HomePR Newsกรุงศรี ฟินโนเวต ประกาศเป้าหมายเป็น Global Venture Capital เน้นลงทุนสตาร์ทอัพอาเซียนเพิ่มขึ้น

กรุงศรี ฟินโนเวต ประกาศเป้าหมายเป็น Global Venture Capital เน้นลงทุนสตาร์ทอัพอาเซียนเพิ่มขึ้น

แชร์ :

กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุน (Corporate Venture Capital: CVC) ในเครือกรุงศรี ประกาศเป้าหมายเป็น Global Venture Capital พร้อมโชว์ความสำเร็จจากการปั้นสตาร์ตอัปไทยและอาเซียนผ่านงาน Finno Efra Accelerator Program

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปัจจุบัน กรุงศรี ฟินโนเวต มีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 4,039 ล้านบาท หรือราว 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการลงทุนใน 25 สตาร์ตอัป รวมถึง 4 ยูนิคอร์น ได้แก่ Grab, Flash Express, Klook และ Ascend Money และมีหลายสตาร์ตอัปที่อยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

สำหรับในส่วนกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ (Finnoventure Private Equity Trust I) ที่มีขนาดกองทุน 2,700 ล้านบาท และลงทุนในสตาร์ตอัป Series A ขึ้นไปนั้น ลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 1,731 ล้านบาท โดยมีการลงทุนในสตาร์ตอัปทั้งหมด 15 ราย และในปี 2568 มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในสตาร์ตอัป 6 ราย

ขณะที่กองทุนฟินโนเวิร์ส และฟิวเจอร์ริสติก (Finnoverse & Futuristic Fund) มียอดการลงทุนไปแล้ว 475 ล้านบาท มีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมราว 70 ล้านบาทในปีนี้ และคาดว่าในปีนี้จะมีการลงทุนในกองทุนฟินโนอีฟรา ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ (FinnoEfra Private Equity Trust) ที่เน้นลงทุนในสตาร์ตอัปกลุ่ม Seed ถึง Pre-series A

คุณปาลิดา อธิศพงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ และ Head of Portfolio Growth บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กล่าวว่า “ในปีนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต จะให้น้ำหนักการลงทุนในสตาร์ตอัปอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในส่วนของความร่วมมือ (Partnerships) จะได้เห็นความร่วมมือในต่างประเทศมากขึ้น จึงนับได้ว่าเป็นการขยายศักยภาพและความเชี่ยวชาญของกรุงศรี ฟินโนเวต ออกไปในระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อปูทางสู่เป้าหมายสำคัญในการเป็น Venture Capital ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารกรุงศรี”

“Finno Efra Accelerator Program ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงศรี ฟินโนเวต กับ อีฟราสตรัคเจอร์ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ โดยได้รับเกียรติจากเมนเทอร์และโค้ชผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งใน Batch 1 มีสตาร์ตอัป 12 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก จากราว 200 สตาร์ตอัปที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยหลังจากที่ทั้ง 12 ทีมผ่านการเข้าเรียนกว่า 30 คลาสในช่วงสี่เดือน เราจึงได้จัดให้ทั้ง 12 ทีมได้มีโอกาสนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ บริษัท นักลงทุน เปิดโอกาสให้เกิดการต่อยอดการลงทุน และนี่คืออีกความภูมิใจของเราที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถสร้างธุรกิจได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน” คุณปาลิดา กล่าวเพิ่มเติม

ทางผู้บริหารยังได้เปิดรายชื่อทีมที่ได้ไปร่วมงานสัมมนาเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้แก่  Viva Technology  (ปารีส, ฝรั่งเศส)  InnoVEX (ไทเป, ไต้หวัน) และ NextRise (โซล, เกาหลีใต้) ด้วย

 


แชร์ :

You may also like