แนวคิดเรื่อง Longevity ไม่ใช่แค่เพียง “อยู่ได้นาน” แต่ยังต้อง “อยู่ได้ดี” หรือการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่น่าจับตาและส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดผู้บริโภคอย่างมหาศาล
คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพมากขึ้น กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ “ความลักชัวรี่” ดันตลาด Health & Wellness ไทยมูลค่า 40.5 พันล้านดอลลาร์ โตแรงกว่า 28.4% ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสปาสร้างรายได้กว่า 12.34 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 119.5%
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดเผยข้อมูลอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” โดยผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า Gen X -Gen Y เป็นสายเปย์เพื่อสุขภาพตัวจริง และเป็นกำลังซื้อหลักของตลาดสุขภาพ และขณะที่ Gen Z เป็นสายลองของใหม่
พร้อมแนะกรอบแนวคิด LONGER คัมภีร์ที่แบรนด์ต้องรู้เพื่อเติบโตและช่วงชิงโอกาสในเศรษฐกิจอายุยืน หรือ Longevity Economy สรุปได้ดังนี้
เทรนด์ Longevity Economy
– ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญทั้งในเชิงโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลมาจากการกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมทั้งคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลคุณภาพชีวิตเพื่ออายุที่ยืนยาวมากขึ้น ทำให้แนวคิดเรื่อง Longevity หรือการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่น่าจับตา
– จากเทรนด์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของ “เศรษฐกิจอายุยืน” หรือ Longevity Economy ที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคที่มองสุขภาพเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่การรักษาเมื่อเจ็บป่วย
– ข้อมูลจาก Global Wellness Institute ระบุว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาด Health & Wellness ของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าเพิ่มจาก 31.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 เป็น 40.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 เติบโตขึ้นกว่า 28.4% ถือเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก
– ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสปาของไทยก็ขยายตัวอย่างมหาศาล โดยมีรายได้กว่า 12.34 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 เพิ่มขึ้นถึง 119.5% จากปีก่อนหน้า สะท้อนว่า “สุขภาพ” ได้กลายเป็นทั้งสินทรัพย์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมร่วมสมัยของคนไทย เป็นความหรูหราและความสำเร็จรูปแบบใหม่ และยังสร้างแรงกดดันใหม่ให้กับวงการการตลาด
อินไซต์ผู้บริโภคยุค Longevity แต่ละ Gen
ข้อมูลจากวิจัยอินไซต์ผู้บริโภคยุค Longevity ล่าสุดของ CMMU ชี้ให้เห็นว่าคนไทย “ทุกช่วงวัย” ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น และเริ่มมีกิจกรรมดูแลตัวเองเข้าไปในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมประจำวัน สรุปพฤติกรรมแต่ละ Gen ดังนี้
Gen Z สายทดลอง
– กลุ่ม “ผู้ปรับตัวเร็ว” ที่เติบโตมากับโลกดิจิทัลและเปิดรับเทรนด์ใหม่ก่อนใคร นิยมค้นหาข้อมูลสุขภาพผ่านโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลัก
– ด้านการบริโภค แม้กำลังซื้อยังไม่สูง โดยมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพเฉลี่ย 262 บาทต่อมื้อ และค่าใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเฉลี่ย 2,592 บาทต่อเดือน สะท้อนแนวโน้มความสนใจในการลงทุนเพื่อสุขภาพ
– ด้านการออกกำลังกาย นิยมกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง โดยเลือกวิ่งมากที่สุด มีแรงจูงใจมาจากต้องการมีสุขภาพแข็งแรงและภาพลักษณ์ที่ดี แต่มีความสม่ำเสมอต่ำกว่า Gen อื่น โดย 61.99% ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 3–4 วันต่อสัปดาห์
– ด้านการดูแลสุขภาพจิต Gen Z 33.83% นิยมผ่อนคลายผ่านงานอดิเรกและกิจกรรมพักใจมากที่สุด
– สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม Gen Z 71.33% มองว่าการมีกลุ่มหรือชุมชนช่วยให้ดูแลสุขภาพได้ต่อเนื่อง
– ให้ความสำคัญกับการแชร์ประสบการณ์หรือผลลัพธ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมผ่านโซเชียลมีเดียมากที่สุด สำหรับความสนใจต่อบริการ Longevity ให้ความสนใจและพร้อมจ่ายน้อยกว่า Gen อื่น
Gen Y สายทุ่มไม่อั้น
– มีบทบาทเป็น “นักลงทุนในสุขภาพของตนเอง” และเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงที่สุด โดยมีพฤติกรรมการหาข้อมูลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักเช่นเดียวกับ Gen Z
– ด้านการบริโภคใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงถึง 4,608 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับ Gen อื่น เฉลี่ย 320 บาทต่อมื้อ
– ด้านการออกกำลังกายจัดเป็นกลุ่มที่มีวินัยสูง โดย 81.99% ออกกำลังกายอย่างน้อย 3–4 วันต่อสัปดาห์ มีแรงจูงใจสำคัญมาจากต้องการมีสุขภาพแข็งแรง และเป็น Gen ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคมากที่สุด
– ด้านการดูแลสุขภาพจิต ส่วนใหญ่ 32.50% เป็นงานอดิเรกและการพักผ่อนจิตใจ ในขณะที่การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูสุขภาพจิตได้รับความสนใจรองลงมา การเข้าร่วมกิจกรรม 90.67% เห็นด้วยว่าการมีกลุ่มหรือชุมชนช่วยให้ดูแลสุขภาพได้ต่อเนื่อง
– ความสนใจต่อบริการ Longevity แม้ Gen Y จะไม่ใช่กลุ่มที่มีระดับความสนใจในบริการนี้สูงที่สุด แต่กลับเป็นกลุ่มที่พร้อมจ่ายสูงสุด โดยเฉพาะบริการ Longevity Retreat ยินดีจ่ายเฉลี่ยสูงกว่าทุก Gen ถึง 25,000 บาทต่อครั้ง
Gen X จ่ายหนักบริการเฉพาะทาง
– เป็นกลุ่มที่รักษาสมดุลสุขภาพ ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน และมีความเชื่อมั่นในข้อมูลสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น คลินิกหรือโรงพยาบาล มากกว่าช่องทางดิจิทัล
– ด้านการบริโภค เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงที่สุด เฉลี่ย 4,846 บาทต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารสุขภาพเฉลี่ย 297 บาทต่อมื้อ
– ด้านการออกกำลังกาย จัดเป็นกลุ่มที่มีระเบียบวินัยสูงสุดในการออกกำลังกาย โดย 91.34% ออกกำลังกายอย่างน้อย 3–4 วันต่อสัปดาห์ และนิยมเลือกกิจกรรมที่เหมาะกับร่างกายในระยะยาวอย่างการเดินหรือเดินเร็ว โดยมีแรงจูงใจหลักมาจากต้องการควบคุมน้ำหนักและคงความแข็งแรงและอ่อนเยาว์ของร่างกายในระยะยาว
– ด้านสุขภาพจิต ส่วนใหญ่ 32.46% ให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางศาสนามากที่สุด และยินดีจ่ายเพื่อกิจกรรมสร้างความสงบทางจิตสูงสุด เฉลี่ย 13,993 บาทต่อครั้ง
– การมีส่วนร่วมในกิจกรรม 93.33% เห็นว่าการมีกิจกรรมกลุ่มหรือชุมชนช่วยให้ดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้นและต่อเนื่อง
– เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจต่อบริการ Longevity สูงสุด และมีความพร้อมในการใช้จ่าย โดยเฉพาะ Longevity Center พร้อมจ่ายสูงที่สุดถึง 4,061 บาทต่อครั้ง
เจาะโอกาสธุรกิจ Longevity
เมื่อมองลึกลงไปในแต่ละ Gen จะเห็นโอกาสทางธุรกิจที่แตกต่างกัน
– Gen Z แม้ยังไม่ใช่กำลังซื้อหลัก แต่ก็เป็นกลุ่มที่เปิดรับและกล้าทดลองสินค้าและบริการด้านสุขภาพใหม่ๆ ได้เร็ว และมีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกดีมานด์และปูทางให้ตลาด Longevity เติบโตในระยะยาว
– Gen Y ข้อมูลชี้ชัดว่ากลุ่มนี้มีความพร้อมและมีกำลังจ่ายสูงจึงเป็น “Sweet Spot” หรือกลุ่มทองคำ ของธุรกิจที่ต้องการพัฒนาแพ็กเกจสุขภาพเชิงประสบการณ์ แบรนด์ที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อสื่อสารได้อย่างที่ชัดเจนและเชื่อมโยงกับคุณค่าด้านความยั่งยืน คุณภาพชีวิต และสมดุลชีวิตการทำงาน จะมีโอกาสครองใจกลุ่มนี้ได้มากเป็นพิเศษ
– Gen X ก็เป็นกลุ่มที่พร้อมใช้และพร้อมจ่ายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบริการ Longevity Center, Longevity Retreat และ Longevity Residence เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่เน้น “บริการเชิงลึกและเชื่อถือได้” ทั้งศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทาง ไปจนถึงที่อยู่อาศัยที่มีบริการดูแลสุขภาพครบวงจร
กลยุทธ์ LONGER ชิงตลาด Longevity
อาจารย์ประเสริฐ ธวัชโชคทวี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่าจากผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า Longevity Economy ไม่ใช่จำกัดอยู่แค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อสุขภาพ แต่กำลังขยายสู่ระบบนิเวศใหม่ที่ครอบคลุมตั้งแต่ช่องทาง คอนเทนต์การสื่อสาร การออกแบบสินค้า บริการ และประสบการณ์ ไปจนถึงการวางแผนชีวิตในระยะยาว
ดังนั้นแบรนด์และผู้ประกอบการที่เข้าใจจุดเด่นและความต้องการของแต่ละ Gen เช่น ใช้ดิจิทัลและคอมมูนิตี้เข้าถึง Gen Z ใช้คุณค่าและประสบการณ์พรีเมียมดึงดูด Gen Y และใช้ความน่าเชื่อถือ บริการเชิงลึก และการวางแผนระยะยาวตอบโจทย์ Gen X จะมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเศรษฐกิจ Longevity ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
คุณศักดิ์สิทธิ์ จีระวงษ์สกุล นักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่าจากผลการวิจัยได้นำมาพัฒนาเป็น “กรอบแนวคิด LONGER” ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดเข้าใจองค์ประกอบของการดูแลสุขภาพระยะยาวอย่างเป็นระบบ
โดย LONG คือรากฐานของการดูแลตนเองตลอดชีวิต และ ER คือพลังที่ทำให้เกิดความสม่ำเสมอและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุค Longevity สรุปได้ดังนี้
L – Lifestyle Practices: พฤติกรรมประจำวัน เช่น โภชนาการ การออกกำลังกาย และรูปแบบการใช้ชีวิต ที่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย
O – Ongoing Prevention: การดูแลป้องกันสุขภาพเชิงรุก เช่น การเสริมวิตามิน อาหารเสริม และการตรวจสุขภาพ
N – Nurturing Mind: กิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลาย สมดุลอารมณ์ และความสงบทางจิตใจ เช่น การท่องเที่ยว งานอดิเรก กิจกรรมทางศาสนา
G – Group & Social Glue: บทบาทของสังคมและชุมชนที่ช่วยให้ผู้คนเริ่มต้นและรักษาเป้าหมายด้านสุขภาพ เช่น กลุ่มออกกำลังกาย คลับ และกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม
R – Reassurance: ความปลอดภัยและความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นพื้นฐานให้ผู้บริโภคตัดสินใจใช้บริการด้านสุขภาพ
E – Easy Access: การเข้าถึงบริการอย่างสะดวกและสอดคล้องกับการใช้ชีวิต ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตร
กรอบแนวคิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภคจริง ซึ่งจะช่วยให้ แบรนด์เข้าใจว่า การสร้างธุรกิจในตลาด Longevity ไม่ใช่แค่การขายสินค้าหรือบริการเดี่ยวๆ แต่จำเป็นต้องสร้าง “ระบบนิเวศด้านสุขภาพที่ครบวงจร” ที่ครอบคลุมทั้งอาหารการกิน การดูแลสุขภาพร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ ไปจนถึงการสร้างคอมมูนิตี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการและความสนใจเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE