ปีนี้คนไทยประสบปัญหามากมายหลายเรื่อง แต่ก็ยัง Proud to be THAI กระแสชาตินิยมกำลังพุ่งแรง คนไทยพร้อมสนับสนุนสิ่งที่ตนเองภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี รวมไปถึงอาหาร ที่ยังเป็น soft power ส่งออกไปทั่วโลก
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจประจำเดือนตุลาคม 2568 แม้แนวโน้มการใช้จ่ายลดลง 1 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและความขัดแย้งทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ
คุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เห็นว่านี่ถือเป็นโอกาสทองของแบรนด์ไทยในการร่วมสร้างกระแสปลุกใจ และชวนคนไทยมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยได้ให้แนวทางการทำแคมเปญในช่วงกระแส Thai DNA ไว้ 2 หัวข้อ ดังนี้
1. ปลุกพลังความเป็นไทยในแต่ละเจน
ต้องยอมรับว่าในช่วงนี้ กระแสชาตินิยม Proud to be THAI กำลังมาแรง เป็นที่เข้าถึงง่ายในทุกๆ Gen ซึ่งแต่ละเจนก็สะท้อนรสนิยมของความภูมิใจใน THAI DNA ที่ต่างกัน แบรนด์จึงควรสื่อสารให้ตรงใจ
Gen Z: มุกไทยเอาตัวรอด ชวนแชร์ความฮาจากชีวิตจริง สกรีนลงแพคเกจให้ยิ้มเมื่อได้อ่าน
Gen Y: ไทยดีไซน์ต้องเท่ ไม่ซ้ำใคร คอลแลบร่วมสมัยกับนักออกแบบไทย ให้น่าภูมิใจและน่าสะสม
Gen X: ทำแพ็กเกจย้อนวันวาน ใช้ดีไชน์ยุคเก่าปลุกความทรงจำที่เรียบง่ายแต่มีความหมายกินใจ
2. แคมเปญจุดพักใจ-จุดเชื่อมไทย
ช่วงเดือนตุลาคมนี้มีวันหยุดที่คนไทยหลายคนได้พักใจ ใช้วันหยุดนี้ให้เป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ ในการชวนคนไทยออกเดินทาง ค้นพบความเป็นไทยผ่านแหล่งมรดกทั่วประเทศ ผ่าน Pop-up “จุดพักใจ” ให้คนไทยได้เช็คอินที่จำหน่ายสินค้าลิมิเต็ดจากท้องถิ่น และกิจกรรม “Thainess Filter Fest” ที่ให้ร่วมสนุกกับ AR filter เพื่อรับโค้ดส่วนลดพร้อมกระตุ้น UGC และยอดขายในแคมเปญเดียวกัน
แนวโน้มความต้องการใช้จ่ายในภาพรวมสำหรับเดือนตุลาคม 2568 “ลดลง” เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (65 vs 66) แต่ในทางกลับกันภาพรวมคะแนนความสุขของคนไทยเพิ่มขึ้น +2 เมื่อเทียบกับผลสำรวจในเดือนที่ผ่านมา
แม้ในช่วงที่ผ่านมาคนไทยจะพบเจอกับปัญหาความขัดแย้ง แต่คนไทยกลับยิ่งรวมใจและร่วมฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน Pround to be THAI จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยกลับมาเติมเต็มความสุขกันอีกครั้ง
3 เรื่องคนไทยภูมิใจอยากอวดชาวโลก
คุณอินทิรา ศรีอำนวย ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ดิจิทัล สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ชี้ให้เห็นว่ามี 3 เรื่องที่คนไทยภูมิใจที่สุดและอยากอวดให้โลกได้เห็นความเป็นไทย ได้แก่
56% อาหารไทยที่อร่อยและหลากหลาย รสชาติถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในหลายประเทศทั่วโลก
51% น้ำใจของคนไทยทุกพื้นที่ ยิ้มแย้มต้อนรับทุกคนด้วยความอบอุ่น และความจริงใจของคนไทยที่มีให้กัน
38% ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีของไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก มีความขลัง งดงาม และสนุกสนาน แฝงอยู่ในทุกๆ กิจกรรมของคนไทยที่พร้อมต้อนรับคนจากทั่วโลก
ผลสำรวจนี้ได้รวบรวมผลสรุปของคนไทยแต่ละเจน ที่สะท้อนถึงรสนิยมของความภูมิใจใน THAI DNA ที่แตกต่างกัน แต่เป็นคนไทยหัวใจเดียวกันเอาไว้ดังนี้
Gen Z สายสนุก ตัวแม่
– คนไทยรุ่นใหม่ รักสนุก ชอบสร้างเสียงหัวเราะ ใช้มุกตลกเป็น survival skill ในการเชื่อมต่อโลก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นและปรับตัวเก่ง พร้อมรับอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
Gen Y สายติ่งป๊อบร่วมสมัย
– คน Gen Y มองไทยไม่เคยเก่า แต่ถือเป็น Pop Culture ที่ใช้เป็น soft power ในการเชื่อมใจ เชื่อมโลกให้ใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าไทยแบบร่วมสมัย ดนตรี หนัง รวมไปถึงศิลปินไทย
Gen X สายพอเพียง ส่งต่อคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น
– คนไทยรุ่นเก๋า มองประวัติศาสตร์ไทยไม่มีวันเอาต์ วิถีพอเพียง ถือเป็นมรดกที่ส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชาติไทยถือเป็นมรดกสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติตามเรื่อยมา
จากผลสำรวจฉบับนี้ คุณมนะสิทธ์ ลีนานนท์ นักวางแผนกลยุทธ์อาวุโส สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงข่าวที่คนไทยสนใจในขณะนี้ไว้ว่า “คนไทยยังคงจับตาติดตามข่าวปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงคดีดังต่าง ๆ เช่น ข่าวเงินวัด ข่าวความคืบหน้าบ้านกกกอก เป็นต้น จากชายแดนถึงคดีดัง อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศยังคงไม่นิ่ง สภาพอากาศก็แปรเปลี่ยนไม่น่าไว้วางใจ เรียกได้ว่า คนไทยจับมือกันแน่นตามติดข่าวกันยาว ๆ เพื่อระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และยังมีความหวังเสมอว่าสถานการณ์จะคลีคลายให้ได้พักผ่อนใจในช่วงปลายปี”
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE








