HomeBrand Move !!ไตรมาส 2 ‘เต่าบิน’ มี 6,142 ตู้  ทำยอดขาย 20 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 96%     

ไตรมาส 2 ‘เต่าบิน’ มี 6,142 ตู้  ทำยอดขาย 20 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 96%     

แชร์ :

tao bin

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

“ตู้เต่าบิน” (TAO BIN) คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ธุรกิจที่พัฒนาโดยบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ในเครือ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด หรือ FSMART ได้สรุปยอดขายไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่ารวม 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.1% เทียบปีก่อน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยไตรมาส 2 นี้มีจำนวนยอดขายรวม 19.56 ล้านแก้ว (หรือเกือบ 20 ล้านแก้ว) เพิ่มขึ้น 96.6% เทียบปีก่อน จากจำนวนตู้เต่าบินทั้งหมด 6,142 ตู้ ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 187.3% เทียบปีก่อน

ช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 ตู้เต่าบินเพิ่มจำนวนจุดติดตั้งตู้ไม่มาก เนื่องจากมีการโยกย้ายจุดติดตั้งจากทำเลที่มียอดขายไม่ดีไปยังทำเลที่มียอดขายดีกว่าและอัพเดทตู้รุ่นใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ให้ทันสมัยสามารถชงเครื่องดื่มได้มากขึ้นเข้าไปติดตั้งแทนตู้รุ่นเดิม

นอกจากนี้มีการทำโฆษณาขึ้นบิลบอร์ดขนาดใหญ่และขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งตามป้ายรถเมล์และอื่น ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ มากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและแคมเปญต่าง ๆ ดึงดูดลูกค้าไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ให้มาทดลองเครื่องดื่มเมนูใหม่ เช่น เมนูเป๊ปซี่ใหม่ ทำให้ยอดขายและจำนวนสมาชิกเต่าบินเพิ่มขึ้น

ตามดูตัวเลข “ตู้เต่าบิน”

– ไตรมาส 2 ปี 2565 ยอดขาย   9.95 ล้านแก้ว มูลค่า 346 ล้านบาท จำนวน 2,138 ตู้

– ไตรมาส 3 ปี 2565 ยอดขาย 14.86 ล้านแก้ว มูลค่า 484 ล้านบาท จำนวน 3,572 ตู้

– ไตรมาส 4 ปี 2565 ยอดขาย 17.33 ล้านแก้ว มูลค่า 550 ล้านบาท จำนวน 4,942 ตู้

– ไตรมาส 1 ปี 2566 ยอดขาย 18.59 ล้านแก้ว มูลค่า 575 ล้านบาท จำนวน 5,537 ตู้

– ไตรมาส 2 ปี 2566 ยอดขาย 19.56 ล้านแก้ว มูลค่า 592 ล้านบาท จำนวน 6,142 ตู้ 

หากดูตัวเลขยอดขายไตรมาส 2 ปีนี้  “ตู้เต่าบิน” มียอดขายเฉลี่ย  2.17 แสนแก้วต่อวัน  หากช่วงที่อากาศร้อนมากทำยอดขายได้ถึง 2.5-2.7 แสนแก้วต่อวัน

เครื่องดื่มขายดีอันดับ 1 ในเชิงมูลค่า คือ “โอริโอ้” เพราะราคาต่อแก้ว 55 บาท เป๊ปซี่ เป็นเครื่องดื่มขายดีอันดับ 1 เชิงปริมาณ ตามด้วยเต่าทรงพลัง (เครื่องดื่มชูกำลัง) ราคาแก้วละ 15 บาท

“ตู้เต่าบิน” วางเป้าหมายสิ้นปี 2566 มีจำนวน 10,000 ตู้ และสิ้นปี 2567 จะมีทั้งหมด 20,000 ตู้ ทำยอดขายได้วันละ 1 ล้านแก้ว รายได้ 30 ล้านบาทต่อวัน หรือ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้น (Gross Margin) สูงถึง 65%

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like