รับจบทุกความต้องการในการเดินทางของคนเมืองไปอีกขั้น เมื่อ “ลาลามูฟ” ขยายจักรวาลความสะดวกด้วยการเปิดตัว Lalamove Ride สำหรับบริการรับ-ส่งผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แถมสามารถเรียกใช้ได้อย่างง่ายดายผ่านแอป Lalamove เดิม ไม่ต้องโหลดแอปใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย
จากแอปส่งของสุดฮอต สู่บริการเรียกรถสุดสะดวก
ชื่อของ ลาลามูฟ หรือ Lalamove เป็นที่รู้จักในไทยตั้งแต่ปี 2557 ในฐานะแพลตฟอร์มด้านการขนส่งสินค้าแบบ On-Demand โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้ง ผู้ใช้งานทั่วไป ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ จุดเด่นของ Lalamove คือความสะดวกรวดเร็ว, ราคาที่เข้าถึงง่าย และยานพาหนะที่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งทำให้แบรนด์ของลาลามูฟเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาตลอด 10 ปี
ด้วยเหตุนี้ การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Lalamove Ride ในปี 2568 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่น่าจับตาอย่างยิ่ง โดย คุณเบน ลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลาลามูฟ อีซี่แวน (ประเทศไทย) จำกัด เผยภาพให้เห็นชัดมากขึ้นว่า มาจากความต้องการของคนเมืองที่ต้องการตัวช่วยด้านการเดินทางสูงมาก ไม่เพียงเท่านั้น ลาลามูฟยังพบว่า สิ่งที่คนกรุงเทพและปริมณฑลมองหาลึกลงไปกว่านั้นก็คือ เรื่องของคุณภาพและประสบการณ์ในการเดินทางที่ดี เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจ
“เราเชื่อว่า การเปิดตัว Lalamove Ride ซึ่งเป็นบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน อีกทั้งยังมีประสบการณ์กว่า 10 ปีในธุรกิจขนส่งสินค้าจะสามารถเข้ามาตอบโจทย์การเดินทางในจุดนี้ได้ เนื่องจาก Lalamove Ride เป็นบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างครบวงจร สามารถทำได้ทั้งส่งของ และเดินทาง แถมเลือกประเภทรถได้หลากหลายตามความต้องการอีกด้วย”
“ไม่เพียงเท่านั้น การขยายบริการ Lalamove Ride ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคนขับอิสระที่มีความรู้และประสบการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นอย่างดี และเราเชื่อว่า คนขับอิสระจะสามารถรับส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยเช่นกัน”
ทั้งนี้ การเปิดฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวยังสอดคล้องกับรายงาน e-Conomy SEA 2024 ที่จัดทำโดย Google, เทมาเส็ก และ Bain & Company กับข้อมูลที่ว่า การขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ของไทย เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่จะส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมี GMV รวมกันกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โตขึ้น 6% จากปีที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวนั่นเอง
เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าว ผู้บริหาร Lalamove เผยด้วยว่า บริษัทได้รับอนุญาตการเป็นผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นทางการจากกรมการขนส่งทางบกแล้ว นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งข้อมูลการันตีเรื่องความมั่นใจ และความโปร่งใสของอัตราค่าบริการ
นอกจากนี้ เพื่อต้อนรับบริการใหม่ ทาง Lalamove มีโปรโมชันพิเศษโดยให้ส่วนลดถึง 50% สำหรับการเรียกใช้ Lalamove Ride (รถยนต์ทุกประเภท ยกเว้นรถแท็กซี่) เพียงกรอกโค้ด LABUFFET (เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2568) นี้ ใครสนใจอยากลองใช้ สามารถกดเรียกรถได้เลยจากแอปพลิเคชัน Lalamove หรือถ้ายังไม่ได้ดาวน์โหลด สามารถเข้าไปได้ที่ https://lalamove.onelink.me/kvKN/wv0p999h
