HomeBrand Move !!เจาะกลยุทธ์ B.I.G. ของ “กรุงศรี ออโต้” ปั้นสินเชื่อยานยนต์โตแกร่งสวนตลาด

เจาะกลยุทธ์ B.I.G. ของ “กรุงศรี ออโต้” ปั้นสินเชื่อยานยนต์โตแกร่งสวนตลาด

แชร์ :

ปี 2566 เป็นอีกปีที่หนักหน่วงสำหรับตลาดสินเชื่อรถยนต์ เพราะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ทั้งสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อยานยนต์รวมในปีนี้ “ติดลบ” 1% จากปีก่อน โดยคาดการณ์สินเชื่อยานยนต์ในปี 2566 จำนวน 516,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายรถยนต์ใหม่จำนวน 810,000 คัน หรือลดลง 5%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทว่า “กรุงศรี ออโต้” กลับสร้างความแตกต่าง เติบโตสวนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ 192,000 ล้านบาท หรือเติบโต 5% จากปีที่ผ่านมา กรุงศรี ออโต้ ใช้วิธีคิดในการทำธุรกิจอย่างไรถึงเติบโตในสถานการณ์เช่นนี้ Brand Buffet พามาเจาะลึกกลยุทธ์การสร้างการเติบโตกับ คุณคงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ปักหมุด 3 กลยุทธ์ พากรุงศรี ออโต้ ฝ่าวิกฤติ ดันสินเชื่อโต 5%

ต้องบอกว่า ตลาดสินเชื่อยานยนต์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีความท้าทายอย่างมาก เพราะเจอกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนชะลอการออกรถใหม่ รวมถึงการดิสรัปของเทคโนโลยีดิจิทัล และภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้ “กรุงศรี ออโต้” ต้องปรับตัวตลอดเวลา มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพและตอบความต้องการผู้บริโภคให้มากขึ้น พร้อมกับการขยายบริการใหม่ๆ ที่สอดรับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้กรุงศรี ออโต้ สามารถสร้างรายได้และมีการเติบโตต่อเนื่องแม้อยู่ท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน

ส่วนในปีนี้ แม้โควิด-19 จะคลี่คลาย แต่ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ยังมี Challenge อยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจและสงคราม ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย ทำให้ภาพรวมตลาดสินเชื่อรวมยังติดลบ ทว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 192,000 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีจึงเชื่อมั่นว่ายอดสินเชื่อจะเติบโตเกินเป้าหมายแน่นอน ซึ่ง คุณคงสิน บอกว่า หัวใจสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ “กรุงศรี ออโต้” มาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ “B.I.G. Strategy”

สำหรับ B ตัวแรก คือ Brand Experience หรือ การสร้างประสบการณ์แบรนด์ โดยกรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ดีกับผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้น เพราะเชื่อว่าหากผู้ใช้รถมีประสบการณ์ที่ดี จะทำให้เกิดการรับรู้และจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยกรุงศรี ออโต้จะสร้างประสบการณ์แบรนด์ผ่านการให้บริการที่รวดเร็ว ราบรื่น และไร้รอยต่อกับผู้ใช้รถในทุก Touch Point

I คือ Innovation หรือนวัตกรรม หนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ทำให้กรุงศรี ออโต้เติบโตสวนตลาด คือ การพัฒนานวัตกรรมสินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างและครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่น Go by Krungsri Auto, บริการ Digital Auto Lending มาจนถึงสินเชื่อรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้สามารถขยาย Product Portfolio และสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ โดยปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อรถอีวีทั้ง 4 ล้อ และ 2 ล้อ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 50% และตั้งเป้ายอดสินเชื่อรถอีวีในปี 2566 จำนวน 4,624 ล้านบาท เติบโต 217%

G คือ Great Team หรือ ทีมที่แข็งแกร่ง นอกจากการพัฒนานวัตกรรมสินเชื่อรถที่หลากหลายแล้ว กรุงศรี ออโต้ ยังให้ความสำคัญกับ “คน” เพราะเชื่อว่าการมีทีมที่แข็งแรง ไม่เพียงจะช่วยดึงจุดแข็งของทีมมาสร้างประสบการณ์ผู้ใช้รถให้ดีขึ้น แต่ยังทำให้ผลประกอบการและแบรนด์เติบโตขึ้นด้วย ดังนั้น ที่ผ่านมา กรุงศรี ออโต้ จึงมุ่งเสริมทักษะใหม่ๆ ให้กับทีม ควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงใจและบรรยากาศการทำงานที่สนุก เพื่อให้ทุกคนมีความสุขและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมาไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถอยู่เสมอ

ตลาดสินเชื่อรถปี 2567 ยังมีดีมานด์ แต่ยังเจอความท้าทาย

แม้ตลาดสินเชื่อรถในปี 2566 จะติดลบ แต่ คุณคงสิน มองว่า ในปี 2567 ตลาดสินเชื่อรถยังมีความต้องการใช้รถอยู่ แต่ก็ยังมีความท้าทายเช่นกัน จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รวมถึงพฤติกรรมของผู้ใช้รถที่เปลี่ยนไปรวดเร็ว ซึ่งจะสร้างเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในตลาด ดังนี้

1.ผู้ใช้รถหันมาใส่ใจในเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับเป้าหมายที่ภาครัฐต้องการให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้ของไทยอยู่ที่ 65,000 คัน

2.พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การเช่าซื้อรถของผู้บริโภครุ่นใหม่ใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยนิยมค้นหาข้อมูลรถและสินเชื่อรถผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนจะเข้าไปโชว์รูมรถ และมีบางกลุ่มตัดสินใจซื้อรถหรือขอสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์

3.คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมชอบใช้ ชอบเช่า แต่ไม่ชอบซื้อหรือเป็นเจ้าของรถ ส่งผลให้เกิดบริการเช่ารถแบบสมัครสมาชิก หรือ MaaS (Mobility as a Service) ซึ่งตลาดนี้ถือเป็นเซกเมนต์ใหม่น่าสนใจ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคน Young Gen ที่ไม่อยากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว แค่ขอให้ได้ใช้รถและสามารถเปลี่ยนรุ่นรถได้ตลอดเวลา

“เรามองว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมา ตลาดอาจจะยังไม่ใหญ่มาก โดยเป็นกลุ่มคนที่สนใจรถอีวี ซึ่งในต่างประเทศได้รับความนิยมมาก แต่สำหรับเมืองไทยอาจจะยังเพิ่งเริ่ม”

4.ผู้ใช้รถมองประสบการณ์ในการใช้รถที่ราบรื่นและไร้รอยต่อในทุกมิติ ผ่านการเชื่อมต่อบริการต่างๆ บนแพลตฟอร์มเดียว

จับมือ อีวี มี พลัส ลุยตลาด MaaS เจาะคนชอบเช่า

จากเทรนด์ดังกล่าว ส่งผลให้กรุงศรี ออโต้ ต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับเทรนด์ผู้ใช้รถที่เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยกลยุทธ์แรกคือ การมอบบริการและโซลูชันสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม 32 แบรนด์ ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์ รวมถึงบริการด้านการเงินอื่นๆ ให้กับเครือข่ายผู้ผลิตและพันธมิตร โดยตั้งเป้าสร้างอีโคซิสเต็มด้านอีวีเต็มรูปแบบภายใน 3 ปี

กลยุทธ์ถัดมาคือ การจับมือกับ อีวี มี พลัส สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการเปิดบริการ EVme Subs ในสิ้นปีนี้ เพื่อทดลองเจาะตลาด MaaS รวมถึงการสร้าง EV E-Marketplace แหล่งรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับผู้ใช้รถอีวีบน LINE Official Account ของกรุงศรี ออโต้ โดยจะมีบริการค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้า และเตรียมเปิดบริการซื้อกันภัยยานยนต์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ รวมถึงการจับมือพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว 17 ราย สร้างอีโคซิสเต็มใหม่ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในแอปพลิเคชั่น GO by Krungsri Auto เพื่อให้ผู้ใช้รถในประเทศไทยมีประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีขึ้น

“เรามีการศึกษาอินไซต์ของผู้ใช้รถว่าสนใจเรื่องอะไร และพบว่า อันดับแรก คนสนใจเรื่องอีวี เราจึงลุยพัฒนาอีวีเต็มสูบ และตอนนี้คนเริ่มกลับมาท่องเที่ยว ซึ่งเวลาคนขับรถเที่ยว ต้องแวะปั๊ม หรือร้านอาหาร จึงเป็นที่มาของการจับมือพันธมิตรท่องเที่ยวเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวภายใน GO App เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมประสบการณ์แบรนด์ให้อยู่ในใจของลูกค้ายิ่งขึ้นด้วย”


แชร์ :

You may also like