Youtube เพิ่มตัวเลือกให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้เห็น Ad ได้ละเอียดขึ้น โดยฟีเจอร์ที่เด่นสุดก็คือเลือกตาม “Google Activity” คือนำประวัติการเสิร์ชของผู้ชมมาช่วยคัดกรอง
ตัวอย่างเช่นถ้าเราจะโฆษณาเสื้อกันหนาว ก็อาจจะเลือกจากคนที่ช่วงนี้ได้เสิร์ชหาเสื้อกันหนาว หรือถุงมือกันหนาว หรือแม้แต่เสิร์ชหาทริปไปญี่ปุ่น, เกาหลี เป็นต้น ถือเป็นการหยิบเอาบริการ 2 อย่างที่เชื่อมโยงกันมาช่วยทำให้ ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกโฆษณาส่งตรงถึงคนที่มีแนวโน้มว่าอยากจะได้สินค้านั้นๆ มากขึ้น
ฟีเจอร์ถัดไปคือ “Customer Match” คือเปิดให้ผู้ลงโฆษณาอัพโหลดข้อมูลรายชื่อผู้อยากให้เห็นโฆษณาได้เอง เช่น รายชื่อ email สมาชิกบอกรับจดหมายที่มีอยู่ หรือแม้แต่เบอร์โทร.
นอกจากนี้ยูทูบยังพัฒนาระบบวัดผลโฆษณาด้วย โดยออกระบบใหม่ เป็น “cloud-based measurement solution” มาช่วยให้การวัดผลเมื่อผู้ใช้คนหนึ่งๆเล่นหลายอุปกรณ์สลับไปมานั้นทำได้แม่นยำถูกต้องขึ้น คือแยกแยะผู้ใช้คนหนึ่งๆได้เป๊ะขึ้นแม้ว่าเขาหรือเธอจะเล่นทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต ฯลฯ
การวัดผลใหม่นี้ ทางกูเกิลจะใช้ user id เช่นชื่อบัญชี Gmail มากขึ้น และใช้ระบบในมือถือมาช่วยแยกแยะตัวตนด้วย ซึ่งกูเกิลชี้ว่าจะดีกว่าเดิมที่ใช้แค่ระบบ “cookies” และ“pixels” ที่เน้นมองผู้ใช้บนอุปกรณ์เดียวมากกว่า
กูเกิลยังแถลงอีกว่าเรื่องการวัดผลนี้ จะร่วมมือกับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านนี้อีกหลายรายด้วย เช่น comScore, DoubleVerify, IAS, MOAT, และ Nielsen ด้วย
และในเมื่อเอาใจผู้ลงโฆษณามาหลายฟีเจอร์ สุดท้ายกูเกิลจึงเอาใจฝ่ายผู้ใช้ ผู้(ต้อง)ชมโฆษณาบ้าง โดยเพิ่ม “User Control” ให้ผู้ชมสามารถเลือกได้ละเอียดขึ้นว่าจะอยาก(ยอม)ดูโฆษณาเกี่ยวกับอะไรบ้าง ? ซึ่งระบบนี้เดิมก็มีอยู่แล้ว แต่ได้พัฒนาให้ทำงานได้ถูกต้องข้ามอุปกรณ์ต่างๆ “cross-screen” มากยิ่งขึ้น
…ไม่ใช่ว่าผู้ใช้อุตส่าห์ตั้งค่าไว้อย่างดีในคอมฯ ว่าชอบดูโฆษณาเกี่ยวกับบ้านและคอนโดฯ แต่พอมาเล่นมือถือกลับเห็นแต่โฆษณาอย่างอื่นเต็มไปหมด
ทั้งหมดนี้เป็นการทำให้ยูทูบน่าลงโฆษณามากขึ้น และเป็นแหล่งรายได้ให้กับกูเกิลมากขึ้น จากเดิมที่ยูทูบเป็นบริษัทในเครือ Alphabet ที่ยังไม่ทำกำไรเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับความนิยมที่มีอยู่ แถมล่าสุดยังเจอ Facebook พยายามพัฒนาระบบวิดิโอทั้ง Live ทั้ง clip ที่จะมีโฆษณามาสู้ด้วย
แปลและเรียบเรียงโดย: Somkid Anektaweepon