HomeBrand Move !!รู้จัก “ASEAN LINK” บริการใหม่กรุงศรี ตั้งเป้าพานักธุรกิจเทศ-ไทยบุกอาเซียน

รู้จัก “ASEAN LINK” บริการใหม่กรุงศรี ตั้งเป้าพานักธุรกิจเทศ-ไทยบุกอาเซียน

แชร์ :

Krungsri_JPC-MNC Business Direction Press Conference 2023_02

คุณบุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เล่นเบอร์ใหญ่ในตลาดลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นมานานสำหรับธนาคารกรุงศรีฯ และในวันที่นักลงทุนต้องการขยายกิจการไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน การหาโซลูชันเพื่อตอบโจทย์อาจเป็นอีกหน้าที่หนึ่งของธนาคาร ล่าสุดจึงมีการเปิดตัวอีกหนึ่งบริการใหม่ในชื่อ Asean Link เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับลูกค้าทั้งไทย – ญี่ปุ่น และต่างชาติที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ 9 ประเทศอาเซียนแล้ว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

การประกาศดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยแม่ทัพคนใหม่ในกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ของกรุงศรี อย่าง “คุณบุนเซอิ โอคุโบะ” ที่เผยว่าปัจจุบันทางกลุ่มฯ ไม่เพียงดูแลลูกค้าญี่ปุ่น 75% จากทั้งหมดที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ยังช่วยสนับสนุนกลุ่มลูกค้าทั้งไทย – ญี่ปุ่น ในการออกไปลงทุนต่างประเทศผ่านบริการใหม่ในชื่อ Asean Link ด้วย

คุณโอคุโบะกล่าวต่อไปด้วยว่า บริการดังกล่าวเป็นการช่วยกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น และบรรษัทข้ามชาติในการขยายธุรกิจแบบ Tailor-Made ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิเคราะห์ การให้ข้อมูลด้านการตลาด – แนวโน้มด้านเศรษฐกิจเพื่อการควบรวมกิจการ การพัฒนาและจัดตั้งสำนักงานธุรกิจในระดับภูมิภาค การให้บริการปรึกษาทางกฎหมายและภาษีอากร การจับคู่ธุรกิจ โดยที่ผ่านมา มีการช่วยบริษัทลงทุนในอาเซียนแล้ว เช่น

  • การช่วยตั้งโรงงานผลิตเลนส์ในประเทศลาว
  • การให้คำปรึกษาด้านข้อมูลตลาดและข้อบังคับทางกฎหมายในการตั้งสำนักงานของบริษัทวัสดุก่อสร้างในประเทศเวียดนาม
  • การช่วยสำรวจและแนะนำพื้นที่ในการตั้งโรงงานแปรรูปอาหารในประเทศเวียดนาม
  • การให้คำปรึกษาในการตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยของบริษัทด้านยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ พื้นที่ที่ Asean Link ให้บริการมีทั้งสิ้น 9 ประเทศ (ในอาเซียน) และสามารถต่อยอดได้ในอีก 50 ประเทศภายใต้เครือข่าย MUFG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารด้วย

ญี่ปุ่นลงทุนอย่างไรในอาเซียน

เมื่อถามถึงแนวโน้มการลงทุนของภาคธุรกิจญี่ปุ่น ว่ามีความสนใจในอุตสาหกรรมใด หรือประเทศใดเป็นพิเศษ คุณโอคุโบะได้เผยว่า  หากเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ บริษัทญี่ปุ่นจะนิยมไปลงทุนในอินโดนีเซีย หรือถ้าเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรก็จะเน้นไปที่ประเทศเวียดนาม เป็นต้น

ในส่วนของประเทศไทยนั้น คุณโอคุโบะให้ความเห็นว่า นักลงทุนจากญี่ปุ่นมีความกังวล 2 ประการ นั่นคือการขึ้นค่าแรง และปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ประเทศไทยก็มีความแข็งแกร่งด้านทำเลที่ตั้ง ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทำให้ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้บริหาร JPC/MNC Banking ได้กล่าวถึงจำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่ให้การดูแลอยู่ในปัจจุบันว่า มีประมาณ 3,400 แห่ง จากทั้งหมดที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยทั้งสิ้น 4,500 ราย โดยรายได้จะมาจากค่าธรรมเนียมในการให้บริการ – ให้คำปรึกษา และบริการ Asean Link จะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลังของ 2023


แชร์ :

You may also like