HomeSponsoredผ่ากลยุทธ์ SYNNEX กับ ภารกิจ Diversify ธุรกิจให้เติบโต ท่ามกลางยุค Generative AI

ผ่ากลยุทธ์ SYNNEX กับ ภารกิจ Diversify ธุรกิจให้เติบโต ท่ามกลางยุค Generative AI

แชร์ :

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นผู้เล่นในตลาดสินค้าไอทีคือความท้าทายที่หลายบริษัทต้องเผชิญในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งจากวิกฤติ Covid-19 ที่ทำให้เกิดปัญหาด้านซัพพลายเชน จนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในปี 2020 หรือการเร่งผลิตสินค้าที่มากเกินไปในช่วงที่ประเทศต่าง ๆ กลับมาเปิดเมืองจนนำไปสู่ปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย และการแข่งขันด้านราคาในปี 2021 – 2022

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น โลกเทคโนโลยียังได้พบกับสมาชิกใหม่ นั่นคือ Generative AI ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในชื่อ ChatGPT และกลายเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถสร้างยอดผู้ใช้งานแตะ 1 ล้านคนได้ภายในเวลาอันสั้นจนทำให้หลายธุรกิจต้องสั่นคลอนร่วมด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

น่าสนใจตรงที่ว่า ในความผันผวนดังกล่าว SYNNEX แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้าน IT Ecosystem ของไทยกลับยังเติบโต เห็นได้จากผลประกอบการในปี 2020 ที่บริษัททำรายได้ไปถึง 32,244 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 37,160 ล้านบาทในปี 2021 และ 39,141 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา (2022) และนำไปสู่คำถามว่า พวกเขาก้าวข้ามสถานการณ์ต่าง ๆ มาได้อย่างไร และใช้จุดแข็งใดบ้างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

คุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง สำหรับ “SYNNEX PARTNER CONNEXT 2023” พร้อมเผยถึงกลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวว่า มาจากการ Diversify พอร์ตของบริษัท ที่ประกอบด้วยสามส่วน นั่นคือ สินค้ากลุ่ม Communication สินค้ากลุ่ม Consumer และสินค้ากลุ่ม Commercial ให้มีความสมดุลมากขึ้น รวมถึงเปิดตัวบริษัทใหม่ Service Point สำหรับให้บริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความครบเครื่องให้กับธุรกิจของบริษัทนั่นเอง

เจาะกลยุทธ์ Diversify Port ท่ามกลางความท้าทาย

การปรับเปลี่ยนมุมมองของ SYNNEX ต่อตลาดไอทีไทยที่คุณสุธิดาเปิดเผย เริ่มจากการให้ความสำคัญกับธุรกิจ Commercial เพิ่มขึ้น โดยได้ปรับทีมงาน และโปรดักท์จากสินค้าไอทีสู่การพัฒนาเป็นโซลูชันต่าง ๆ เพื่อทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ที่บริษัทจัดจำหน่าย จนกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดมากขึ้น

“สิ่งที่เราพบก็คือ ธุรกิจ Commercial มีความแตกต่างจากธุรกิจ Consumer อย่างสิ้นเชิง เราได้ปรับทีมใหม่ พัฒนาเป็นโซลูชัน เช่น โซลูชันกล้อง Surveillance ฯลฯ ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากตลาด ทำให้เราเริ่มทำแบบนี้กับสินค้าอื่น ๆ มากขึ้น ผลก็คือ ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจ Commercial เป็นธุรกิจที่เติบโตสูงที่สุด โดยเติบโตถึง 2 digits (ประมาณ 12%) ทำให้ปัจจุบัน ธุรกิจดังกล่าวมีส่วนแบ่งในพอร์ตของบริษัทประมาณ 24% รองจากธุรกิจ Consumer และธุรกิจ Communication”

iPhone 15 จุดกระแสตลาดไตรมาส 4

ส่วนในธุรกิจ Communication นั้น พบว่า นอกจากปีนี้จะเป็นปีที่มีการเปิดตัว iPhone 15 จาก Apple ซึ่งพบว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี ไม่ต่างจากปีที่แล้ว ในกลุ่มสินค้า Communication ก็ยังมีอีกหลายโปรดักท์ที่เติบโตสูงไม่แพ้กัน เช่น สมาร์ทโฟนกลุ่ม Flagship จาก Honor, Samsung โดยคุณสุธิดามองว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อย่าง Gen AI ฯลฯ จะเป็นตัวผลักดันให้ผู้บริโภคต้องการอัปเกรดอุปกรณ์ของตนเองไปสู่รุ่นที่ดีขึ้น เพื่อให้ตนเองสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ – ความก้าวหน้าเหล่านั้นได้ และนำไปเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตนเองเพื่อให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

จับมือแบรนด์ดัง Nintendo รุกเกมตลาดหมื่นล้าน

หรือในธุรกิจ Consumer ปีนี้ก็เป็นปีที่ Synnex ประกาศเป็นตัวแทนจำหน่าย Nintendo Switch ของประเทศไทยแบบครบวงจรอย่างเป็นทางการ ซึ่งคุณสุธิดาเผยว่า ตลาดเกมเป็นตลาดที่ใหญ่มากคิดเป็นมูลค่าราว 75,000 ล้านบาท โดยในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่มีมูลค่าราว 15,000 ล้านบาทนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า Nintendo เป็นผู้เล่นที่มีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ และไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องเกม แต่ยังมีสินค้าอื่น ๆ เช่น ของเล่น ของสะสม หรือการขับรถ Mario Kart ที่สามารถนำมาต่อยอดในตลาดไทยได้อีกมาก และเป็นสินค้าที่มีมาร์จินค่อนข้างดี

“สิ่งที่ทำให้เราสามารถเติบโตได้ คือเราต้องไม่ใหญ่แค่พอร์ต แต่ฐานลูกค้าต้องเติบโตไปด้วย” คุณสุธิดากล่าว

คุณสุธิดายังได้ฉายภาพตลาดไอทีในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 ว่า บริษัทมองเห็นสัญญาณบวกจากกำลังซื้อที่จะกลับมา ทั้งจากฟากคอนซูเมอร์ที่ต้องการอัปเกรดตัวเอง และโครงการภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการลงทุนด้านไอที เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ โดยมองว่า จะทำให้สินค้ากลุ่มคอนซูเมอร์เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุดของบริษัทในปีนี้ด้วย

ดึง Gen AI สู่ Roadmap องค์กร

แต่การเติบโตของสินค้าด้านไอทีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะการใช้งาน Generative AI ได้กลายเป็น Game Changer สำคัญของธุรกิจไปแล้ว นั่นจึงทำให้คุณสุธิดาประกาศในงาน Synnex Partner Connext 2023 ว่าจะดึง Gen AI เข้ามาอยู่ใน Roadmap ขององค์กรในปี 2024 ด้วย

“โรดแมปของ Synnex ในปีหน้าคือการใช้ AI ในองค์กร ตอนนี้เราก็มองว่า ทุกคนมีฮาร์ดแวร์ดี ๆ แล้ว ก็อยากให้มันทำงานได้มากขึ้นไปอีก ซึ่งการมาถึงของ ChatGPT ทำให้คนเปิดกว้างกับ Gen AI ว่ามันใช้ง่าย และทำให้คนอยากเปลี่ยนอุปกรณ์ สินค้าเหล่านี้จะถูกลงเรื่อย ๆ และทำให้คนมีโอกาสได้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ”

“สิ่งที่เราเห็นคือคำว่าโอกาส ตอนนี้เราอยู่ใน Industry ที่น่าตื่นเต้นมาก และทุกคนใน Industry ของเราพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี” คุณสุธิดากล่าวปิดท้าย

สำหรับงาน “Synnex Partner Connext 2023” เป็นมหกรรมด้านเทคโนโลยีแห่งปี ที่รวบรวมบริษัทพาร์ทเนอร์-ดีลเลอร์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก กว่า 70 แบรนด์ มาเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน นับเป็นทิศทางที่ดีของอุตสาหกรรมไอทีในประเทศ ที่จะผนึกกำลังเดินหน้ารับเทรนด์โลกยุคดิจิทัล


แชร์ :

You may also like