HomeBrand Move !!“บางกอกแอร์เวย์ส” วาง 3 กลยุทธ์ ปั้นรายได้ผู้โดยสารปี 67 โตแตะ 1.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจปี 68 ผู้โดยสารกลับมาเท่าเดิม

“บางกอกแอร์เวย์ส” วาง 3 กลยุทธ์ ปั้นรายได้ผู้โดยสารปี 67 โตแตะ 1.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจปี 68 ผู้โดยสารกลับมาเท่าเดิม

แชร์ :

หลังสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป ทำให้อุตสาหกรรมการบินที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักกลับมาคึกคักมากขึ้น แม้ในปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารยังไม่คัมแบ็กเท่ากับก่อนโควิด-19 ระบาด แต่ “กัปตันพุฒิพงศ์” แห่งบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) เชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวจะทยอยกลับมาเพิ่มขึ้น และเป็นปกติเช่นเดิมในปี 2568 พร้อมตั้งเป้ารายได้ผู้โดยสารในปีนี้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท และรายได้รวมจะเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทำไมบางกอกแอร์เวย์สจึงมั่นใจเช่นนั้น ตามมาฟังกันคำตอบจาก “คุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์แวย์ส พร้อมกลยุทธ์บุกตลาดในปีนี้

ยอดจองตั๋ว 2 ไตรมาสแรกโตพุ่ง   

ท่ามกลางความท้าทายที่ต้องเจอทั้งสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อซบเซาในปี 2566 แต่อุตสาหกรรมการบินกลับสดใส สะท้อนได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผลประกอบการของธุรกิจสายการบินที่กลับมามีกำไรกันถ้วนหน้า โดยข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่า ในปี 2566 อุตสาหกรรรมการบินทั่วโลกกลับมาแซงปี 2562 แล้ว โดยมีการเติบโต 107% โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตเร็วสุด และคาดว่านับจากนี้ต่อเนื่องถึงปี 2583 ผู้โดยสารจะเติบโตขึ้นเป็น 2,536 ล้านคน

เมื่อกลับมาดูประเทศไทย คุณพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในปี 2566 มีจำนวนผู้โดยสารต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น แต่เมื่อรวมกับผู้โดยสารในประเทศ ทำให้มีผู้โดยสารกลับมาแค่ 74% เมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะที่ยอดผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.97 ล้านคน เติบโต 50% จากปี 2565 แต่ยังต่ำกว่าปี 2562 ที่มียอดผู้โดยสาร 5.86 ล้านคน หรือประมาณ 32% ตลาดหลักคือ ยุโรป และตะวันออกกลาง มีสัดส่วน 39.7% รองลงมาเป็นไทยและอาเซียน 31.5%

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 3 อันดับแรกคือ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส โดยแต่เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น และในปี 2568 ผู้โดยสารน่าจะกลับมาเท่ากับก่อนโควิด

“ปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจไม่ถดถอย นักท่องเที่ยวยุโรปน่าจะมามากกว่านี้ แต่เมื่อมองที่ตัวเลขการสำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงไตรมาส 2 มีการเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 14% โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มยุโรปสำรองที่นั่งเข้ามามากขึ้น บวกกับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทำให้มั่นใจว่าตลาดยังไปได้ และยอดนักท่องเที่ยวจะทยอยกลับมาใกล้เคียงเดิมในปีหน้า” คุณพุฒิพงศ์ ย้ำด้วยความมั่นใจ

เดินเกมรุก 3 กลยุทธ์ ปั้นรายได้ผู้โดยสารโต 20%

แม้จะมั่นใจ แต่หากเจาะลึกมาดูพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวหลังโควิด คุณพุฒิพงศ์ พบว่า เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งในแง่วิธีการเดินทาง และจุดหมายปลายทาง จากเส้นทางที่เคยได้รับความนิยม แต่ปัจจุบันมีการเดินทางน้อยลง และจากเส้นทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางกันไม่มาก ปัจจุบันกลับได้รับความนิยมมากขึ้น นั่นจึงทำให้บางกอกแอร์เวย์สต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว หากต้องการจะปั้มรายได้ผู้โดยสารในปีนี้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท

โดยกลยุทธ์แรกคือ การขยายความร่วมมือกับพันธมิตรสายการบิน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partner) 28 ราย และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) 70 สายการบิน โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มสายการบินพันธมิตรอีก 2 สายการบิน เพื่อขยายการให้บริการให้มากขึ้น

กลยุทธ์ที่ 2 คือ ขยายช่องทางจำหน่ายบัตรโดยสาร จากเดิมบางกอกแอร์เวย์สมีช่องทางขายผ่านหน้าเว็บไซต์ของตัวเองและกลุ่มตัวแทนจำหน่าย แต่ปีนี้จะเน้นทำตลาดเชิงรุกกับ BSP Agent, Online Travel Agent (OTA) เช่น Agoda, Trip.com, Traveloka, Expedia และ Robinhood และ Call Center มากขึ้น โดยเฉพาะช่องทาง OTA เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้โดยสารหันมานิยมใช้มากขึ้น เพราะสะดวกและจองง่าย รวมถึงขยาย GSA Office ไปยังตลาดใหม่ๆ อีก 2 แห่ง คือ ซาอุดิอาระเบีย และตุรกี จากปัจจุบันมี GSA Office รวม 26 สำนักงานทั่วโลก ซึ่งจะช่วยกระจายตลาดในวงกว้างมากขึ้น

กลยุทธ์ที่ 3 คือ เพิ่มความถี่ในเส้นทางบินที่มีดีมานด์ โดยมีแผนเพิ่มเครื่องบินใหม่อีก 2 ลำ จากปัจจุบันมี 24 ลำ เพื่อรองรับเที่ยวบินในเส้นทางใหม่ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเพิ่มขึ้น พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ในบูทีคเลานจ์ จนถึงสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว

จากแผนการรุกตลาดที่เข้มข้นขึ้น ทำให้คุณพุฒิพงศ์ มั่นใจว่า ปีนี้มีจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ล้านคน และดันรายได้ผู้โดยสารอยู่ที่ 17,800 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อนซึ่งมีจำนวน 15,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับธุรกิจที่ไม่ใช่สายการบินอย่างครัวการบิน ธุรกิจคลังสินค้า และการให้บริการภาคพื้นดิน ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น จะสามารถดันรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like