HomePR Newsนักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย ชี้ปัจจัยบวกหุ้นทรู หลังแถลงผลประกอบการ ทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง เสถียรภาพการเงินแข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย ชี้ปัจจัยบวกหุ้นทรู หลังแถลงผลประกอบการ ทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง เสถียรภาพการเงินแข็งแกร่ง

แชร์ :

บล.กสิกรไทย ชี้หุ้นทรูเครดิตสูง เสริมทัพจากปัจจัยบวกหลายอย่าง เห็นแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เสถียรภาพการเงินแกร่ง ไร้ปัญหาสภาพคล่อง แหล่งเงินสนับสนุนแข็งแรง วงเงินสำรองทั้งในและต่างประเทศเพียงพอ หนุนให้เก็บ รอกำไรในอีก 2 ปี

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย โดยนายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า จากผลการดำเนินงานของ ทรู ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งประกาศออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ทั้งจากตัวเลขจำนวนผู้ใช้งานและรายได้จากการให้บริการสุทธิ 4.4 พันล้านบาท ถือเป็นข่าวบวกของ ทรู หลังจากในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัจจัยลบหลายข่าว หลังจากนี้หากทรูสามารถปรับต้นทุนได้ ภาระหนี้สินลดลง ต้นทุนคลื่นที่จะต้องชำระลดลง กระแสเงินสดก็จะเริ่มเป็นบวก ในปี 2025 ส่งผลให้ ทรู มีกำไรอย่างแน่นอน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับเสถียรภาพทางการเงินของทรูมีความแข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงสภาพคล่องที่ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยนายพิสุทธิ์ มองว่า เรื่องสภาพคล่องนั้นถือว่ายังไร้ปัญหา เพราะทรูมีจุดแข็งหลายอย่าง ทั้งจากผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 3 เจ้า คือ CP, Telenor และ China mobile ที่จะไม่มีทางปล่อยให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่นอน ส่วนสถานการณ์หุ้นกู้ที่นักลงทุนยังลังเล สำหรับทรูไม่น่าเป็นห่วงเลย เพราะหุ้นกู้ทรู เครดิตเรตติ้ง A+ ไม่ใช่หุ้นกู้ที่มีเครดิตเรตติ้งต่ำ ๆ ที่นักลงทุนจะกลัวความเสี่ยง เพราะปัจจุบันนี้ นักลงทุนทั่วไปจะนำเงินออกจากหุ้นกู้ที่มีเครดิตเรตติ้งต่ำ วิ่งเข้าหาเครดิตเรตติ้งสูง ๆ เพราะเชื่อว่าปลอดภัยมากกว่า

ในส่วนของแหล่งเงินของทรูนั้น นอกจากหุ้นกู้แล้ว ยังมีทางเลือกอีกมาก ถ้าอ่านหมายเหตุประกอบการทางการเงิน จะเห็นว่า ทรูได้ขอวงเงินจากธนาคารไว้ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น offshore และอีก 8,500 ล้านบาทของธนาคารในประเทศ ดังนั้น รวมแล้วเกือบ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากเพียงพออยู่แล้ว

นายพิสุทธ์ กล่าวเสริมถึง เรื่องหุ้นกู้ทรูที่เพิ่งขายออกไปว่า หุ้นตัวระยะสั้นเป็น over subscribe ทำให้เห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบัน นักลงทุนเลือกที่จะเก็บแบบระยะสั้นมากกว่า นั่นหมายความว่า หากทรูต้องการออกหุ้นกู้ใหม่ก็ควรจะออกเป็นตัวที่มีระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่จะทำให้ขายหมดได้รวดเร็ว ทั้งนี้ บล.กสิกรไทยแนะนำซื้อหุ้นทรู ราคาเป้าหมายสิ้นปีหน้าอยู่ที่ 9.28 บาท

ทั้งนี้ ทรูได้รายงานผลการดำเนินงานทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นสำหรับไตรมาสที่ 3/2566 โดยได้แรงหนุนจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง EBITDA ที่เป็นมาตรฐานดีขึ้นเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ โดยได้ประโยชน์จากการผสานรวมกัน และการริเริ่มดำเนินการสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องตามแผนที่วางไว้ ตอกย้ำสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท

โดยมีรายได้จากการให้บริการสุทธิ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ (ค่าใช้จ่ายการลงทุน) CAPEX และ EBITDA มีจำนวนผู้ใช้บริการมือถือเพิ่มขึ้น 254,000 ราย รวมเป็น 51.4 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งาน 5G สูงถึง 9.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน มีฐานผู้ใช้งานดิจิทัลรวมประมาณ 15 ล้านราย ซึ่งโดยรวมนับว่ารายได้ของทรูแซงหน้าผู้ให้บริการรายอื่นในอุตสาหกรรม

สำหรับโครงการดำเนินการรวมโครงสร้างเสาสัญญาณภายใต้โครงข่ายเดียว (Single Grid) มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนหลังจากการเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยโครงการ Single Grid อัจฉริยะที่เพิ่มจำนวนสถานีฐาน ผ่านการบริหารจัดการจำนวนสถานีฐานและการขยายเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินการ Single Grid จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 4 ตามแผนที่กำหนดไว้ สอดคล้องตามกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่า ผู้ใช้บริการจะได้คุณภาพการบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ในด้านความยั่งยืน ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงครองอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมของโลก 5 ปีซ้อน และคงสถานะสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

สำหรับการคาดการณ์ในปี 2566 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงแนวโน้มสำหรับปี 2566 ซึ่งคิดเป็นระยะเวลา 10 เดือนของการดำเนินงานนับจากวันที่ควบรวมกิจการเสร็จสิ้น โดยคาดว่า EBITDA จะเติบโตจากที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ-ปานกลาง (low-to-mid single digit) และยังคงแนวโน้มที่ทรงตัวสำหรับรายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ทั้งนี้ เงินลงทุน หรือ CAPEX ประมาณการไว้ที่ 25,000 – 30,000 ล้านบาท ตามที่เคยประกาศไว้


แชร์ :

You may also like