นี่อาจเป็นงานโฆษณาจากนักศึกษาที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่ Johnnie Walker เคยมีมา ด้วยแนวคิดอันน่าจดจำ ส่งผลให้มันกลายเป็นผลงานที่ทรงพลังที่สุดแห่งปีผู้สร้างสรรค์โฆษณาชิ้นนี้เป็นสองนักศึกษาชาวเยอรมัน Dorian Lebherz และ Daniel Titz ยกกองไปสู้กับไอหมอกและภูมิประเทศอันขรุขระ ณ ชายฝั่ง Isle of Skye ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวละครสองพี่น้องในเรื่อง วิดีโอเล่าผ่านเสียงวอยซ์โอเวอร์สำนวนเชิงบทกวีเกี่ยวกับประสบการณ์และความรู้สึกอันลึกซึ้งซึ่งทั้งคู่มีต่อกัน แนวคิดเกี่ยวกับอิสระและเสรีถูกขับเน้นหลายต่อหลายครั้งเมื่อพวกเค้าไต่เนินเขาทางลาดชัน มองไปยังภูมิประเทศที่บิดเบี้ยว ให้ความรู้สึกเหมือนพื้นผิวภูเขาบนดวงจันทร์ ก่อนจะเดินทางไปถึงบ้านไร่หลังรกร้าง พวกเค้าแบ่งปัน Johnnie Walker แก่กัน ดำเนินไปถึงช่วงไคลแมกซ์อันแสนอ้างว้างท่ามกลางทะเลมหึมา
โฆษณาสามารถดัดแปลงองค์ประกอบที่เราคุ้นชินอย่างชำนิชำนาญจนมันกลายเป็นสิ่งพิเศษ กลิ่นอายแสนจริงใจและงานภาพชั้นดีตลอด 90 วินาที ส่งผลให้ตอนจบซาบซึ้งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ มันยังเป็นการเดินทางกึ่งสำรวจเชิงกายภาพและจิตวิญญาณเกี่ยวกับความหมายแห่งอิสรภาพ ซึ่งสามารถสะท้อนธีมของ Johnnie Walker คือ Keep Walking ออกมาได้อย่างทรงพลัง
Dorian Lebherz และ Daniel Titz สองผู้กำกับ ต่างก็กำลังศึกษาอยู่ที่ Film Academy of Baden-Württemberg และทั้งคู่กำลังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำโฆษณาชิ้นใหญ่ และต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์ Dorian Lebherz เพื่อให้เราเข้าใจโฆษณาตัวนี้มากยิ่งขึ้น
AdFreak: ทำไมถึงเลือกทำโฆษณาบนสเกลที่ใหญ่โตแบบนี้?
Dorian Lebherz: พวกเราต้องครีเอทหนังที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ บอกเล่าเรื่องราวของสองพี่น้องผู้เดินทางกลับไปยังสถานที่ที่สำคัญที่สุดในชีวิตวัยเยาว์ พวกเราชอบที่จะสอดผสานการเล่าเรื่องที่จับใจด้วยงานภาพที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเราจึงถ่ายเส้นทางของสองพี่น้องตามภูมิประเทศสูงชัน เราพยายามจะประสานแบรนด์เข้าไปในเรื่องราว ใช้แนวคิด “Keep Walking”
AdFreak: มันจึงเป็นตอนจบที่ต้องเซอร์ไพรซ์?
Dorian Lebherz: จุดหักมุมตอนจบทำเพื่อเซอร์ไพรซ์ผู้ชมที่ไม่รู้ว่าความจริงพี่ชายคนหนึ่งไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว พร้อมๆกับสร้างความรู้สึกการที่คนเราสูญเสียใครบางคนไป มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงพยายามทำให้อีกคนมีชีวิตอยู่ด้วยทัศนคติน่าเศร้าเล็กๆ และสื่อผ่านภาพที่ยังคงเล่นต่อไปแม้จะปราศจากพี่ชายที่ตายไปแล้ว คงใกล้เคียงกับความรู้สึกของทุกคนที่เคยสูญเสีย ดังนั้น ทุกคนก็คงจะเข้าอกเข้าใจตัวละครเอก ความทรงจำเป็นพื้นที่เดียวที่พวกเค้ายังมีชีวิตอยู่
AdFreak: ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร?
Dorian Lebherz: พวกเราต้องการครีเอทเรื่องราวที่ตราตรึงคนดูได้ภายใน 90 วินาที ผมคิดว่า อะไรก็ตามที่สัมผัสหัวใจคุณ คุณจะจดจำมันไว้ในใจ ดังนั้น วันหนึ่ง เราจึงมีไอเดียเกี่ยวกับสองพี่น้องซึ่งกลับไปเยือนสถานที่วัยเด็กเป็นครั้งสุดท้ายด้วยกัน ซึ่งสกอตแลนด์และแบรนด์ Johnnie Walker ช่างแสนลงตัวกับสถานการณ์เช่นนั้น
AdFreak: คุณนำผลงานไปให้ Johnnie Walker ดูหรือยัง?
Dorian Lebherz: พวกเรารักสโลแกน Keep Walking กันมาก มันเหมือนบอกกับเราว่า อย่าหยุดหากยังไม่ถึงเป้าหมาย มันหมายถึงความพยายามที่จะผลักให้ใครสักคนมุ่งถึงบางสิ่งบางอย่าง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเค้าถึงเป็นแบรนด์ระดับโลก ทว่าพวกเค้าเพิ่งเปลี่ยนสโลแกนใหม่เป็น Joy Will Take You Further และสร้างหนังโฆษณาผ่านสถานการณ์ต่างๆกันของผู้คนที่กำลังปีนหรือโดยสารบอลลูนอากาศร้อน พวกเราคิดว่าการเล่าเรื่องราวด้วยภาพสามารถสร้างอารมณ์ร่วมได้แข็งแรงกว่าการเซตติ้งที่แตกต่างแต่ปราศจากเรื่องราว ดังนั้นเราจึงยังไม่ได้โชว์ให้ลูกค้าดู แต่เราก็กำลังปรึกษาหารือกันอยู่
AdFreak: เล่าความท้าทายในการถ่ายทำ ณ โลเคชั่นแบบนี้ให้ฟังหน่อย?
Dorian Lebherz: ตอนเราไปถึงอากาศดีมาก เราก็สำรวจโลเคชั่นทุกซอกทุกมุมที่เราต้องการถ่าย และเราก็เจอหินบางจุดที่น่าให้นักแสดงลื่นล้ม แต่วันถ่ายทำวันแรก อากาศกลับแย่มาก ฝนตกต่อเนื่องทั้งคืน แล้วพอเราไปถึงแม่น้ำอีกครั้ง น้ำกลับสูงเพิ่มขึ้นมาอีกครึ่งเมตรและเชี่ยวมาก จุดที่เราต้องการถ่ายหายไป เราเลยต้องค้นหาตำแหน่งใหม่ๆ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำตลอดการถ่ายทำ เราเปลี่ยนเนื้อเรื่องเพราะอากาศ ผมคิดว่ามันทำให้หนังสมจริงมากๆ เพราะเราต้องถ่ายทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ที่มา: adweek
เรื่อง : Warut