HomePR Newsมูจิ ประเทศไทย สร้างชื่อคว้ารางวัลระดับนานาชาติ “Brand Store of The Year–Thailand” จากเวที “Retail Asia Awards”

มูจิ ประเทศไทย สร้างชื่อคว้ารางวัลระดับนานาชาติ “Brand Store of The Year–Thailand” จากเวที “Retail Asia Awards”

แชร์ :

มูจิ ประเทศไทย (MUJI) โชว์ความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทย คว้ารางวัล Retail Asia Awards จากเวทีใหญ่ในการประกาศรางวัลด้านธุรกิจซึ่งจัดขึ้นโดย Charlton Media Group ประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกย่องแบรนด์ค้าปลีกที่มีความเป็นเลิศในด้านความสำเร็จ และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมค้าปลีกทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในปี 2568 มูจิ ประเทศไทย ได้รับรางวัลในสาขา “Brand Store of The Year – Thailand” ที่คัดเลือกแบรนด์ร้านค้าปลีก ในรูปแบบร้านค้าจริง (Physical Stores) โดยประเมินจากความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า ความสะดวกสบาย และประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดี ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่นความสวยงามของร้านค้า การจัดวางสินค้า มารยาทและการบริการของพนักงาน และความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มูจิ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สามัญประจำบ้านในใจคนไทย ซึ่งการได้รับรางวัล “Brand Store of The Year – Thailand” ในครั้งนี้ถือเป็นผลตอบแทนแห่งความสำเร็จของแบรนด์มูจิ และพนักงานของเราทุกคนที่มีส่วนร่วมกับรางวัลอันทรงเกียรติในวันนี้ โดย มูจิ ประเทศไทย แบรนด์ร้านค้าปลีกจากประเทศไทยเพียงหนึ่งเดียว ที่ผ่านการประเมินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยปัจจัยที่ทำให้ มูจิ ประเทศไทย มีความโดดเด่นอย่างรอบด้านจนสามารถคว้ารางวัลมาครองได้ในปีนี้ก็คือ

การขยายสาขาอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ พร้อมสร้างประสบการณ์ร้านค้ารูปแบบใหม่

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มูจิ ประเทศไทย ได้เดินหน้ากลยุทธ์ในการขยายสาขาไปยังทั่วทุกภูมิภาค โดยได้เปิดตัวสาขาใหม่รวม กว่า 10 แห่งภายในปี 2566–2567 ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาของร้านค้า MUJI ในประเทศไทยรวมกว่า 39 แห่ง อาทิ มูจิ วัน แบงค็อก ซึ่งเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ยกว่า 1,000 คน/วัน โดดเด่นด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นกว่า 10% ภายใน 1 เดือน หลังเปิดตัวสาขาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมูจิมองว่าประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ขั้นตอนการซื้อสินค้า แต่คือการออกแบบประสบการณ์ให้ตอบสนองทุกประสาทสัมผัสของลูกค้า ตั้งแต่ก้าวเข้าร้านจนถึงหลังการซื้อ โดยใส่ใจในรายละเอียดในการสร้างสรรค์ In-Store Atmosphere ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน การจัดวางสินค้า แสง สี เสียง กลิ่น ไปจนถึงเพลงที่เปิด เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสบายใจ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายในทุกวินาทีของการช้อปปิ้ง โดยปัจจุบันร้านสาขาใหม่ๆ ของ MUJI ได้ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “มูจิในชีวิตประจำวัน”

ผสมผสานบริการเสริม เช่น มุมกาแฟ บริการปักผ้า–สกรีนเสื้อ รวมถึง Interior Advisor Consultation บริการให้คำปรึกษา และแนะนำการออกแบบภายในบ้าน ตั้งแต่วิธีการจัดบ้าน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้ลูกค้าได้สนุกไปกับการจัดฟังก์ชั่น และตกแต่งห้องที่เหมาะสมกับพื้นที่และไลฟ์สไตล์ ในดีไซน์ที่เรียบง่ายตามแบบฉบับของมูจิ เป็นต้น ในส่วนของการสร้างประสบการณ์การจัดวางสินค้า (Product Experience) ก็ถูกวางแผนมาอย่างมีระบบ สินค้าแต่ละชิ้นถูกจัดวางให้เข้าใจง่าย มีตัวอย่างให้ทดลองจริง พร้อมติดป้ายราคาชัดเจน และมีการแจ้งโปรโมชั่นที่ครบถ้วน

หรือแม้แต่ ประสบการณ์หลังการขาย (Post-Purchase Experience) ก็สำคัญไม่แพ้กัน การให้ความใส่ใจกับการรับประกันสินค้า การคืนของที่ไม่ยุ่งยาก และความพึงพอใจหลังการใช้งาน ซึ่งจากกลยุทธ์ การขยายสาขาอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ พร้อมสร้างประสบการณ์ร้านค้ารูปแบบใหม่ ส่งผลให้ มูจิ ประเทศไทย สามารถทุบสถิติอัตราการเติบโตด้วยเลขสองหลัก (Double Digit) ในปี 2567 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ในส่วนช่องทางการสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์ บัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดียของ มูจิ ประเทศไทย ยังมีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวภายใน 3 ปี นอกจาก Facebook และ Instagram ยังมีการขยายช่องทางไปยังแพลตฟอร์มที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบันอย่าง TikTok และ Line Official Account ร่วมด้วย

การมีส่วนร่วมกับชุมชนและการสร้างผลกระทบเชิงบวกในท้องถิ่น

มูจิ ประเทศไทย นำเสนอประสบการณ์ร้านค้าปลีกที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ตั้งแต่การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุตกแต่ง รวมถึงการคัดเลือกสินค้า และการจัดกิจกรรมพิเศษภายในร้านให้เหมาะสมกับบริบททางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น อาทิ สาขาเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต มีการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และช่างฝีมือท้องถิ่น จัดเวิร์กช็อป และให้พื้นที่ในการขายผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการในท้องถิ่น ในส่วนของสาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สาขาขอนแก่น อุดรธานี และนครราชสีมา มีการเปิดพื้นที่แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด-ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้แก่ผู้ประกอบการในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับท้องถิ่นและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย

มูจิ ประเทศไทย ได้คัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในประเทศ พร้อมส่งเสริมความยั่งยืน และสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค อาทิ ผลไม้อบเคลือบช็อกโกแลตหลากรส เช่น มะม่วง ส้ม กล้วย และบลูเบอร์รี่ ผลิตจากวัตถุดิบไทยคุณภาพ น้ำแร่ธรรมชาติจากเพชรบูรณ์ ที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากแหล่งธรรมชาติ ขนมอบกรอบรสกุ้ง ซึ่งตอบโจทย์ความนิยมด้านรสชาติของผู้บริโภคชาวไทย โดยเน้นใช้วัตถุดิบ ปลอดสารกันเสียและสารเคมี เพื่อมอบประสบการณ์อาหารที่ดี สอดคล้องกับรสนิยม ความชอบ และวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งสร้างรายได้และโอกาสให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตท้องถิ่นในหลายภูมิภาค ซึ่งการที่มูจิ ประเทศไทย ได้รับรางวัลในสาขา “Brand Store of The Year – Thailand” ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่ผู้นำแบรนด์ร้านค้าปลีกในประเทศไทย แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่โดดเด่นและเปี่ยมด้วยศักยภาพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ” นายอกิฮิโร่ กล่าวเสริม

คุณอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อว่าความสำเร็จของ มูจิ ในประเทศไทย ไม่ได้มาจากแค่ยอดขายสินค้าเท่านั้น แต่มาจากการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมในทุกมิติ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 เรายังคงมุ่งมั่นในยกระดับประสบการณ์แบบ MUJI ให้ลึกซึ้ง ครบทุกมิติของการใช้ชีวิต ผ่านการเปิดตัวสาขารูปแบบใหม่ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจค้าปลีกไทย ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ทรงพลัง พื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กัน ไปจนถึงบริการเฉพาะบุคคลที่สะท้อนความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยสาขาใหม่นี้จะเป็นมากกว่าร้านค้า แต่จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ที่เชื่อมโยงระหว่างผู้คน ชุมชน และวัฒนธรรมไทยในมุมมองร่วมสมัย ภายใต้ “ความเรียบง่าย” ที่แบรนด์ยึดถือมาโดยตลอด โดยยังคงไม่ทิ้งความใส่ใจสิ่งแวดล้อม และฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้จริง ในขณะเดียวกัน เรายังเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบไลฟ์ไลฟ์สไตล์ ความชอบ และวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ ปราศจากสารเคมี สอดคล้องกับแนวคิดสุขภาพและความยั่งยืนของแบรนด์ หรือสินค้าในกลุ่มบ้านและของใช้ที่สะท้อนการใช้ชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง”

สำหรับ MUJI เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ในรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ โดยสามารถขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในปี พ.ศ. 2556 ได้ก่อตั้ง บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้ MUJI ในประเทศไทย แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันธุรกิจของ MUJI ในประเทศไทยกำลังเติบโต มีสินค้าจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ และมีสาขาจำนวน 39 แห่งทั่วประเทศไทย


แชร์ :

You may also like