หลังประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนเซ็ปต์เพื่อแนะนำ SMART Community Center ซึ่งเปิดตัวสาขาแรกไปที่ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ พร้อมนำประสบการณ์ รวมทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่เรียนรู้จากสาขาต้นแบบ มาใช้ต่อยอดการขับเคลื่อนโรดแมพเพื่อปูพรมสร้าง Transformational Growth ช่วยยกระดับให้โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศไทย พลิกโฉมไปสู่เวอร์ชันใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน และสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งแต่ละช่วงวัยที่แตกต่างกันได้ด้วย
ดังนั้น จากนี้ไปทุกสาขาของโลตัส ทั้งสาขาใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว รวมไปถึงการปรับปรุงสาขาเดิมที่มีอยู่แล้ว จะถูกกยกระดับสู่ SMART Community Center หรือศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทให้กับคนทุกวัยในชุมชน โดยเฉพาะความหลากหลายในสังคมไทย ซึ่งผู้บริโภคปัจจุบันมีรูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการที่หลากหลายแตกต่างกันถึง 6 เจเนอเรชัน
กางโรดแมพ ปักหมุดสู่ศูนย์กลางชุมชน
คุณเบญจวรรณ อ่องศรี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารพื้นที่ศูนย์การค้า โลตัส กล่าวว่า “โลตัส เดินหน้าพัฒนาสาขารูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มเติมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อยกระดับแต่ละสาขาของโลตัสให้ตอบโจทย์ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนในชุมชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ของแต่ละสาขา เพื่อพลิกโฉมโลตัสจากไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมให้เป็นได้มากกว่า Shopping Destination มาสู่ SMART Community Center หรือการเป็นธุรกิจค้าปลีกที่สามารถเข้าถึงและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน พร้อมตอบสนองการใช้ชีวิตผู้คนแต่ละพื้นที่ รวมถึงสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ รองรับการใช้ชีวิตในทุกมิติของทุกเจเนอเรชั่นที่มีอยู่ในแต่ละสังคมได้อย่างลงตัว”
ทั้งนี้ โลตัสจะพัฒนาสาขารูปแบบใหม่ ๆ เพื่อรองรับวิถีชีวิตแบบสมาร์ทได้มากขึ้น ทั้งการดีไซน์รูปแบบสาขา การส่งมอบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้า รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส โดยตั้งเป้าเปิดสาขารูปแบบใหม่ พร้อมทั้งมีแผนขยายปรับปรุงพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาที่มีอยู่เดิมอีก 31 แห่งทั่วประเทศ ให้พลิกโฉมสู่ SMART Community Center ซึ่งเบื้องต้นมีแผนเปิดตัวสาขาใหม่ อาทิ
สาขายะลา ซึ่งเป็นสาขาแรกของโลตัสในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ปรับองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในสาขาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมคนในท้องถิ่น ในสไตล์โมเดิร์น พร้อมจัดเต็มสินค้าและร้านอาหารครบครัน ครอบคลุมทั้งอาหารฮาลาล พร้อมห้องสำหรับละหมาด และพื้นที่โซนเอ้าท์ดอร์ให้รองรับการทำกิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งคาดจะเปิดตัวราวไตรมาส 2 ปี 2024
ขณะที่แผนในการปรับปรุงเพื่อขยายพื้นที่ในสาขาเดิมนั้น จะเน้นการออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัย สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งขยายพื้นที่ให้รองรับร้านค้าได้หลากหลาย และเพิ่มพื้นที่สำหรับรองรับกิจกรรมของสมาขิกในครอบครัวได้ ซึ่งจะทยอยเผยโฉมเวอร์ชันใหม่ของแต่ละสาขาที่สมาร์ทยิ่งขึ้น โดยมีสาขาไฮไลต์ อาทิ สาขาปากช่อ สาขาอุดรธานี สาขาเอกมัย-รามอินทรา สาขาพัฒนาการ เป็นต้น
เพิ่มโอกาสธุรกิจท้องถิ่น สร้างการเติบโตร่วมกัน
แนวทางของโลตัสในการขับเคลื่อนสู่ SMART Community Center จะพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น (Persona & Lifestyle) เพื่อช่วยดึงดูดลูกค้า และสามารถเพิ่มจำนวนทราฟิกที่เข้ามาภายในศูนย์ให้มีมากยิ่งขึ้น ผ่าน 4 แกนหลัก ทั้ง Food Destination, Entertainment, Lifestyle & Well Being และ Smart & New Experience
ขณะเดียวกันจะเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ศูนย์การค้าภายในแต่ละสาขา ให้รองรับการขยายสินค้าและบริการได้อย่างครบครันยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มร้านอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารแบรนด์ดัง แบรนด์ของผู้ประกอบการภายในท้องถิ่น เพื่อเป็นการเติมเต็มร้านค้าให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเปิดพื้นที่ช่วยสร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นและพันธมิตรของโลตัสเพิ่มมากขึ้น เพิ่มการมีส่วนร่วมในการสร้างงานสร้างอาชีพและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้สร้างการเติบโตไปด้วยกันกับโลตัส
ในส่วนของการขับเคลื่อนทางการตลาด มีการวางกลยุทธ์ที่ส่งเสริมการเป็น SMART Community Center ทั้งการสนับสนุนการขาย การจัดโปรโมชั่นและแคมเปญพิเศษจากส่วนกลางและการร่วมมือกับทางแบรนด์พันธมิตร รวมถึงการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อโปรโมทสินค้าและบริการ ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาภายในศูนย์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนา Lotus’s Smart App ที่สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของโลตัสได้จากสมาร์ทโฟน รองรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค โดยเฉพาะการมีช่องทางเข้าถึงโลตัสได้แบบออมนิชาแนล ซึ่งตอบโจทย์ได้ทั้งความสะดวกสบายและความคุ้มค่าจากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่มีให้แก่ลูกค้าสมาชิกมายโลตัส ซึ่งปัจจุบันมีฐานสมาชิกอยู่ในแพลตฟอร์มมากกว่า 20 ล้านราย สะท้อนถึงการมีฐานข้อมูลที่ช่วยทำความเข้าใจอินไซต์และพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นำมาซึ่งการต่อยอดในการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืนของโลตัสได้ในที่สุด