ปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกทุกวันนี้ มี “เทคโนโลยี” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญ ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นกับทุกอุตสาหกรรม โดยการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีจะยิ่งรวดเร็วขึ้น เมื่อเจอกับการปรากฏตัวของ Gen AI
เพื่อเข้าใจถึงความสำคัญและอนาคตของ AI ในประเทศไทย เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการเทคโนโลยีไทย ที่ได้แชร์ประสบการณ์และมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้มาฝากกัน
2025 ปีแห่ง Agentic AI
“เทคโนโลยีที่จะมาในปีนี้คือ Agentic AI และสองคือ Agentic Workflow บริษัทจะเริ่มมีการทดลอง Agentic AI กันครับ แต่ Agentic AI ที่หลายคนบอกว่าจะเริ่มมีการทดลองในปีนี้ยังไม่ใช่ Agentic AI ขั้นสุด แต่เป็นกระบวนการในการรับคำสั่งและนำไปสู่ Workflow Automation หรืออาจเป็น Robotic Process Automation ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะไปสู่ยุค Agentic AI จริง ๆ” คุณกระทิงกล่าวเริ่มต้น
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
เมื่อมี AI สุดล้ำแล้ว ประเด็นต่อมาคือการทำงานร่วมกันระหว่าง AI และมนุษย์ โดยคุณกระทิงอธิบายให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า “เป็นการออกแบบกระบวนการในองค์กรตั้งแต่ต้นจนจบ ในแบบที่มีทั้งมนุษย์ และ AI ทำงานร่วมกัน” พร้อมยกตัวอย่างการทำงานของ KBTG ที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วว่า
“เราให้ AI มาช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ทำให้เราเขียนไปได้เกือบห้าแสนบรรทัด ซึ่งการทรานสฟอร์มเรื่องของ Process แบบ End-to-End จะเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ องค์กรที่ปรับตัวได้ และหลอมรวมเทคนิคต่าง ๆ ได้ก็จะเติบโตเลย ส่วนองค์กรที่ทำไม่ได้จะถูกทิ้งห่างไปพอสมควร”
ชิป AI ยุคใหม่ ใช้พลังงานต่ำ
ความสามารถด้าน AI ไม่เพียงส่งผลต่อวงการซอฟต์แวร์ ในวงการฮาร์ดแวร์ก็มีการพัฒนาด้วยเช่นกัน โดยคุณกระทิงเผยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาในวงการฮาร์ดแวร์ เช่น การผลิตชิปด้วยแนวคิดใหม่ เป็นชิปที่ใช้พลังงานต่ำ (Low Energy Consumption) และมีราคาย่อมเยากว่าชิปแบบเดิมเพื่อรองรับ Edge AI
“ชิปเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับ AI แบบ Small Language Model หรือ AI ที่ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ซึ่งบางกรณีเราอาจได้เห็นมันทำงานแบบ Mini Reasoning หรือตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ปีนี้จะเริ่มเห็น Edge AI มากขึ้น หรือหากเรียกเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายก็อาจจะใช้คำว่า Intelligence Everywhere คือเป็น Intelligence ที่อยู่ภายใน แต่อยู่ในทุกที่ ซึ่งทำให้บางทีไม่ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลที่คลาวด์อีกต่อไปแล้ว”
ทั้งนี้ Edge AI จะเกิดขึ้นได้ต้องมี Energy Efficiency computing นั่นคือ AI ต้องวางอยู่บนชิป และสถาปัตยกรรมที่ประหยัดพลังงาน และรันโดยใช้พารามิเตอร์ไม่มากนักนั่นเอง
2028 เข้าสู่ “ควอนตัม” เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
เทคโนโลยีต่อไปที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในมุมของคุณกระทิงคือ เทคโนโลยีควอนตัม (Quantum) โดยคุณกระทิงคาดการณ์ว่า โลกยุคควอนตัมจะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในช่วงปี 2028 เป็นต้นไป
ขณะที่ KBTG เองมีการทำวิจัยเกี่ยวกับควอนตัมแล้ว ตั้งแต่ปี 2020 – 2021 และมีการร่วมมือกับหลายภาคส่วน เช่น Quantum Technology foundation (QTFT) เป็นต้น
“ควอนตัมเมื่อเทียบกับ AI ถือว่าไกลตัวกว่าเยอะ แต่มาเมื่อไร โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล เช่น การเข้ารหัสของธนาคาร – เซอร์วิสต่าง ๆ ทำให้ในตอนนี้ สถาบันการเงินขนาดใหญ่จึงเริ่มพัฒนาขีดความสามารถด้านควอนตัมกันแล้ว เช่น ธนาคาร OCBC ในสิงคโปร์ ที่มีการรีสกิลวิศวกรให้มีทักษะด้านควอนตัมประมาณ 100 คน (ธันวาคม 2024) เจพีมอร์แกน – โกลด์แมนแซก ก็น่าจะมีแล้ว ดังนั้นเป็นเรื่องที่ทิ้งไม่ได้”
AI in Healthcare เมื่ออายุสามารถต่อได้แบบ Subscription
ในเวลาที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ มีการพัฒนาและปรับใช้ AI อย่างกว้างขวาง วงการ Healthcare ก็เช่นกัน โดยคุณกระทิง คาดการณ์ว่า Healthcare คืออีกหนึ่งธีมใหญ่ของปีนี้ที่ AI จะมีบทบาทอย่างมาก
“เฮลท์แคร์คือตลาดที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลกรองจากธุรกิจพลังงาน ส่วนหนึ่งเพราะ Aging Society เราเข้าสู่สังคมสูงอายุ รวมถึงเกิดโรคใหม่ ๆ ขึ้นมาเต็มไปหมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Healthcare เป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่ง AI ใน Healthcare จะเป็นในรูปแบบการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ให้ AI ช่วยรับฟังปัญหา หรือในจีนก็มีคนทำธุรกิจ AI Companion เพื่อรองรับ Loneliness Society เป็นต้น”
“แต่เรื่องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ AI จะช่วยเราค้นพบกระบวนการแห่งการย้อนวัย (Reverse Aging) เช่น การค้นพบสารที่สามารถ Reverse บางส่วน หรือกระบวนการบางอย่างของร่างกายได้ โดยอาจเป็นรังสี ฉายตรงผม กระตุ้นผมให้งอกออกมา จากความสามารถนี้ ทำให้เริ่มมีการคิดถึง “One hundred year life” ถ้ามนุษย์อยู่ได้ร้อยปีเป็นเรื่องปกติ จะเป็นอย่างไร หรือโลกอนาคตอาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ พอจะหมดอายุก็จ่ายเพื่อต่ออายุไปเหมือน Subscription และถ้าอยากอยู่แบบหล่อด้วย หน้าตึงด้วย ก็จ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งในมุมหนึ่ง มันคือเพิ่มความเหลื่อมล้ำ แต่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เพราะ AI”
จะเกิดอะไรกับกสิกรไทย เมื่อใช้ AI ในทุกมิติ
จากความก้าวหน้าของ AI ที่กล่าวมา รวมถึงสิ่งที่ KBTG เริ่มปรับใช้ภายในองค์กร จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพของ KBTG และกสิกรไทยในอนาคตอันใกล้ย่อมเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน โดยคุณกระทิงกล่าวในจุดนี้ว่า
“อันดับแรกเลยคือ กระบวนการทำงานของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากแต่ก่อน เราสามารถเพิ่ม Productivity ได้ 2.25 เท่าในเวลา 6 ปี แต่ต่อไปเราจะเพิ่ม Productivity ได้ 2.25 เท่าในเวลา 3 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น และในระยะยาวเราคาดว่าจะเพิ่ม productivity ได้ 10 เท่าในเวลา 10 ปี หรือก็คือพนักงาน KBTG 2,600 คนจะทำงานได้เท่ากับ 26,000 คน ซึ่งนักพัฒนาจะพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เร็วขึ้นมาก จากความช่วยเหลือของ AI”
ความสามารถที่จะเพิ่มขึ้นอีกสองข้อในมุมของคุณกระทิงก็คือ การนำ AI มาใช้ในการมอนิเตอร์โครงสร้างพื้นฐาน และไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพิ่มความปลอดภัยให้กับการทำธุรกรรมทางการเงิน และป้องกันการถูกจู่โจม ตลอดจนการนำ AI Agent ไปช่วยฝ่ายต่าง ๆ เช่น คอลล์เซนเตอร์, ฝ่ายขาย, พนักงานสาขา โดยคุณกระทิงเล่าถึงกระบวนการนี้ว่า เริ่มต้นจากภายใน KBTG ก่อน ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มต่าง ๆ จากนั้นก็เชื่อมเข้ากับ AI Agents เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Agentic Workflow (นำ AI ไปใส่ในแอปพลิเคชัน เพื่อช่วยพนักงานฝั่งบิสซิเนสให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
เปิดโลก BioTech เทคโนโลยีสุดท้าทาย
“KBTG เราจะจบ AI transformation รอบนี้ในปี 2028 หลังจากนั้น เราจะเริ่ม Ramp-up ในเรื่องควอนตัมอย่างเต็มตัว และจะมีทีมคอยจับตาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ร่วมด้วย”
ทั้งนี้ หนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ที่คุณกระทิงให้ความสำคัญไม่แพ้ควอนตัมก็คือ BioTech ที่คุณกระทิงยกตัวอย่างแนวคิดของการสร้างซูเปอร์ทรี หรือต้นไม้พันธุ์ใหม่ที่สามารถดูดซึมก๊าซคาร์บอนได้มากกว่าต้นไม้แบบเดิมถึง 10 เท่า
“ความยากคือ มนุษย์ไม่รู้ว่าซูเปอร์ทรีจะส่งผลอะไรต่อสภาพแวดล้อมบ้าง มันอาจดูดซึมสารอาหาร และทำให้ดินรอบ ๆ แย่ไปหมดก็ได้ เราจึงมองว่า BioTech นั้นท้าทายกว่า AI เพราะเทคโนโลยีตัวนี้ได้เข้าไปในขอบเขตของพระเจ้าแล้ว หรือเกิดคนรุ่นต่อไปสามารถสร้างเชื้อโรคได้ สร้างซูเปอร์แมลงสาบได้ จะทำอย่างไร”
“ผมจึงมองว่า การอยู่กับเทคโนโลยี เราต้องยกระดับจิตใจของตัวเอง เรื่องนี้สำคัญมาก หน้าที่ของพี่คือส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้กับคนรุ่นต่อไป”
“ถ้าเรามีเครื่องมือ มี AI มีความสามารถในการโปรแกรม Life นั่นเท่ากับว่าเรามีเครื่องมือที่ใกล้เคียงกับพระเจ้าแล้ว มนุษย์ก็ต้องยกระดับจิตใจให้ใกล้เคียงกับพระเจ้าด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้น ทุกอย่างจะไม่มีประโยชน์เลย เราจะกลายเป็นปิศาจแทนอย่างแน่นอน” คุณกระทิงกล่าวปิดท้าย