อาจกล่าวได้ว่า ธุรกิจสินเชื่อรถมือสอง เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งจากตัวเลขยอดขายรถมือสองที่ปรับตัวลดลง 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2568, การมีรถมือสองเข้าสู่ตลาดที่น้อยลง, พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมามองหารถมือสองจากโลกออนไลน์แทนวิธีการแบบเดิม และดีลเลอร์ที่เริ่มถอนตัวออกจากตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระด้านการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลได้อีกต่อไป
ข้อมูลจากกรุงศรี ออโต้ ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดสินเชื่อยานยนต์รวมของไทยอยู่ที่ประมาณ 377,000 ล้านบาท และคาดว่าจะลดลง 5% ในปีนี้
ส่วนตัวเลขคาดการณ์มูลค่าตลาดสินเชื่อรถมือสองในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยมีจำนวนรถมือสองในตลาดประมาณ 600,000 – 700,000 คัน
คาดรถมือสองปรับราคาเพิ่ม 3 – 5%
คุณคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง กรุงศรี ออโต้ พบว่า แรงผลักดันของธุรกิจสินเชื่อรถมือสอง มาจากสองส่วนนั่นคือ พฤติกรรมผู้บริโภคและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ”
“เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว กรุงศรี ออโต้ จึงมองว่าการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเป็นสิ่งจำเป็น และได้มีการเปิดตัว GO Auto Station สำหรับเป็นตลาดรถมือสองออนไลน์เมื่อสองปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าให้เป็นแหล่งซื้อขายรถยนต์มือสองในรูปแบบ One-Stop Solution แห่งแรกของประเทศไทย ที่เชื่อมต่อผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ให้บริการสินเชื่อไว้ในที่เดียว เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว และได้เลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มีคุณภาพ ขณะที่พันธมิตรดีลเลอร์จะมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์มือสองและเศรษฐกิจไทยเติบโตไปข้างหน้าต่อไป”
นอกจากนั้น คุณคงสินยังได้เผยอินไซท์เกี่ยวกับตลาดสินเชื่อรถมือสองในปีนี้ว่า มีแนวโน้มที่ราคารถมือสองจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถมือสองรุ่นใหม่ ๆ หรือรถขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นประมาณ 3 – 5% โดยมีปัจจัยจาก Supply ที่ยังต่ำ (คนออกรถมือหนึ่งได้น้อยลง ทำให้จำนวนรถมือสองที่เข้าสู่ระบบน้อยลงตามไปด้วย) ขณะที่ความต้องการซื้อ (Demand) ยังคงมีอยู่
เปิดพฤติกรรมผู้ซื้อ มองหารถมือสองจาก “ออนไลน์”
สิ่งที่ผู้บริหารกรุงศรี ออโต้เปิดเผยอีกข้อคือพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป โดยผู้ซื้อในปัจจุบัน หันมามองหารถมือสองจากแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับบริการของ GO Auto Station (เข้าใช้งานได้ผ่านแอป โก บาย กรุงศรี ออโต้) โดยคุณคงสินกล่าวถึงจุดเด่นหลักของบริการดังกล่าวว่า
- มีรถยนต์มือสองให้เลือกกว่า 218,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีราว 130,000 คันเกือบเท่าตัว
- ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์สันดาปภายใน (ICE)
- สัดส่วนรถ EV บน Go Auto Station ยังน้อยมาก เนื่องจากตลาดยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และดีลเลอร์ยังไม่มั่นใจเรื่องการตั้งราคา
- มีบริการด้านการเงินสำหรับผู้ซื้อ เช่น สามารถเช็กวงเงิน หรือขอสินเชื่อยานยนต์ จากกรุงศรี ยูสด์ คาร์ (Krungsri Used Car) บนแอป โก บาย กรุงศรี ออโต้ ได้โดยตรง และสามารถคำนวณค่างวด และรับการอนุมัติสินเชื่อได้ภายใน 30 นาที โดยขั้นตอนทั้งหมดกระทำผ่านระบบดิจิทัล
คุณคงสินยังกล่าวต่อไปด้วยว่า รถมือสองที่ให้บริการบน Go Auto Station เป็นรถที่มาจากอีโคซิสเต็มของกรุงศรี ออโต้ ทั่วประเทศ โดยมีรถที่ผ่านการตรวจสภาพและจัดเกรดรถยนต์ (Car Grading) จากพันธมิตรมืออาชีพ พร้อมยังเชื่อมต่อกับบริการสินเชื่อ ประกันภัย การดูแลรักษารถ ไปจนถึงบริการสำหรับลูกค้าปัจจุบัน เช่น การชำระค่างวดรถ ต่อ พ.ร.บ. และสิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรในแอปเดียว
“กรุงศรี ออโต้ เชื่อมั่นว่าการรุกตลาดรถมือสองครั้งนี้ จะเป็นกลยุทธ์เปลี่ยนเกมทั้งในด้านการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของกรุงศรี ออโต้ การเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินพร้อมเป็นเจ้าของรถได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมถึงยังจะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตไปข้างหน้าพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศไทย” คุณคงสิน กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรุงศรี ยูสด์ คาร์ พบว่า บริษัทมีสัดส่วนยอดสินเชื่อรถมือสองดิจิทัลอยู่ที่ 45% และคาดว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นเกิน 50% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ Approval rate ของสินเชื่อรถมือสองปัจจุบันอยู่ที่ 80% เลยทีเดียว