HomePR Newsยูโอบี ประเทศไทย แนะนำกลยุทธ์ Multi-asset สร้างพอร์ตฯ ลงทุน รับมือเศรษฐกิจท้าทาย ปี 67

ยูโอบี ประเทศไทย แนะนำกลยุทธ์ Multi-asset สร้างพอร์ตฯ ลงทุน รับมือเศรษฐกิจท้าทาย ปี 67

แชร์ :

คุณเอ็นริโก้ ทานูวิดจายา

ปี 2567 ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับนักลงทุนอย่างมาก จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ได้สร้างผลกระทบต่อการลงทุน  ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 จากแรงหนุนการท่องเที่ยว การบริโภคภาคครัวเรือน และการใช้จ่ายภาครัฐ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จึงแนะนำให้นักลงทุนกลุ่มที่มีความมั่งคั่ง  ลงทุนใน “หุ้นปันผล” เพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอ  พร้อมสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งผ่านการลงทุนกลุ่ม Core Investment ด้วยกลยุทธ์ Multi-asset ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายตามภูมิภาค อุตสาหกรรม และสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการเงินในระยะยาว

คุณเอ็นริโก้ ทานูวิดจายา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economics and Market Research กลุ่มธนาคารยูโอบี ตั้งข้อสังเกตว่าแม้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจจะชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมในประเทศที่ชะลอตัวลง แต่การฟื้นตัวของต่างประเทศยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

ด้วยการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า ค่าใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นทางการคลัง ธนาคารยูโอบีคาดการณ์การเติบโตของจีดีพี ที่ร้อยละ 2.8 ในปี 2567 และร้อยละ 3.0 ในปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของการส่งออกภาคอุตสาหกรรม และอุปสงค์ในประเทศที่มีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

กลยุทธ์ Multi-asset สร้างพอร์ตฯ ลงทุน

คุณเอเบล ลิม Head of Wealth Management Advisory and Strategy กลุ่มธนาคารยูโอบี เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว เนื่องจากตลาดมีความอ่อนไหวต่อดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอัตราการเติบโตและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่แตกต่างกัน การสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอผ่านการลงทุนในหุ้นปันผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โดยแนะนำการลงทุนหลัก เช่น กลยุทธ์ Multi-asset และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงช้า การกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์ ภูมิภาค และอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

กลุ่มที่น่าสนใจ คือ อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพระดับโลก (Global Healthcare) สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนในหุ้น เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีลักษณะ defensive และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากสังคมผู้สูงอายุและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแม้จะมีความท้าทายในระยะสั้นในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) / อาเซียน / จีน แต่นายเอเบลยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง เนื่องจากการบริโภคในภูมิภาคที่ฟื้นตัวและมูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ

คุณกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่าธนาคารยูโอบีได้ผสานความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้ากับความล้ำหน้าของดิจิทัลเพื่อมอบบริการเฉพาะบุคคล โดยแนะนำเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยลูกค้าในการสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุนส่วนบุคคลที่เรียกว่า My Wealth Planner

เครื่องมือ My Wealth Planner จะสร้างกรอบการลงทุนที่สามารถพาลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของตนได้ ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดจะถูกรวบรวมและประมวลผลโดย My Wealth Planner ซึ่งจะเข้าใจโปรไฟล์ความเสี่ยงในการลงทุนและจัดสรรกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนและการประกันภัย เครื่องมือนี้ยังทำให้การลงทุนเรื่องที่ปลอดภัยและง่ายขึ้น

ฟีเจอร์ Wealth ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน UOB TMRW ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือ นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง อาทิ Blackrock, PIMCO, JPMorgan และ Fidelity

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like