HomeBrand Move !!จีนใช้หุ่นยนต์ 432 ตัว ยก “กลุ่มอาคาร” อายุร้อยปี เปิดทางสร้างเมืองใหม่ในเซี่ยงไฮ้

จีนใช้หุ่นยนต์ 432 ตัว ยก “กลุ่มอาคาร” อายุร้อยปี เปิดทางสร้างเมืองใหม่ในเซี่ยงไฮ้

แชร์ :

ขึ้นชื่อว่าจีนย่อมไม่ธรรมดา กับปรากฏการณ์การย้าย “กลุ่มอาคาร” อายุกว่า 100 ปีในเซี่ยงไฮ้ที่แทบไม่ต่างจากหนัง Sci-Fi โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังเป็นกองทัพหุ่นยนต์จำนวน 432 ตัว กับความสามารถในการเคลื่อนย้ายอาคารที่มีน้ำหนักมหาศาลกว่า 7,500 ตัน ออกไปวันละ 10 เมตร เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ใจกลางเมือง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สาเหตุที่เมืองเซี่ยงไฮ้เลือกที่จะใช้หุ่นยนต์ในการย้ายเมืองเพราะกลุ่มอาคารดังกล่าวเป็นเมืองเก่า และมีรูปแบบการก่อสร้างที่อิงทั้งสถาปัตยกรรมจีนและตะวันตกผสมกัน หรือที่เรียกว่า กลุ่มอาคารแบบสือกู่เหมิน (สร้างขึ้นช่วงทศวรรษ 1920–1930) โดยอาคารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของย่านเก่าแก่ “จางหยวน” อายุกว่า 140 ปีที่เปรียบเสมือน Living Heritage ของเซี่ยงไฮ้

แต่ด้วยแผนพัฒนาเมืองใหม่ ซึ่งทางเมืองเซี่ยงไฮ้ออกแบบให้มีโครงสร้างใต้ดินขนาดใหญ่ถึง 3 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 53,000 ตร.ม. รวมที่จอดรถ ศูนย์ขนส่งเชื่อมต่อรถไฟใต้ดินสายหลัก และพื้นที่ทางด้านวัฒนธรรม–การค้าในย่านดังกล่าว ทำให้ทีมวิศวกรต้องมองหาโซลูชันที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ และคำตอบก็คือการใช้ “หุ่นยนต์” เข้าช่วยเพื่อให้การย้ายกลุ่มอาคารครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่สำคัญ การเคลื่อนย้ายครั้งนี้ไม่ใช่ย้ายเป็นการถาวร เพราะตึกรามบ้านช่องทั้งหมดนี้จะถูกนำกลับมาตั้งในตำแหน่งเดิมอีกครั้งเมื่อโครงการใต้ดินแล้วเสร็จ

การใช้ “กองทัพหุ่นยนต์เดินได้” ที่สามารถยกทั้ง “กลุ่มอาคาร” ขึ้นพร้อมกันของวิศวกรจีนจึงเกิดขึ้น โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถเคลื่อนกลุ่มอาคารไปได้ทีละก้าว ๆ เฉลี่ยวันละ 10 เมตร ไม่เพียงเท่านั้น จีนยังมีการพัฒนาหุ่นยนต์เฉพาะทาง เช่น หุ่นยนต์ขุดเจาะฐานรากที่เล็กพอจะผ่านประตูแคบ ๆ และหุ่นยนต์ขนย้ายดินที่มีแขนพับได้ และสามารถทำงานในพื้นที่กว้างไม่ถึง 1.2 เมตรได้อย่างแม่นยำเข้ามาช่วยในงานนี้ด้วย นั่นทำให้โปรเจ็คดังกล่าวได้รับการบันทึกไว้ว่า เป็นภาพการย้ายกลุ่มอาคารที่ใหญ่ที่สุดในจีน ทั้งน้ำหนัก ขนาด และความซับซ้อน

AI + Digital Twin เบื้องหลังความสำเร็จ

ความอัจฉริยะอีกขั้นมาจากการใช้ AI และเทคโนโลยีจำลองเสมือนจริง โดยวิศวกรจีนมีการใช้ BIM (Building Information Modeling) และ Point Cloud Scanning เพื่อสร้างโมเดล 3 มิติของพื้นที่จริงแบบความละเอียดสูง และใช้ AI ช่วยวิเคราะห์เส้นทาง กำหนดการเคลื่อนไหว รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของการชน และออกแบบเส้นทางกำจัดดินเป็น “เส้นโค้ง” พร้อมสายพานลำเลียงเหมือนโรงงาน

“เราออกแบบเส้นทางขนส่งดินแบบโค้งหลายเส้นทาง พร้อมรอกยกรางและสายพานลำเลียง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังตั้งเป้าให้ก่อผลกระทบต่อตัวตึก และคนในย่านดังกล่าวให้น้อยที่สุด” จาง อี้ (Zhang Yi) ผู้จัดการใหญ่ Shanghai Construction No. 2 ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับผิดชอบโปรเจ็คนี้กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ จางหยวนจะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเซี่ยงไฮ้ ที่สำคัญ มันยังสะท้อนว่า มนุษย์สามารถอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ พร้อม ๆ กับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดินที่ล้ำสมัยได้พร้อม ๆ กัน หากมีการปรับใช้เทคโนโลยี, AI และความรู้ด้านวิศวกรรมได้อย่างเหมาะสม

Source

Source


แชร์ :

You may also like