HomeSponsoredเปิดตำนาน Guinness จากจิตวิญญาณแห่งคนไอริช สู่ตลาดเบียร์ซูเปอร์พรีเมียม รับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคคนไทย

เปิดตำนาน Guinness จากจิตวิญญาณแห่งคนไอริช สู่ตลาดเบียร์ซูเปอร์พรีเมียม รับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคคนไทย

แชร์ :

ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดการทดลองเครื่องดื่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลาดเครื่องดื่มในช่วงเวลาสังสรรค์ มีทางเลือกหลากหลาย บริษัท ทีเอพี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มระดับพรีเมียมในประเทศไทย จึงเล็งเห็นความสำคัญของการตอบรับช่วงเวลาที่เรียกว่า “It’s Guinness Time” รุกทำการตลาดเครื่องดื่มแบรนด์  Guinness เสริมพอร์ตโฟลิโอสินค้าในเครือ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Guinness เครื่องดื่มระดับชาติ

กินเนสส์ (Guinness) เป็นแบรนด์เบียร์สเตาต์หรือที่คนไทยคุ้นเคยเรียกกันว่าเบียร์ดำ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ 1759 โดย อาเธอร์ กินเนสส์ (Arthur Guinness) ผู้ที่หลงใหลในการหมักเบียร์ ในครั้งนั้นเขาใช้เงินเพียงแค่ 45 ปอนด์ต่อปี เช่าโรงเบียร์เก่าที่ไม่มีคนใช้แล้ว และทำสัญญาเช่าเป็นเวลาถึง 9 พันปี จากโรงเบียร์ขนาด 10 ไร่ใกล้แม่น้ำ Liffey ใจกลางกรุงดับลิน เพื่อให้ง่ายต่อการขนส่งทั้งวัตถุดิบและการค้า

ในตอนนี้โรงงานเบียร์ของกินเนสส์กลายเป็นโรงงานเบียร์ดำ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังการผลิต 3 ล้านไพน์ต่อวัน

รวมทั้งสร้างประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งในวงการเครื่องดื่ม การตลาด โฆษณา และถือว่าเป็นแบรนด์ Guinness เป็นแบรนด์ระดับชาติของไอร์แลนด์ เทียบกับเครื่องดื่มอย่างวิสกี้ ของสก๊อตแลนด์ หรือว่าโซจูของเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักระดับโลกด้วย Guinness World Records ซึ่ง Sir Hugh Beaver หนึ่งในผู้บริหารของ Guinness เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 1955

โฆษณาชิ้นแรกของ Guinness

เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ Guinness มาจากวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์ อันมาจากแร่ธาตุจากน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาวิคโลว์ (Wicklow Mountains) ผสานกับข้าวบาร์เล่ย์ ดอกฮอป และยีสต์ ไปจนถึงความตั้งใจคิดค้นวิธีการหมัก อีกทั้งยังอาศัยก๊าซไนโตรเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขั้นตอนการผลิตจึงทำให้ฟองของเบียร์กินเนสส์ แตกต่างจากเบียร์อื่นๆ

เบียร์ที่เรียกกันว่า “เบียร์ดำ” แต่ความจริงแล้วเป็นเครื่องดื่มที่มีสีน้ำตาลเข้ม  และสำหรับของ Guinness จะเรียกสีของโปรดักต์ของตัวเองว่ามีสี Red Ruby หรือแดงทับทิม ซึ่งเป็นสีที่ได้มาจาก Malted Barley

Gate to the Glass จากโรงเบียร์สู่แก้ว

สินค้าของ Guinness ในประเทศไทยถูกส่งตรงมาจากโรงงานที่ดับลิน ซึ่งเรียกว่า St.James Gates ดังนั้นขั้นตอนตั้งแต่โรงงานจนถึงมือลูกค้าของแบรนด์นี้จึงถูกเรียกว่า Gate to the Glass โดยทางบริษัท ทีเอพี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ Guinness ในประเทศไทย ใช้หลักการ Perfect Serve ด้วย 7Cs เพื่อให้ Guinness มีคุณภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนถึงมือลูกค้า ประกอบด้วย

Correct Gas ส่วนผสมของก๊าซในปริมาณสัดส่วนที่เหมาะสมทำให้แรงดันสร้างฟองนุ่มๆ ที่เป็นเอกลักษณ์

Correct Temperature เก็บสินค้าไว้ในที่ๆ มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนจนเกินไป เพื่อช่วยยืดอายุของเครื่องดื่ม และรสชาติเมื่อเสิร์ฟถึงมือลูกค้า

Clean Line ท่อสายส่งและอุปกรณ์ทุกอย่างที่สัมผัสกับสินค้าได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ

Clean Glassware Management แก้วที่ใช้เสิร์ฟต้องสะอาด ถูกวางไว้ในที่ๆ ระบายน้ำได้ดี

Counter Visibility ดิสเพลย์สวยงาม โชว์โลโก้รูป Harp (พิณฝรั่ง) เครื่องดนตรีที่เป็นตัวแทนของชาวไอริช
Consistant Freshness ความสดใหม่ของเครื่องดื่มที่ถูกส่งมอบให้กับลูกค้าต้องถูกบริหารตามหลัก FIFO (First in – First Out) ถังที่มาก่อนถูกนำมาใช้ก่อน

Crafted Presentation ในขั้นตอนการเสิร์ฟต้องควบคุมปริมาณเครื่องดื่มและฟองให้ตรงตามที่แบรนด์กำหนดเพื่อรสชาติของการดื่มที่แท้จริง จนกลายเป็น Perfect Serve

ต้นตำรับเบียร์ดำ ในไทย จาก Expat สู่ผู้บริโภคท้องถิ่น

ด้วยความตั้งใจของ Guiness ที่คิดค้นขั้นตอนต่างๆ จนกลายเป็นสูตรสำเร็จ ทำให้ขึ้นแท่นแบรนด์ดังระดับตำนานของไอร์แลนด์ ทั้งรสชาติและความคุ้นเคยใน Guinness จึงถูกส่งผ่านมายังร้านสังสรรค์สไตล์ไอร์ริชผับ ในย่านที่มีนักท่องเที่ยวยุโรป และชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย โดยในปัจจุบัน เมื่อมีผู้ที่ศึกษาในต่างประเทศมากขึ้น องค์ความรู้เรื่องเครื่องดื่มก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการทดลองใหม่ๆ มากมาย Guinness Stout ก็กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคกลุ่ม Premium Local

นั่นทำให้ บริษัท ทีเอพี เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่าย กินเนสส์ ในประเทศไทย มาเป็นเวลากว่า 14 ปี โดยในปี 2024 นี้ได้รุกคืบอีกขั้นด้วยการเข้าถือสิทธิ์การทำตลาดแบรนด์ Guinness ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน จนเป็นที่มาของการที่นับจากนี้ จะมีกิจกรรมที่อิงมาจาก Heritage Event ของไอร์แลนด์ อย่างเช่น เทศกาลงานเฉลิมฉลองของชาวไอริชอย่าง Saint Patrick’s Day ที่แบรนด์ Guinness ได้เริ่มทำกิจกรรมสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีการกินดื่มจากต้นฉบับชาวไอริชและเปิดโอกาสให้คนไทยได้รู้จักแบรนด์อย่างใกล้ชิดมากขึ้นโดยมีท่านเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมด้วย

Saint Patrick’s Day by Guinness

ขณะเดียวกันก็มีเป้าหมายในการเข้าถึงคนไทยมากขึ้น ด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าพรีเมียมรวมไปถึงกิจกรรมในเอาท์เล็ตที่เข้าถึงลูกค้าด้วย Music Marketing อย่างล่าสุดในการร่วมสนับสนุนงาน International Jazz Day 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่ The Commons สาขาทองหล่อ และศาลาแดง ไปจนถึงงาน Food Paring ที่จะมีให้เห็นในช่วงปลายปี โดยหวังว่านับจากนี้จะมีร้านอาหารเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Guinness เพิ่มขึ้นกว่า 200 ร้านภายในสิ้นปี ขณะเดียวกันลูกค้าคนไทยก็ให้การเปิดรับ “เบียร์ดำ” มากขึ้นและเป็นทางเลือกของการดื่ม โดยทางบริษัท ทีเอพี เทรดดิ้ง จำกัด หวังว่าแบรนด์ Guinness “กินเนสส์” สเตาต์สัญชาติไอริชจะเข้ามาเสริมความแกร่งของพอร์ตกลุ่มสินค้าซุปเปอร์พรีเมียม ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเซกเมนต์ซูเปอร์พรีเมียมทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 


แชร์ :

You may also like