“คุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ และ “คุณรัฐนันท์ วิไลลักษณ์” ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)*
หลายปีที่ผ่านมา “บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “กลุ่มสามารถ” เจอมรสุมและการเปลี่ยนแปลงมาหลายอย่าง ส่งผลให้ตั้งแต่ปี 2017 บริษัทอยู่ในภาวะ “ขาดทุน” มาตลอด แต่ในปี 2024 กลับทำกำไรได้เป็นปีแรก โดยในข่วง 9 เดือนแรกของปี ทำรายได้ไปถึง 6,581 ล้านบาท และจบปี 2024 คาดรายได้รวม 10,000 ล้านบาท
จึงน่าสนใจว่า อะไรคือ กลยุทธ์ที่ทำให้กลุ่มสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในรอบ 5 ปี ฟังวิธีคิดจาก “คุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ และ “คุณรัฐนันท์ วิไลลักษณ์” ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมกลยุทธ์ของกลุ่มสามารถนับจากนี้ที่ตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดด
บริษัท Tech สัญชาติไทย
“กลุ่มสามารถ” เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลครบวงจรที่มีอายุกว่า 60 ปี เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุค ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นที่บุกเบิกเทคโนโลยีเสาอากาศทีวี และจานรับส่งดาวเทียม จนเติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขยายสู่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ “i-mobile” และสร้างแบรนด์จนเป็นที่รู้จัก กระทั่งเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สมาร์ทโฟน และแพลตฟอร์มทีวีสตรีมมิ่งเข้ามาแทนที่ ทำให้จานดาวเทียมค่อยๆ ลดความนิยม ขณะที่ตลาดมือถือแข่งขันรุนแรง ทั้งแบรนด์ต่างชาติและโอเปอเรเตอร์ที่เข้ามาทำตลาดเอง จนทำให้ i-mobile รายได้ลดลงติดต่อกันหลายปี ทั้งยังเจอสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรง กระทบกับงานประมูลโครงการ
ในปี 2017 กลุ่มสามารถจึงเริ่มขาดทุนเป็นปีแรก จนต้องปรับทัพใหม่ ด้วยการถอยจากตลาดมือถือ พร้อมกับทรานฟอร์มตัวเองให้สอดรับกับยุคดิจิทัล ด้วยการหันมารุกธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และโซลูชั่น ที่จะสร้างรายได้ประจำ (Recurring) อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจ โดยเฉพาะช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จนปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มสามารถครอบคลุม 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจ Digital ICT Solutions, ธุรกิจ Utility & Transportations และ ธุรกิจ Digital Communication
แต่ในแง่รายได้ ก็ยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย ทั้งยังต้องเจอวิกฤตโควิดซ้ำเติม จนทำให้ “ขาดทุน” เรื่อยมา เว้นปี 2019 ที่มีกำไร 426 ล้านบาท โดยในปี 2018 ขาดทุน 1,076 ล้านบาท ปี 2020 ขาดทุน 309 ล้านบาท 2021 ขาดทุน 389 ล้านบาท ส่วนในปี 2022 ขาดทุน 955 ล้านบาท และในปี 2023 ขาดทุน 390 ล้านบาท
ไม่หยุดนิ่งในการ “ปรับตัว”
จนมาถึงปี 2024 คุณวัฒน์ชัย บอกว่า เป็นปีแรกที่กลุ่มสามารถจะได้เห็นตัวเลขกลับมาทำ “กำไร” ได้ โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มี Backlog ทั้งกลุ่มเกือบ 14,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสายธุรกิจ ICT Solutions มีผลงานโดดเด่นในไตรมาส 3 และคาดว่าสิ้นปีจะมี Backlog รวม 20,000 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจ Utility & Transportations เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตทุกไตรมาส โดยใน 2024 รัฐบาลกัมพูชาออกแคมเปญกระตุ้นธุรกิจและการท่องเที่ยว ประกอบกับปลายปีมีการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ ดาราสาคร ที่เกาะกง ทำให้มีนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Digital Communication จะเป็นปีแรกที่หยุดขาดทุนและกลับมามีผลการดำเนินงานเป็นบวก จากการรับรู้รายได้จากค่าบริการ Airtime ตลอดทั้งปีในโครงการ Digital Trunked Radio System
โดยคุณวัฒน์ชัย บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ปีนี้กลุ่มสามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีมาจากการ “ปรับตัว” ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมกับเชื่อว่า จากการปรับตัวและสร้างรายได้ประจำต่อเนื่อง จะส่งผลให้จากนี้ไปกลุ่มสามารถไม่กลับไปขาดทุนอีกแล้ว
“ถ้าเรายังอยู่ในธุรกิจเดิมๆ ตอนนี้คงไม่มีกลุ่มสามารถแล้ว ยิ่งเราทำธุรกิจด้านเทคโนโลยี เราก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้เราแทบจะไม่เหลือคราบเดิม มีเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ เทคโนโลยี”
เน้นสร้างรายได้ประจำ – ขยายธุรกิจใหม่
หลังจากพลิกฟื้นธุรกิจอย่างหนักจนกลับมามีกำไร คุณวัฒน์ชัย บอกว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้จะให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ประจำ 5-10 ปีอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงมีสูง จึงต้องการสร้างรายได้ที่มั่นคง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจประจำของบริษัทอยู่ที่ 50% แล้ว นอกจากนี้ ยังไม่หยุดนิ่งในการขยายธุรกิจใหม่ โดยล่าสุดกำลังปั้นธุรกิจใหม่อย่างพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม โดยคุณรัฐนันท์บอกว่า เหตุผลที่สนใจธุรกิจนี้ เพราะเป็นเมกกะเทรนด์ของโลกในอนาคต โดยใน 2-3 ปีข้างหน้า มีโอกาสที่จะเติบโตสูง เพราะความต้องการของตลาดจะสูงมาก
“ตลาดนี้ใหญ่มาก ทั่วโลกและไทยให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างมาก แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Early Stage เราก็ค่อยๆ สร้างไปเรื่อยๆ โดยจะเน้นนำความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เรามีมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ พร้อมกับใช้โมเดลธุรกิจคล้ายกับ Samtel โดยเราเป็นคนลงทุนให้และอาจจะเป็นการแบ่งรายได้กัน”
คุณรัฐนันท์ บอกถึงจุดแข็งที่จะนำมาใช้ในการรุกธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ การบริหารจัดการขยะ และการซื้อขายคาร์บอน เครดิต โดยมองว่าในปี 2025 จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างและสามารถสร้างรายได้ประจำให้กับกลุ่มสามารถในปี 2026
ปี 2025 โตกระโดด กำไร 391%
หลายปีที่ผ่านมา แม้กลุ่มสามารถจะรุกขยายในธุรกิจใหม่มากขึ้น ทว่าคุณวัฒน์ชัย บอกว่า ภาพของกลุ่มสามารถยังคงวางตำแหน่งเป็น Tech Company เพราะธุรกิจที่ขยายไปล้วนใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน พร้อมกับเชื่อมั่นว่า หลังจาก Sufer มาหลายปี ในปี 2025 จะเห็นรายได้และกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น
โดยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 13,500 ล้านบาท หรือเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปี 2024 พร้อมตั้งเป้ากำไรเติบโตราว 391% และปี 2026 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มสามารถหลายอย่างแน่นอน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE