้อย ครั้งละประมาณ 5-10 กก. ซึ่งมีข้อดีคือกำหนดรสชาติและคุณภาพได้ตามวัตถุประสงค์ในการไปใช้งานหรือการเลือกชงตามแบบที่ต้องการนั่นเอง แม้ว่าจะเป็นคาเฟ่ที่มีขนาดเล็กในย่านบรมราชชนนี แต่ Roast Runner ก็จริงจังกับวัฒนธรรมการคั่วของกาแฟของตัวเอง เช่น การเลือกเมล็ดกาแฟไทย 3 สายพันธุ์อย่าง ดอยสะเก็ด ผาฮี้ และแม่จันใต้ มาคั่วเป็น Coffee Blend ภายใต้ชื่อ Marathon ซึ่งถือเป็น Signature Blend ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

 

Flow Coffee Roasters

อีกหนึ่งโรงคั่วที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกาแฟบ้านเรา ซึ่งเป็นมือปืนรับคั่วกาแฟ และคั่วกาแฟส่งให้กับหลากหลายแบรนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมีหน้าร้านเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เสิร์ฟกาแฟคุณภาพ ไม่เน้นแต่งร้านสวย แต่คุณภาพกาแฟที่เสิร์ฟนั้น พูดได้ว่าได้จิบกาแฟรสชาติดีที่คุ้มเกินราคาที่จ่ายในแต่ละแก้วอย่างแน่นอน

 

ร่วมจิบ ชิม ชม และดื่มด่ำวัฒนธรรมกาแฟด้วยกันในงาน “แบงค็อก คอฟฟี่ คัลท์ 2018” ((BANGKOK COFFEE CULT 2018)) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. ที่ ล้ง1919 และติดตามข่าวสารได้ทาง www.facebook.com/BangkokCoffeeCult พร้อมชมวิดีโอข้อมูลวัฒนธรรมของกาแฟ ได้แล้ววันนี้ ที่ Youtube Channel : BKK Coffee Cult


แชร์ :

You may also like