HomeBrand Move !!ตลาดในเมืองไทยยังโตได้อีกเยอะ MR.D.I.Y. ทุ่ม 2 พันล้าน เปิดสาขาใหม่อีก 200 สาขา ปีนี้ต้องมีสาขาทะลุ 1 พัน

ตลาดในเมืองไทยยังโตได้อีกเยอะ MR.D.I.Y. ทุ่ม 2 พันล้าน เปิดสาขาใหม่อีก 200 สาขา ปีนี้ต้องมีสาขาทะลุ 1 พัน

แชร์ :


มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. (MR.D.I.Y.)
เริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2016 ด้วยจุดเด่นการเป็นร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่จำหน่ายด้วยราคาย่อมเยาว์ ปี 2025 นี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญของมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ด้วยจำนวนสาขา “ทะลุ 1 พันแห่ง” เป็นครั้งแรก

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ขนาดสาขาหลากหลายตามความต้องการลูกค้า

มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ประเดิมร้านสาขาด้วยการเข้าไปอยู่ห้างสรรพสินค้าเป็นเทสโก้ โลตัสยาวนานกว่า 3 ปี ก่อนที่ในปี 2019 จะเริ่มต้นมีฟอร์แมตสาขาในรูปแบบอื่นๆ เช่น Stand Alone ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในต่างจังหวัด รวมทั้งมีไอเท็มสินค้าที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวที่มีพื้นที่มากขึ้น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่มีโรคระบาดพอดี นั่นทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทั้งเรื่องการซื้อสินค้านอกห้างฯ มากขึ้น และมีไลฟ์สไตล์การแต่งบ้าน งานอดิเรกเพิ่มมากขึ้น ทำให้ คุณแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง(ประเทศไทย) เล่าว่า ทางแบรนด์จึงลุยเปิดสาขา Stand Alone อย่างหนัก โดยจุดเด่นที่ในบางจังหวัดไม่มี ห้างสรรพสินค้า การเปิดมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.จึงทำให้สินค้าราคาที่ดีเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยพื้นที่ร้านขนาดใหญ่สุดมีสูงถึง 2,000 ตารางเมตร ขณะเดียวกันก็มีร้านที่สาขา 400 ตารางเมตร ปัจจุบันมีสาขาครบทั้ง 77 จังหวัดไปเมื่อหลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ถูกกว่าคู่แข่ง 24%

ภาพจำอีกประเด็นสำคัญของ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.  ก็คือ “ราคา” ซึ่งเบื้องหลังการทำงานก็คือ การแสวงหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสม ผสมผสานทั้งการนำเข้าและผู้ผลิตท้องถิ่น โดยในตอนนี้ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ใช้บริการผู้ผลิตภายในประเทศไทย 350 ราย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งได้คุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ประกอบกับกลยุทธ์ Economies of Scale ที่ขยายสาขาในประเทศไทย ก็ทำให้มีต้นทุนด้านการบริหารจัดการ ไปจนถึงราคาจากพันธมิตร ส่งผลให้ในภาพรวมในตอนนี้ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. เฉลี่ยแล้วสินค้ามีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 24.7%

นอกจากนี้ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.ยังคงมุ่งมั่นขยายสาขาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการยื่นไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย เพื่อมองหาโอกาสในช่วงเวลาที่เหมาะสม คุณแอนดี้ ยังคงแสดงความมั่นใจในประเทศไทย เปรียบเทียบกับสถานการณ์ในประเทศอื่นว่า “ที่อินโดนีเซียเป็นตลาดที่ใหญ่ มีประชากรมากกว่าที่ไทยถึง 4 เท่า ก็มีความสำคัญสำหรับ Mass Market อย่างมาก อย่างไรก็ตามจำนวนประชากรต้องพิจารณาถึงกำลังซื้อด้วย ที่อินเดียมีจำนวนประชากรมาก แต่ชนชั้นอาจจะไม่มีกำลังซื้อขนาดนั้น สำหรับประเทศไทยมีความเหมาะสมทั้งเรื่องของกำลังซื้อ ที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบ แต่ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องหาสินค้าที่มีความเหมาะสมกับความต้องการ และยิ่งคนมองหาสินค้าที่มีราคาคุ้มค่าก็ยิ่งเป็นโอกาสของเรา ที่มาเลเซียเฉลี่ย 1 สาขา รองรับลูกค้าประมาณ 25,000 ราย ส่วนตอนนี้ที่ไทย 1 สาขา มีลูกค้าราว 77,000 คน ดังนั้นแปลว่าเมืองไทยยังคงมีศักยภาพที่ขยายได้อีก 3 เท่า”

ปัจจุบันมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ดำเนินธุรกิจใน 14 ประเทศ ต้นกำเนิด มาเลเซีย มี 1,300 สาขา ตามมาด้วยประเทศไทยซึ่งจะมี 1,000 สาขาภายในปีนี้ และอินโดนีเซีย มีกว่า 900 สาขา ฟิลิปปินส์มีประมาณ 600 สาขา นอกจากนี้ประเทศอื่นๆ เช่น สเปน ตุรกี โปแลนด์ และอินเดีย


แชร์ :

You may also like