HomeSponsored“กิฟฟารีน” First Mover เปิดตัว AI Coach “ยกเครื่อง” ธุรกิจ MLM รายแรกของไทย ด้วยพลัง AI

“กิฟฟารีน” First Mover เปิดตัว AI Coach “ยกเครื่อง” ธุรกิจ MLM รายแรกของไทย ด้วยพลัง AI

แชร์ :

กิฟฟารีนl เปิดตัว Giffarine AI Coach โซลูชั่นโค้ชส่วนตัว 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์  สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ปักธงเป็น First Mover “ยกเครื่อง” ธุรกิจขายตรง MLM เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยพลัง AI ที่ผสานเทคโนโลยีและโซลูชั่นจากมืออาชีพด้าน AI อย่าง Microsoft (ไมโครซอฟท์) และ FRONTIS (ฟรอนทิส) เพื่อช่วยนักธุรกิจกิฟฟารีนในการวางแผนขายสินค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แบบ “ไว – แน่น – แม่น” กว่าเดิม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

First Mover ติดปีกธุรกิจ MLM ด้วย AI

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดตัวครั้งสำคัญนี้ว่า เนื่องจากภาวะการแข่งขันและเศรษฐกิจที่ท้าทาย ทำให้ธุรกิจทุกประเภทต้อง “ปรับตัวให้เร็วกว่าพฤติกรรมผู้บริโภค” โดยเฉพาะการค้าขายในช่องทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กิฟฟารีนจึงได้เปิดตัว Giffarine AI Coach ซึ่งกิฟฟารีนได้ผนึกความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นจากมืออาชีพระดับโลกด้าน AI อย่าง Microsoft (ไมโครซอฟท์) และ FRONTIS (ฟรอนทิส) เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของนักธุรกิจกิฟฟารีน สู่โค้ชส่วนตัว 24 ชั่วโมง” ที่ช่วยงานขายครบวงจรอย่างจริงจังได้จริง “ง่าย ไว ถูกต้อง แน่น แม่นยำ” มากขึ้น” ทั้งการขายสินค้าและการแนะนำธุรกิจ

ยุทธศาสตร์ครั้งล่าสุดของ กิฟฟารีน นี้ถือเป็น First Mover ที่มุ่งยกเครื่องธุรกิจขายตรง MLM ประเทศไทย ด้วยพลัง AI เพื่อช่วยนักธุรกิจกิฟฟารีนวางแผนการขาย สร้างคอนเทนต์ วิดีโอไลฟ์ และต่อยอดฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ความโดดเด่นของ Giffarine AI Coach ที่จะช่วยติดปีกให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีน ประกอบด้วย

– Personalize Coaching โค้ชส่วนตัวที่ปรับคำแนะนำให้ตรงสไตล์และกลยุทธ์ของแต่ละคน ด้วยการแนะนำงานขายผ่านการไลฟ์สด เป็นครั้งแรกของการสร้าง VDO Mentor ส่วนตัว พร้อมนำเสนอจุดแข็ง จุดที่ควรต้องปรับปรุง และช่วยสร้างสคริปต์สำหรับไลฟ์ขายของได้ทันที

– AI Agent พร้อมใช้ เข้าถึงง่าย การเป็น AI Agent ช่วยให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเรียนรู้การทำงานออนไลน์ได้ด้วยตนเอง และประหยัดเวลาทำงาน โดยเพียงกรอกแบบสอบถามที่ออกแบบให้โดยเฉพาะ (Customize) ก็เริ่มต้นได้เหมือนมีโค้ชส่วนตัวบนโลกออนไลน์ที่ครบจบในที่เดี่ยว (One-stop Personalize Trainer Online)

– Real-Time Guidance 24/7 ช่วยคิด ช่วยเขียน ช่วยปรับ นำเสนอได้ทันที โซลูชั่นตอบโจทย์คนทำงานออนไลน์ที่ต้องการความคล่องตัว

พลัง AI พลังสร้างความได้เปรียบ

พญ.นลินีกล่าวเสริมต่อไปว่า “ยุคนี้ใครใช้ AI เก่ง คนนั้นได้เปรียบ เชื่อว่า AI เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจมากๆ ไม่ใช่แค่ธุรกิจขายตรง แต่รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ด้วย และกิฟฟารีนคือบริษัทขายตรงแบบ MLM แห่งแรกของไทยที่นำ AI มาวางแผนและโค้ชนักธุรกิจอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการนำเสนอสินค้าและการปิดการขายให้เติบโตต่อเนื่อง พลังเทคโนโลยีระดับโลกอยู่เบื้องหลังความง่ายที่นักขายสัมผัสได้ ทั้งนี้ โซลูชั่นนี้ผสานเทคโนโลยีคลาวด์และ Azure AI จาก Microsoft ร่วมกับความเชี่ยวชาญเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีของ FRONTIS เพื่อเปลี่ยน “โจทย์ความท้าทาย” ของทีมขายให้กลายเป็น “โซลูชั่นใช้งานจริง”

ขณะที่ นายปริญญ์ บุญดีสกุลโชค CEO & Managing Partner บริษัท ฟรอนทิส จำกัด กล่าวว่า  ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การสร้าง ‘ความได้เปรียบจาก AI’ หรือ ‘AI Advantage ให้เกิดขึ้นจริงในธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ การที่ FRONTIS ได้ให้คำปรึกษาและ ทำงานร่วมกับกิฟฟารีน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมองเห็นโอกาสนี้ก่อนใคร โดยเปลี่ยนโจทย์ความท้าทายให้กลายเป็นโซลูชั่น ทำให้การออกแบบ ‘Giffarine AI Coach’ มิใช่เป็นแค่เพียงเครื่องมือ หากแต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ช่วยเสริมศักยภาพให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอีกด้วย ซึ่งกิฟฟารีนถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุค AI Disruption นี้องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนอาจไม่ได้ขึ้นกับ  “ขนาดใหญ่ที่สุดหรือเร็วที่สุด” แต่เป็น “ผู้ที่ปรับตัวและสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์และคนทำงานได้อย่างตรงจุด”

ด้าน นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวถึงการประสานพลังผนึกครั้งนี้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของกิฟฟารีนว่า สำหรับการก้าวต่อไปในอนาคต กิฟฟารีนถือเป็นแบรนด์ MLM สัญชาติไทยรายแรกที่พัฒนาเครื่องมือ Giffarine AI Coach ในรูปแบบ AI Agent เพื่อเสริมศักยภาพนักธุรกิจกิฟฟารีนให้ทำงานได้สะดวกขึ้น มีข้อมูลที่แม่นยำ และสร้างสรรค์มากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีนี้จะสร้างอิมแพค และนำพากิฟฟารีนสู่การเป็น Frontier Firm ของธุรกิจขายตรงไทยในยุค AI อย่างแท้จริง”

เดินหน้ารุกตลาด Health & Beauty

ตลอดระยะเวลา 29 ปี กิฟฟารีน มุ่งขับเคลื่อนตลาดด้วย Consumer Insight ทั้งด้านงานขาย และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามครบวงจร รวมถึงการปรับกระบวนทัพทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ใหม่ๆ ทำให้บริษัทฯ ทำยอดขายรวมอยู่ที่ 110,758 ล้านบาท  ขณะที่ภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 ยังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์การเติบโตของตลาดสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) โดยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรงที่สมาคมการขายตรงไทยได้รวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 5.64 หมื่นล้านบาทนั้น พญ.นลินีกล่าวว่า สำหรับปี 2568 กิฟฟารีนจะรุกทำตลาดกับกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูงซึ่งประกอบด้วย กลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในกลุ่ม Longevity และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกน  พร้อมโฟกัสกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของนักธุรกิจกิฟฟารีน และโดนใจผู้บริโภค


แชร์ :

You may also like