HomeSponsored“ไฮยีน” ส่งกลยุทธ์ Experiential Marketing แบบ 360 องศา เมื่อผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มไม่ได้ขายแค่ความหอมยาวนานแบบเดิมๆ

“ไฮยีน” ส่งกลยุทธ์ Experiential Marketing แบบ 360 องศา เมื่อผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มไม่ได้ขายแค่ความหอมยาวนานแบบเดิมๆ

แชร์ :

ตลาดผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 10-15 ต่อปี โดยใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 งบโฆษณาของตลาดผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มโตถึงร้อยละ 11 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 (ข้อมูลจากนีลเส็น) แท้ที่จริงแล้ว การแข่งขันของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มในปัจจุบันไม่ได้สู้กันที่ความนุ่มที่มีให้กับเนื้อผ้า แต่สู้กันที่ความหอมติดทนนาน จึงไม่แปลกที่ “กลิ่นหอม” จะเป็นแนวทางการทำตลาดในวันนี้ เห็นได้จากแบรนด์ต่างๆ ที่ขยับมาชูในเรื่องของไลฟ์สไตล์ เปลี่ยนภาพลักษณ์แม่บ้านสู่สาวยุคใหม่อีกด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่งผลให้งานนี้ ไฮยีน (Hygiene) พร้อมจัดเต็ม หลังได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค จนพบและเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มที่นอกจากต้องการความนุ่มให้กับเนื้อผ้าแล้ว ยังต้องการกลิ่นหอมที่ดีที่สุด ซึ่งจากการวิจัยพบว่า กลิ่นหอมที่ดีที่สุดคือกลิ่นหอมจากดอกไม้จริงๆที่อยู่บนต้น จึงเป็นที่มาของกลิ่นหอมชีวิต และ นวัตกรรม LIFE SCENT®   ที่ไฮยีนเลือกสกัดกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่อยู่บนต้นมาเป็นเซรั่มหอมเข้มข้น และเลือกสกัดกลิ่นจากดอกไม้ดีที่สุด และในช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ดอกไม้ส่งกลิ่นหอม จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มไฮยีน เอ็กซ์เพิร์ท แคร์ ไลฟ์เซ้นท์ มีความหอม ติดทนยาวนาน ให้กลิ่นหอมที่ปลุกชีวิตชีวา

นอกจากนี้ไฮยีนยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดแบบ 360 องศา ผ่านการจัดงาน  “ALIVE NOW” เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์และภาพยนตร์โฆษณาชุด “LIFE SCENT® พลังหอมยาวนานจากดอกไม้มีชีวิต” สื่อถึงจุดเด่นของกลิ่นหอมมีชีวิต ที่ใช้แล้วทำให้ผู้สวมใส่สามารถปลุกชีวิตชีวาได้ตลอดวัน ที่มีความมั่นใจซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์ ที่จะเน้นผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ครอบครัว และคนที่รัก ซึ่งได้รับเกียรติจาก “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” เป็นตัวแทนของสาวยุคใหม่ที่มีทั้งความสวยสดใส เก่ง และมีความมั่นใจ และใส่ใจที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ไฮยีนเป็นปีที่ 2

ที่สำคัญยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย สื่อสิ่งพิมพ์ และกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อต้องการทำการตลาดที่บูรณาการทุกช่องทาง เข้าด้วยกัน จาก offline ไป on-ground และผนวกกับ online เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการตลาดแบบ on-ground กล่าวคือ การจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในพื้นที่ขาย รวมถึงโปรโมชั่น อีเวนต์ต่างๆ เป็นจุดที่ลูกค้าสามารถมีประสบการณ์กับสินค้าและตัดสินใจซื้อได้มากที่สุด

และครั้งนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเซอร์ไพรส์ลูกค้า ณ จุดขาย “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ากลิ่นหอมมีชีวิต” ที่ลูกค้าจะได้เจอกับซองของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มไฮยีนที่มีกลิ่นหอมมีชีวิต สามารถขยับ และพูดได้ และดอกไม้บานหุบที่ปล่อยกลิ่นหอม ที่สื่อถึงจุดขายของผลิตภัณฑ์อย่างขัดเจน และพบเซอร์ไพรส์กับมิว นิษฐาตัวจริงเสียงจริง มาแจกรางวัลให้กับผู้โชคดี รวมถึงการต่อยอดไปสู่ online เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับประสบการณ์ของกลิ่นหอมมีชีวิตได้ที่จุดขายไฮยีนทั่วประเทศ รวมไปถึงยังมีการแจกสินค้าตัวอย่างกว่าล้านชิ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้เปิดประสบการณ์กลิ่นหอมมีชีวิตร่วมกันด้วย

การดึงพรีเซนเตอร์มาทำหน้าที่ด้านการตลาดอย่างเต็มที่ พร้อมชูความหอมติดทนนานจากดอกไม้มีชีวิต เพื่อคนในครอบครัว คนที่รัก ด้วยกลิ่นหอมที่ดีที่สุด เป็นสิ่งสำคัญที่ไฮยีนจะเขย่าตลาดผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตของตลาด นวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงโอกาสการเติบโตของไฮยีนเองจากการรุกตลาดในครั้งนี้อีกด้วย

ติดตามกิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้ที่ www.facebook.com/HygieneThailand

[Advertorial]


แชร์ :

You may also like