HomeSponsoredเบื้องหลังความสำเร็จ 3 ปี “เซ็นทรัล วิลเลจ” ต่อยอดสู่ Luxury Lifestyle Destination แห่งแรกของไทย

เบื้องหลังความสำเร็จ 3 ปี “เซ็นทรัล วิลเลจ” ต่อยอดสู่ Luxury Lifestyle Destination แห่งแรกของไทย

แชร์ :

หลังจาก “เซ็นทรัลพัฒนา” ตัดสินใจเปิดตัว “เซ็นทรัล วิลเลจ” (Central Village) เมื่อปี 2562 โดยวางเป้าหมายให้เป็นลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกของไทย ถึงวันนี้ เซ็นทรัล วิลเลจ เดินทางมาครบ 3 ปีแล้ว และถึงแม้ต้องเจอความท้าทายรอบด้าน ทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจชะลอตัว แต่กลับสร้างความโดดเด่นจนทำให้นักช้อปแวะเวียนเข้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เส้นทางการเติบโตตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของ “เซ็นทรัล วิลเลจ” จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ อะไรคือ กุญแจสำคัญที่ทำให้เซ็นทรัล วิลเลจ ประสบความสำเร็จ “ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา เผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จที่ผ่านมา พร้อมทิศทางนับจากนี้ของเซ็นทรัล วิลเลจ

“แบรนด์เนมยอดนิยม-Live Streaming” กลยุทธ์ปั้น “เซ็นทรัล วิลเลจ” ครองใจนักช้อป

 แม้ “เซ็นทรัลพัฒนา” จะอยู่คู่คนไทยมายาวนาน และพัฒนาศูนย์การค้ามากว่า 37 แห่ง ทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่การเปิดตัว “เซ็นทรัล วิลเลจ” เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการค้าปลีกและนักช้อปแบรนด์เนมไม่น้อย เพราะเป็นโครงการแรกที่นำเอาแบรนด์ลักชูรี่ระดับโลกมาให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้ช้อปกัน ทั้งยังจับมือร่วมทุนกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บิ๊กอสังหาฯ ระดับโลก ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเอาท์เล็ตชื่อดังของเอเชีย เพื่อที่จะปั้นให้ที่นี่เป็นลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทยที่เทียบชั้นระดับโลก

จึงส่งผลให้เซ็นทรัล วิลเลจ ได้รับการตอบรับจากนักช้อปทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทย, Expat และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดประเทศ ทำให้มียอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าต่อเดือน โดย Top 3 นักท่องเที่ยวที่เข้ามาช้อปปิ้งในศูนย์ฯ ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

สำหรับเสียงตอบรับที่ดีนี้ ดร.ณัฐกิตติ์ บอกว่า เกิดจากส่วนผสมหลายอย่าง สิ่งแรกคือ การดึงแบรนด์เนมยอดนิยมที่ตรงใจนักช้อปชาวไทย และนักท่องเที่ยวทั่วโลกมารวมไว้ในที่เดียว ทั้งยังมีแบรนด์ครบทุก Category ทั้ง Luxury & Premium Fashion & Accessories จนถึง Sport Fashion, Cosmetic และ Specialty โดยปัจจุบันเซ็นทรัล วิลเลจ มีแบรนด์ชั้นนำกว่า 300 แบรนด์ อาทิ Salvatore Ferragamo, Coach, Ermenegildo Zegna, Kate Spade, Kenzo, Marimekko, Max & Co, MCQ, Michael Kors, Moschino, Outlet by Club21, Polo Ralph Lauren, Valentino, Vivienne Westwood, Bath & Body Works, Coccinelle และ Jim Thompson จึงตอบความต้องการของนักช้อปครบทุกไลฟ์สไตล์เทียบชั้นเอาท์เล็ตระดับโลก

นอกจากนี้ การสร้าง Omnichannel Platform ของตัวเอง ผ่าน Live Streaming และ Chat & Shop ยังเป็นอีกส่วนผสมสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้กับเซ็นทรัล วิลเลจ เพราะไม่เพียงสร้าง Engagement กับลูกค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Top Spenders และ Quality Traffic ทั้งใน-นอก Catchment แล้ว ยังช่วยสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้จริงด้วย สะท้อนได้จากยอดขายของหลายแบรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ COACH, ERMENEGILDO ZEGNA, SALVATORE FERRAGAMO, ADIDAS SUPERSPORTS, POLO RAPLH LAUREN, ONITSUKA TIGER และ MARIMEKKO รวมถึงยอด Transaction ในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นกว่า 44% เมื่อเทียบกับปี 2563

ดึงแบรนด์ดัง สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้ง สู่การเป็นLuxury Lifestyle Destination”

จากความสำเร็จตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้ “เซ็นทรัล วิลเลจ” จึงต้องการต่อยอดสู่การเป็น “Luxury Lifestyle Destination” ซึ่งการจะปั้น เซ็นทรัล วิลเลจ ให้เป็นมากกว่าการช้อปปิ้งแบรนด์เนม ดร.ณัฐกิตติ์ บอกว่า กลยุทธ์ต้องจัดหนัก และเข้มกว่าเดิม ซึ่งนอกเหนือจากการนำแบรนด์เนมที่เป็นที่ชื่นชอบของนักช้อปเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการทำ Live Streaming แล้ว สิ่งที่จะเพิ่มเติมมากขึ้นคือ การสร้างฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ผ่านการสร้าง Lifestyle Communities และเพิ่มช่องทางการขาย Intensive Omnichannel เพื่อให้สามารถ Targeting ลูกค้ากำลังซื้อสูงของศูนย์การค้าสาขาอื่นที่มีทั่วประเทศและนำมาต่อยอดทำ CRM Marketing โดยล่าสุดได้ร่วมกับเซ็นทรัล เชียงใหม่ ดึงกลุ่ม Top spender จัดทริปช้อปปิ้งที่ศูนย์ฯ อีกทั้งเจาะกลุ่ม Lifestyle หลากหลาย ทั้ง Family กลุ่ม Sport Lifestyle ที่ลงลึกทุกประเภทกีฬา และจัดกิจกรรม Supercar meeting, งาน Wine Testing ที่ Target กลุ่ม High spender ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งให้นักช้อป (Shoppertainment Experience) รู้สึกเหมือนมาเดินช้อปในเอาท์เล็ตเมืองนอกมากขึ้น โดยจัดกิจกรรมสุดพิเศษฉลองครบรอบ 3 ปี “Anniversary Celebration Fun Fair” ซึ่งเป็นครั้งแรกของการ Collaboration แบรนด์ระดับโลกอย่าง “มารีเมกโกะ” (Marimekko) เนรมิตลานน้ำพุ Royal Village ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ กับเครื่องเล่นม้าหมุนสีขาวดีไซน์คลาสสิค ตกแต่งด้วยผ้าที่มีดีไซน์และสีสันโดดเด่น เพื่อให้เหล่า Prints lovers มาถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ทั้งยังสนุกไปกับ Mini Concert จากศิลปินดัง “ส้ม มารี” และ “ไบร์ท นรภัทร”

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะดึงฟู้ดทรัคเจ้าดัง และร้านอาหารฮาลาล มาจัดเทศกาลอาหารระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย. 2565 นี้ เพื่อให้นักช้อปได้อิ่มอร่อยระหว่างช้อปปิ้ง รวมถึงเตรียมเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ปลายปี กับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี พร้อมกับต้นคริสต์มาสยักษ์และการประดับไฟทั่วทั้งพื้นที่ เพื่อสร้าง Festive Vibes ในบรรยากาศเอาท์เล็ตเมืองนอก

ส่งโปรฯ แรง ลดสูงสุด 90% กระตุ้นขาช้อป

นอกจากการจัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งให้เหมือนมาเดินช้อปที่เอาท์เล็ตในต่างประเทศแล้ว แคมเปญโปรโมชั่น ยังเป็นอีกสิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง เพื่อดึงนักช้อปให้แวะเวียนมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจึงจัดแคมเปญ “แฮปปี้ช้อปเดย์” ขนทัพ 300 แบรนด์ดังระดับโลกมอบส่วนลดสูงสุด 90% และส่วนลด on-top เพิ่มอีกกว่า 15% เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ 2 ชิ้นขึ้นไป เช่น Kate Spade ลดสูงสุด 80%, Polo Ralph Lauren ลดสูงสุด 70% Outlet by Club21 ลดสูงสุด 90%, Coccinelle ลดสูงสุด 80%, Marimekko ลดสูงสุด 60% รับฟรี Unikko Cushion Cover เมื่อซื้อสินค้า 12,000 บาท ขึ้นไป, Runway Eighty ลดสูงสุด 80% และลดเพิ่ม 20% เมื่อช้อปครบ 4 ชิ้นขึ้นไป เป็นต้น

ยิ่งคุ้มไปอีกกับโปรโมชั่นพิเศษอีก 3 ต่อ อาทิ ต่อที่ 1 ทุกยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ลุ้นรับแพคเกจห้องพักพร้อมดินเนอร์สุดหรู จากโรงแรม Banyan Tree กรุงเทพ มูลค่า 20,000 บาท จำนวน 2 รางวัล, ชุดเครื่องนอน New Collection Space Diamond จาก Pasaya มูลค่า 11,130 บาท จำนวน 1 รางวัล  Hermès NEOBAIN CASE จาก SF Brandname มูลค่า 10,950 บาท จำนวน 1 รางวัล และรางวัลสุดพิเศษอีกมากมายกว่า 300 รางวัล ต่อที่ 2 ช้อปครบรับทันที Gift Voucher สูงสุด 1,500 บาท ช้อป 20,000บาท รับ Gift Voucher 300 บาท ช้อป 50,000 บาท รับ Gift Voucher 1,500 บาท และ ต่อที่ 3 โปรโมชั่นเครดิตเงินคืนสูงสุด 24% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

สำหรับการจัดแคมเปญในครั้งนี้ เซ็นทรัล วิลเลจ คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดทราฟฟิกสูงขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้กับเหล่านักช้อป เพื่อให้เซ็นทรัล วิลเลจ ก้าวสู่การเป็น Luxury Lifestyle Destination ขาช้อปแบรนด์เนมทั้งหลายห้ามพลาดเลย โดย แคมเปญ 3rd Anniversary Celebration แฮปปี้ช้อปเดย์ เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 2 ต.ค. 2565 นี้


แชร์ :

You may also like