หลังจากแกรมมี่ ประกาศขายหุ้นบางธุรกิจออกมาเพื่อโฟกัสเฉพาะงานที่ตัวเองถนัดเท่านั้น จนเป็นที่มาของการขายหุ้น “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” บริษัทอีเว้นท์ เอเยนซี่อันดับ 7 ของโลก วันนี้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่ก็คือ “เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์” ตามจดหมายประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่โดย อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ใจความว่า
เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ทุ่ม 430 ล้านคว้าหุ้น อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ 50% จากแกรมมี่ มั่นใจศักยภาพ อินเด็กซ์ฯ ก้าวสู่ผู้นำอาเซียน
บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ทุ่ม 430 ล้านบาท ซื้อหุ้น บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) 50 เปอร์เซ็นต์ จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เผยมั่นใจในศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของอินเด็กซ์ฯ เชื่อมั่นการจับมือดังกล่าวจะส่งเสริม และนำพาธุรกิจก้าวสู่ผู้นำแห่งภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน
นายแมทธิว กิจโอธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำแห่งธุรกิจด้านไลฟสไตล์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Lifestyle & Entertainment) กล่าวว่า “ด้วยศักยภาพของบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำธุรกิจการตลาดเชิงสร้างสรรค์ในภูมิภาคอาเซียน (The Hub of Creativity in ASEAN) บริษัทครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) ประกอบกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่า 25 ปี แห่งความคิดสร้างสรรค์ ในการดำเนินธุรกิจ การันตีความเป็นมืออาชีพ มาตรฐาน และความพร้อมในฐานะเจ้าอุตสาหกรรมอีเว้นท์อย่างครบวงจร จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มั่นใจเข้าซื้อหุ้นอินเด็กซ์ฯ 50 เปอร์เซ็นต์ จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ด้วยจำนวนเงิน 430 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้นของอินเด็กซ์ฯ ตามการประเมินในราคาตลาดกว่า 960 ล้านบาท การผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจกับอินเด็กซ์ฯ ภายใต้การบริหารงาน ของ ซีอีโอฝาแฝด ‘คุณเมฆ คุณหมอก เกรียงไกร-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน’ ด้วยมุมมองวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเวฟ เชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงการทำงาน ดำเนินธุรกิจได้อย่างลงตัว รวมถึงความพร้อมของอินเด็กซ์ฯ ในด้านของทีมงาน กำลังคนที่มีศักยภาพ ทำให้มั่นใจว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมทัพกลุ่มธุรกิจที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างครบวงจร เดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน”
“เชื่อว่าการลงทุนดังกล่าว จะส่งเสริมให้ เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของผลประกอบการ และผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงสามารถสร้างสรรค์งานในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงผลิตงานโปรเจคที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจทั้ง เวฟ เอ็นเตอร์เมนท์ จำกัด (มหาชน) และ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นอย่างดี” นายแมทธิว กิจโอธาน กล่าว
ด้านนายเกรียงไกร และเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมา อินเด็กซ์ฯ ได้มีการพูดคุยกับเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ถึงความร่วมมือกันมาโดยตลอดเรื่องการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เรียกได้ว่าตรงตามความต้องการของอินเด็กซ์ฯ ที่เลือกเวฟ ในฐานะ “พรีเฟอร์ พาร์ทเนอร์” (Preferred Partner) ด้วยเล็งเห็นถึงโอกาส และช่องทางการทำธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกัน ระหว่างอินเด็กซ์ฯ และเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ โดยตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ได้ร่วมกันพัฒนา วางยุทธศาสตร์โครงสร้างของธุรกิจ รวมถึงแผนการดำเนินงาน เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงเชื่อมั่นในตัวผู้บริหารหนุ่มไฟแรง อย่าง ‘แมทธิว กิจโอธาน’ ซึ่งเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ และมีความมุ่งมั่นในการทำงานเช่นกัน มั่นใจว่าจะสามารถช่วยต่อยอดทางธุรกิจได้ในหลายมิติ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอินเด็กซ์ฯ ที่จะได้เดินหน้าธุรกิจให้เติบโตตามยุทธศาสตร์ที่ได้ตั้งไว้ได้เป็นอย่างดี”
——
ก่อนหน้านี้ เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เข้าถือหุ้นในธุรกิจที่อหลกาหลายไม่ว่าจะเป็น วอลล์สตรีทอิงลิชประเทศไทย ซึ่งถือหุ้น 100% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีกิจการเจฟเฟอร์ สเต็ก ซึ่งถือหุ้น 100% เช่นกัน นอกจากนี้ยังถือหุ้นอีกจำนวนหนึ่ง ในบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย ก็คงต้องจับตาดูต่อไปว่าเมื่อได้บริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องการจัดอีเว้นท์เข้าไปแล้วจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจแต่ละประเภทหรือไม่ หรือการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทเติบโตไปอย่างไร
สำหรับ “แมทธิว กิจโอธาน” ถือได้ว่าเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดูแลทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์โออิชิ และยังเป็นผู้บริหารในองค์กรขนาดใหญ่มามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์ กรุ๊ป นอกจากนี้ยังเคยทำงานในบริษัทข้ามชาติทั้ง ยูนิลีเวอร์, เป๊ปซี่-โคล่า ในฮ่องกง และนิวยอร์ก, ยิลเลตต์, ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น ทางด้านชีวิตส่วนตัวถือว่าเป็น “ลูกเขยช่อง 3” เพราะแต่งงานกับ ดร.แคทลีน มาลีนนท์