คุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
การเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทยถือเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะเบอร์ใหญ่ของวงการอย่างซินเน็ค (Synnex) ที่ออกมาแถลงวิสัยทัศน์การเป็น No.1 IT Ecosystem ผ่านงาน “Synnex Partner Connect 2022” กับการบูรณาการ Ecosystem ขององค์กรให้ตอบโจทย์ความต้องการของพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ พร้อมประกาศว่าการเติบโตเพียงลำพังนั้นง่าย แต่จะดีกว่าหากทุกฝ่ายเติบโตไปพร้อมกันวิสัยทัศน์ของซินเน็คในการพัฒนา IT Ecosystem ให้แข็งแกร่งในฐานะเบอร์หนึ่งของวงการถูกขยายความโดย คุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่เผยว่า การระบาดของ Covid-19 ที่ผ่านมาคือจุดเปลี่ยนของประเทศไทยในการใช้เทคโนโลยี โดยทุกวันนี้ เราไม่เพียงใช้เทคโนโลยีเท่านั้น แต่คนไทย “อยู่” กับเทคโนโลยีไปเรียบร้อยแล้ว
ปรากฏการณ์ดังกล่าว ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ (Gartner) ที่ระบุว่า การใช้จ่ายด้านไอที (IT Spending) จะเติบโตขึ้นถึง 6.4% ในประเทศไทย ขณะที่ตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 5.5% เท่านั้น
“เราเชื่อว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ซินเน็คจะมีรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท แต่เราไม่ได้อยากโตคนเดียว เราอยากให้พาร์ทเนอร์ ดีลเลอร์ เวนเดอร์ และทุกคนใน Ecosystem ของเราเติบโตไปด้วยกัน และมาช่วยกันทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี” คุณสุธิดากล่าว
เปิดวิสัยทัศน์ซินเน็ค โตอย่างไร ภายใต้ “Ecosystem” ใหม่
ที่ผ่านมา ซินเน็คให้บริการใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ไอที ได้แก่ สินค้ากลุ่ม Communication เช่น สมาร์ทโฟน, สินค้ากลุ่ม Consumer เช่น เครื่องเล่นเกม และสินค้ากลุ่ม Commercial & Enterprise เช่น บริการด้าน Cloud, Storage, IoT Solution, Software, CyberSecurity ฯลฯ ซึ่งภายใต้การเติบโตดังกล่าว จะเห็นว่า ทุกกลุ่มเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น ตลาดเกม มีการคาดการณ์จาก depa ระบุว่า อุตสาหกรรมเกมในปี 2022 อาจมีมูลค่าแตะ 38,000 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของ eSport ที่ไทยถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงตัวเลขนักเล่นเกมชาวไทยที่มีมากกว่า 32 ล้านคน หรือตลาดคลาวด์ที่การ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะของไทยในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 36.6% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 40,800 ล้านบาท
เพื่อตอบรับการเติบโตทั้งหมดที่กล่าวมา คุณสุธิดาเผยว่า ซินเน็คมีการพัฒนาสินค้าเกมมิ่งภายใต้แบรนด์ S-Gear และเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อย หรือสินค้าในกลุ่ม Communication ที่ซินเน็คเป็นผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Samsung, Huawei ฯลฯ รวมถึงแบรนด์ Honor สมาร์ทโฟนยอดขายอันดับ 1 จากจีน ที่บริษัทได้เป็น Full Service Distributor อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก็ตอบรับความต้องการสินค้าเพื่อก้าวไปสู่เครือข่าย 5G ด้วยเช่นกัน
ขณะที่สินค้าในกลุ่ม Commercial & Enterprise นั้น ทางบริษัทได้มีการประกาศลงทุนในบริษัท ไซเบอร์ตรอน จำกัด (Cybertron) ในฐานะบริการเพื่อเฝ้าระวังด้านภัยคุกคามของไทย พร้อมดึง “ดร.ปริญญา หอมเอนก” ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของไทยเป็นพันธมิตรด้วย โดยคุณสุธิดามองว่า อุตสาหกรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้จะเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการเติบโตสูงในอนาคต ทั้งในด้าน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโซลูชัน
แตก 7 ธุรกิจใหม่ตอบเมกะเทรนด์โลกใน Synnex Ecosystem
“ห่างหายจากการจัดงาน Partner Connect ไปสองปี เรากลับมาคราวนี้ขอย้ำว่าซินเน็คเราพร้อมกว่าเดิม” คุณสุธิดากล่าวพร้อมอธิบายถึง Synnex Ecosystem ใหม่ ที่ภายในมีธุรกิจที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์เพิ่มขึ้นถึง 7 รายการ นั่นคือ Cloud Service, IoT Solutions, Robotics, EV, Gaming, Health และสินค้ากลุ่ม House Brand
“การทำให้ชีวิตคนดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีจะทำอย่างไร เราเริ่มต้นจากดีลเลอร์ของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Dealer Portal ให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น และสามารถเข้ามาทำรายการได้ตลอด 24/7 นอกจากนั้น แทนที่ดีลเลอร์จะต้องสั่งสินค้าจากเราไปเก็บไว้ในสต็อก ตอนนี้ เรามีบริการไปส่งสินค้าให้ที่บริษัทลูกค้าของดีลเลอร์เลย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับดีลเลอร์แต่อย่างใด”
คุณสุธิดายังได้กล่าวถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป จากการซื้อคอมพิวเตอร์ – สินค้าเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปสู่บริการแบบ Subscription Model ซึ่งซินเน็คก็มีบริการในจุดนี้ให้ดีลเลอร์นำไปเสนอแก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน
จับมือ SCB 10X เปิดตัว Swopmart ซื้อขายคอมพ์มือสอง
จากธุรกิจต้นน้ำที่ครบเครื่องด้านตัวสินค้าแล้ว ในส่วนของธุรกิจปลายน้ำ ซินเน็คได้มีการจับมือกับ SCB 10X เปิดตัว Swopmart แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าไอทีมือสอง ในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อตอบโจทย์ดีลเลอร์อีกต่อหนึ่งด้วยเช่นกัน รวมถึงยังทำให้การจัดการด้าน e-Waste ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับงานด้านเซอร์วิส ที่เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยซินเน็คมีการเปิดบริษัทใหม่ชื่อ Service Point เพื่อให้บริการ 6 งานซัพพอร์ตด้านไอทีอย่าง Technical Support, Professional Service, Devices as a service, Contact Center, การเคลมสินค้าภายใต้ Trusted by Synnex และดูแลศูนย์บริการกว่า 26 ศูนย์ รวมถึงมี Service Partner ทั่วประเทศมากกว่า 67 รายด้วย
“ทั้งหมดนี้ เราพยายามทำให้การทำงานของดีลเลอร์ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น มีสินค้าขายมากขึ้น และเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อดีลเลอร์แข่งขันได้ดีขึ้น เขาก็จะเติบโตไปด้วยกันกับ Ecosystem ของซินเน็ค” คุณสุธิดากล่าวปิดท้าย