ในยุคที่ความสะดวกสบายกลายมาเป็นปัจจัยหลักของคนรุ่นใหม่ในการดำรงชีวิต ก่อให้เกิดสิ่งอำนวยต่างๆมากมายในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจอาหารอีกหนึ่งอุตสาหกรรมมีการแข่งขันมากขึ้นทั้งเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทั้งในแง่ความสะดวกสบายและสุขภาพ
เหล่านี้ทำให้ธุรกิจอาหารโดยเฉพาะกลุ่ม Ready-to-Eat & Grab-and-Go ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็ว โดยมี CPRAM (ซีพีแรม) เป็นผู้นำตลาดอาหารพร้อมทานมายาวนาน มีเมนูต่างๆวางจำหน่ายกว่า 1,100 รายการ มีรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือ ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี โดยในปี 2567 ทำรายได้ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท และวางเป้าหมายเพิ่มเป็น 34,000 หมื่นล้านบาทในปี 2568 นี้
วันนี้ CPRAM ไม่เพียงแต่สานต่อความสำเร็จ แต่เดินหน้า “ยกระดับธุรกิจอาหาร” ผ่านการตั้ง “ศูนย์เทคโนโลยีอาหาร” และ “สถาบันพัฒนาศักยภาพด้านอาหารครบวงจร” ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท หวังพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารไทยให้แข่งขันในระดับโลกภายใต้แนวคิด “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ได้จริงไม่ใช่แค่ “นิยาม”
คุณวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู
ทุ่ม 100 ล้าน เปิด Food Tech Center เสริมทัพ R&D ยกระดับคุณภาพ
คุณวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ CPRAM ก้าวเข้าสู่ยุคที่ 8 หรือเรียกยุคนี้ว่า “ไร้พรมแดน” (Borderless Era) ที่การทำงานร่วมกับพันธมิตรในทุกระดับจะไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรด้านวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือช่องทางการตลาด พร้อมต่อยอดแนวคิด “ครัวของโลก” ผ่านการพัฒนาเมนูที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีสำคัญ 3 ด้านได้แก่
- Biotech (ไบโอเทคโนโลยี): พัฒนาวัตถุดิบสุขภาพ โปรตีนทางเลือก และอาหารฟังก์ชัน
- Automation & Robotics: เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต ลดแรงงานซ้ำซ้อน
- Digital Technology: วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคแบบ Real-time พัฒนาเมนูแบบแม่นยำ
ล่าสุดได้ใช้เม็ดเงินลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อจัดตั้ง FTEC (Food Technology Exchange Center) ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร ตั้งอยู่ที่อาคาร ฟู้ด เทคโนโลยี ธาราพาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี โดย FTEC จะมีบทบาทในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร ของไทย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี อย่างไร้พรมแดน
“ที่สถาบันของเราจะมีการพัฒนาเมนูใหม่ร่วมกับทีมเชฟ นักโภชนาการ และนักวิจัยอาหาร พร้อมระบบทดลองการผลิตจริงก่อนปล่อยลงตลาด ทั้งยังใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Insight AI)”
ทั้งหมดเพื่อรองรับตลาดอาหารพร้อมรับประทานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากวิจัยกรุงศรีคาดว่าในปี 2568 ปริมาณการจำหน่ายอาหารพร้อมทานในประเทศจะขยายตัวขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Ready-to-Eat & Grab-and-Go ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ซีพีแรมจึงมุ่งพัฒนา อาหารพร้อมรับประทานและเบเกอรี่ที่มีคุณภาพสูง และคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดและเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน พัฒนาอาหารท้องถิ่นสู่ตลาดแมสในหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
- ตลาดอาหารมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นสูงมาก เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย นักกีฬา ต่างมีความต้องการเฉพาะ
- แนวโน้มสุขภาพเป็นเทรนด์หลัก CPRAM พัฒนาเมนูสุขภาพมากขึ้น เช่น อาหาร Plant-based, โปรตีนสูง, น้ำตาลต่ำ ฯลฯ
- ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เช่น การจับมือกับพันธมิตรในการพัฒนาเมนูใหม่ๆท สร้างจุดขายและรายได้ไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ FTEC ยังจะเข้ามาช่วยพัฒนาและวิจัยการยืดอายุเมนูอาหารมากขึ้นเนื่องจากเมนูของซีพีแรมไม่มีการใช้สารกันบูดแต่เป็นการใช้เทคโนโลยีในการผลิตเพื่อยืดอายุแทน นอกจากนี้ยังจะมีการวิจับและพัฒนาการใช้วัตถุดิบอย่างเต็มที่ โดยจะเน้นจัดการเรื่องการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และอาหารขยะ (Food Waste) ได้อย่างเหมาะสม
ปัจจุบัน CPRAM มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายทั้งสิ้น 1,100 รายการ แบ่งเป็น อาหารพร้อมทาน (ready to eat) 550 เมนู และเบเกอรี่ 450 เมนู ซึ่งศูนย์ฯ จะทำให้ซีพีแรม สามารถผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาได้มากขึ้น และแม่นยำขึ้น โดยปีนี้จะเปิดตัวเมนูใหม่ทั้งสิ้น 500 เมนู เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่มี 450 เมนู
เมนูไฮไลต์เมนูขายดี “ข้าวเปล่า-กระเพรา-ข้าวผัด-ผัดซีอิ๊ว” ตอบโจทย์คนยุคใหม่
หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจ คือการเปิดเผยเมนูยอดนิยมประจำปี ซึ่งไม่ใช่เมนูแฟนซีตามเทรนด์ แต่กลับเป็น “ของธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” ได้แก่:
- ข้าวเปล่า: เมนูเรียบง่ายที่มียอดขายพุ่ง โดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศ คอนโด
- กะเพรา: ฮีโร่โปรดักต์ตลอดกาล ขายดีในทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อถึงแอปเดลิเวอรี่
- ข้าวผัด : เมนูเบสิค ทานง่ายสำหรับใครหลายคน
- ผัดซีอิ๊ว: เมนูเส้นที่มาแรงในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน ด้วยรสชาติที่คุ้นเคยและรับประทานง่าย
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดอาหารจะมีเทรนด์ใหม่สลับขึ้นลง แต่เมนู “พื้นฐาน” อย่าง ข้าวเปล่า,ข้าวกะเพรา,ข้าวผัด และผัดซีอิ๊ว ก็จะเป็นเมนูหลักที่คงอยู่ตลอดไป ส่วนแนวทางการพัฒนาเมนูอาหารต่างๆ CPRAM จะให้ความสำคัญกับ “เมนูประจำ” ควบคู่กับ “เมนูใหม่” ที่พัฒนาเฉลี่ย วันละ 1-2 รายการ หรือกว่า 500 รายการต่อปี จากปีที่ผ่านมาที่มีการเปิดตัวเมนูใหม่ 450 รายการ ภายใต้ทีม R&D ขนาดใหญ่กว่า 200 คน พร้อมสำรวจความต้องการผู้บริโภคก่อนพัฒนาเสมอ เพื่อให้ทุกจาน “ไม่ใช่แค่ใหม่ แต่ต้องขายได้”
“ผมขายน้ำเต้าหู้ คนอื่นก็ขาย ดังนั้นผมก็ต้องหาโซลูชั่นที่แตกต่าง เราก็ไปดึงปาท่องโก้เจ้าอร่อยมา เพื่อดึงยอดขาย ปาท่องโก๋ขายได้ น้ำเต้าหู้ขายได้ นั้นคือการใช่พาร์ทเนอร์เพื่อเพิ่มยอดขายซึ่งกันและกัน นั่นคือแนวคิดของเรา” คุณวิเศษ กล่าว
ในอนาคตจะได้เห็นเมนูใหม่ๆ จาก CPRAM เข้ามาวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมนูท้องถิ่น เซ็ตสุขภาพ เป็นต้น โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตอยู่ 16 โรงงานทั่วประเทศ และส่งสินค้าให้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในระดับท้องถิ่น แต่ละภูมิภาค และทั่วประเทศ