สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ (Siam Retail Development) เผยความคืบหน้าโครงการเทอร์มินอล 21 โคราช (Terminal 21 Korat) ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างโครงสร้างแล้วเสร็จกว่า 90% มั่นใจพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2559 นี้ ตามด้วยแผนเดินหน้าสยายปีกสู่หัวเมืองหลักศักยภาพสูงในอนาคต เล็งพื้นที่พัทยาและขอนแก่น พร้อมชี้รายได้รวมปี 2558 เติบโตน่าพอใจกว่า 9% จากความสำเร็จของศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล 21, เดอะ พรอมานาด และไลฟ์ เซ็นเตอร์
นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม รีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล 21, เดอะ พรอมานาด และไลฟ์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า “เทอร์มินอล 21 โคราช คือโครงการใหม่ที่สำคัญของเราในปี 2559 ซึ่งนับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ระยะยาวจากเครือแลนด์แอนด์เฮาส์ในตลาดภูมิภาค เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในอนาคตของจังหวัดโคราชและภาคอีสาน ขณะนี้การก่อสร้างโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จกว่า 90% ที่ผ่านมาได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอด ทั้งจากพันธมิตร ผู้เช่า ผู้ประกอบการในท้องถิ่น ตลอดจนผู้บริโภคเป้าหมายหลักในพื้นที่ โดยยังคงแนวคิดหลักเดียวกับเทอร์มินอล 21 กรุงเทพฯ คือ การสร้างสรรค์บรรยากาศแบบมาร์เก็ตสตรีทจาก 7 มหานครแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก โดดเด่นด้วยบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในศูนย์การค้าของประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง และส่วนผสมร้านค้าเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ได้มากที่สุด”
เทอร์มินอล 21 โคราช ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดในโคราช บนพื้นที่ 32 ไร่ บนถนนมิตรภาพ มีมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท กับแนวคิดท่าอากาศยานแห่งการช้อปปิ้งในรูปแบบช้อปปิ้งมอลล์ 7 ชั้น มีจุดเด่นเป็นหอคอยชมเมืองคล้ายหอบังคับการบินสูงเท่าตึก 30 ชั้น ตั้งตระหง่านกลางเมืองโคราช มีพื้นที่รวมอาคาร 200,000 ตร.ม. พื้นที่ส่วนให้เช่า 70,000 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถยนต์ 2,500 คัน รถยนต์จักรยานยนต์ 1,800 คัน ซึ่งนับว่ามีพื้นที่ใหญ่กว่าเทอร์มินอล 21 อโศกเกือบ 3 เท่า
โดยขณะนี้ อัตราการเช่าพื้นที่รวมในเทอร์มินอล 21 โคราช มีสูงถึง 75% และมีผู้เช่าหลัก (Anchor Tenant) ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซิเนม่า ซิตี้ จำนวน 7 โรง, ไอซ์สเก็ต The Rink, สวนสนุก FANPEKKA, สปอร์ตฮอลล์, ซูเปอร์มาร์เก็ตฟู้ดแลนด์, สปอร์ตเวิลด์ (Sports World), โฮมโปร ลีฟวิ่ง, ศูนย์อาหาร Pier21 และโซนเครื่องเขียน นอกจากนี้ยังมี Mega Store คือ “Kelly” เป็นโซน Shoes & Bags Mega Store และ “Klein” ซึ่งเป็นโซน Menswear Mega Store รวมถึงร้านค้าขนาดใหญ่จากกว่า 200 แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โซน Urbanista Shop ซึ่งเป็นโซนร้านค้าขนาดเล็ก พื้นที่ตั้งแต่ 6-20 ตร.ม. ทั้งหมดประมาณ 400 ยูนิต ก็ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการด้านแฟชั่นและผู้ประกอบการท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายปี 2559 นี้
เทอร์มินอล 21 โคราช ได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวเป็นทางการอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี 2559 และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ ควบคู่กับการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจร ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และกิจกรรมอีเวนท์เปิดตัว ควบคู่กับโซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อสร้างกระแสและการรับรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ทั่วถึง และต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตัว ช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และช่วงหลังเปิดตัว
“เรามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า เทอร์มินอล 21 โคราช จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่แบบ “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” อย่างที่เคยเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน จากแนวคิดความเป็นศูนย์การค้า Innovative Shopping Mall ที่มีการผสมผสานระหว่าง Food, Fashion และ Lifestyle ครบวงจร โดดเด่น ไม่เหมือนใคร จากการศึกษาวิจัยความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์ที่นี่ให้เป็นศูนย์การค้าเมกะโปรเจคฟังก์ชั่นครบครัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคในภูมิภาคอีสานได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งวัยรุ่น นักศึกษา หนุ่มสาววัยทำงาน กลุ่มครอบครัว ทั้งความต้องการด้านการกินดื่ม และการช้อปปิ้งแบบมิกซ์แอนด์แมทช์ นอกจากนั้น ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้
ขณะที่โคราชเองก็มีทั้งศักยภาพและความพร้อม ทั้งเป็นหัวเมืองที่มีความสำคัญเศรษฐกิจ มีจำนวนประชากรสูงถึง 2.6 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ตลอดจนมีไลฟ์สไตล์และรสนิยมทันสมัยใกล้เคียงกับคนกรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักศึกษาสูงถึง 50,000 คน สูงเป็นอันดับ 3 ของภาคอีสาน รองจากขอนแก่นและมหาสารคาม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี ซึ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งของภาคอีสาน นอกจากนั้น ยังเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทั้งระบบถนน และระบบราง ที่กำลังจะเกิดขึ้น”
สำหรับผลประกอบการของกลุ่ม สยาม รีเทล ในปี 2558 ที่ผ่านมานั้น มีรายได้รวมสูงถึงกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 9% ซึ่งถือเป็นระดับการเติบโตที่น่าพอใจเมื่อพิจารณาจากความท้าทายและปัจจัยลบอื่นๆ เช่น เหตุการณ์ความไม่สงบ และภาวะการแข่งที่สูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่รวมทุกศูนย์ฯ ซึ่งสูงถึง 98-100% รวมทั้งมีจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นเป็นที่น่าพอใจในทั้ง 4 ศูนย์การค้าอีกด้วย
“โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าปลีกหลักๆ ต่างหันไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ตามหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรองในต่างจังหวัด สยาม รีเทล เองก็มั่นใจในความพร้อม จุดแข็งในการมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ทั้งการออกแบบและพัฒนารูปแบบ ส่วนผสมร้านค้า บรรยากาศ องค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยขณะนี้ได้มีการศึกษาความพร้อมและเตรียมขยายการลงทุนสู่หัวเมืองหลักศักยภาพสูง อันได้แก่ พัทยาและขอนแก่น” นายประเสริฐกล่าว
[xyz-ihs snippet=”LINE”]