DoubleVerify เผยรายงานข้อมูลเชิงลึก ปี 2568 พบ 50% ของผู้บริโภคในไทยซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นหลัก และมากกว่าครึ่งหนึ่ง อ่านรีวิวบนออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
DoubleVerify แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ด้านการตรวจสอบคุณภาพสื่อ การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา และการพิสูจน์ผลลัพธ์ของแคมเปญ ได้เผยแพร่รายงานข้อมูลเชิงลึก ปี 2568: ผู้บริโภคและนักการตลาดใช้แพตฟอร์มระบบปิดอย่างไร ซึ่งเป็นรายงานที่ครอบคลุมข้อมูลเชิงลึกในระดับแพลตฟอร์ม และวิเคราะห์บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ยังคงมีอิทธิพลต่อการโฆษณาดิจิทัล การเสพข่าวสาร และอีคอมเมิร์ซ
สำหรับรายงานฉบับนี้ DoubleVerify ได้สำรวจผู้บริโภคถึง 22,000 คนใน 21 ประเทศ เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้คนทุกวัยมีปฏิสัมพันธ์กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างไร เช่น อ่านข่าว โต้ตอบกับอินฟลูเอนเซอร์ และมีการตอบสนองต่อโฆษณาอย่างไร นอกจากนี้ DoubleVerify ยังได้สำรวจผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านการตลาดและการโฆษณา 1,970 คนทั่วโลก เพื่อระบุความท้าทายและโอกาสที่สำคัญภายในแพลตฟอร์มระบบปิดด้วย
เปิด 5 ผลสรุปสำคัญ
- โซเชียลมีเดีย และรีวิวบนออนไลน์มีบทบาทสำคัญต่อการค้นหาสินค้าในไทย: ผู้บริโภค 38% ในไทยใช้แพลตฟอร์มโซเชียลในการค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ ในขณะเดียวกันผู้บริโภค 35% พึ่งพาข้อมูลจากคลิปวิดีโอรีวิว และรีวิวแนะนำ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเสพคอนเทนต์สูงสุด
- อิทธิพลของโซเชียลมีเดียต่อการช้อปปิ้ง: 50% ของผู้บริโภคในไทยระบุว่าซื้อสินค้าโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลในรอบปีที่ผ่านมา
- คอนเท้นท์ที่สร้างโดย AI พุ่งสูงขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียล: 52% ของผู้บริโภคในไทยกล่าวว่าเคยพบคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการแยกแยะระหว่างคอนเท้นท์ที่สร้างโดยผู้ใช้งาน และคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ซึ่งส่งผลต่อวิธีการที่แบรนด์ประเมินความน่าเชื่อถือและความเหมาะสม
- โซเชียลมีเดียยึดครองเวลาของผู้บริโภค: 40% ของผู้บริโภคในไทยคาดว่าจะใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียมากขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ยูทูปยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในตลาด โดยมีผู้ใช้งาน 83% และตามมาด้วยเฟซบุ๊ก 81%
- การเข้าถึงและความเหมาะสมของแบรนด์เป็นข้อกังวลหลัก: 48% ของกลุ่มนักโฆษณาบนโซเชียลมีเดียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นอุปสรรคที่ท้าทายที่สุด ในขณะเดียวกัน นักการตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่ง (52%) กังวลเกี่ยวกับความเหมาะสมของแบรนด์เมื่อโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย เมื่ออัลกอริทึมมีการปรับเนื้อหาที่ผู้ใช้เห็นให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ส่งผลให้ขอบเขตการแสดงโฆษณาถูกจำกัด นักการตลาดจึงชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการใช้การวัดผลจากบุคคลที่สาม (Third-party Measurement) เพื่อรักษาความโปร่งใสและประสิทธิภาพของแคมเปญ
คุณจันทรา คนแรงดี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย DoubleVerify ประเทศไทย
กล่าวว่า “ผลการศึกษาจากรายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทสำคัญของโซเชียลมีเดียในประเทศไทย ไม่เพียงแค่ในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับการเสพคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางหลักของอีคอมเมิร์ซและการค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ”
“ผู้บริโภค 50% ซื้อสินค้าโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ขณะเดียวกัน นักการตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมองว่า ความเหมาะสมของแบรนด์เป็นความท้าทายสำคัญ ความจำเป็นในการใช้ระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพจึงยิ่งทวีความสำคัญมากกว่าที่เคย เมื่อแบรนด์เพิ่มการลงทุน และตลาดต้องรับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ความโปร่งใสจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในระบบนิเวศดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของประเทศไทย”