โออิชิฯ ท็อปฟอร์มไตรมาส 3 โกยรายได้ 3,369 ล้านบาท เติบโต 29.5% หลังปรับกลยุทธ์การตลาด เดินหน้าทุกแพลตฟอร์ม ให้ทันสถานการณ์ รับมือปัจจัยลบ และตอบ Insight ผู้บริโภค “โออิชิ บิซโทโระ” และ ‘“ร้าน ชาบู บาย โออิชิ” เข้ามาเสริมแกร่งพอร์ต
การคลายล็อกเปิดประเทศ พร้อมกับสัญญาณการระบาดของโควิดที่เริ่มคลี่คลาย ส่งผลดีต่อหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย ให้กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องเผชิญมรสุมรอบด้านตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
“โออิชิ กรุ๊ป” คือหนึ่งในยักษ์ใหญ่ธุรกิจ F&B เมืองไทย ที่มีการปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มธุรกิจอาหาร คือ เข้าถึงผู้บริโภคในเชิงรุกให้ได้มากที่สุด ภายใต้ Brand Portfolio ธุรกิจร้านอาหารในเครือปัจจุบันมีอยู่กว่า 23 แบรนด์ มากกว่า 673 สาขา ด้วยการเดินหน้าทุกแพลตฟอร์มบริการ การปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสถานการณ์และตอบ Insight ผู้บริโภค พร้อมสร้างการเติบโตทั้งยอดขายและกำไร อีกทั้งเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ และลุยโมเดลใหม่ – เน้นขยายนอกห้างฯ เพื่อกระจายความเสี่ยง เป็นการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
โมเดลร้านอาหารนอกห้างฯ ที่โออิชิใช้สร้างการเข้าถึงลูกค้าพร้อมกระจายความเสี่ยงในยุคโควิด
ล่าสุดโออิชิ กรุ๊ปฯ เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 (1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565) มีรายได้ 3,369 ล้านบาท เติบโต 29.5% กำไรสุทธิ 358 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงถึง 120.5% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,957 ล้านบาท เติบโต 7.8% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,412 ล้านบาท เติบโต 79.4% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 196 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 120.5%
คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มในประเทศเริ่มสดใส หลังเปิดประเทศและรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ทำให้มีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากต้นทุนสินค้าและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัท อย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์และ Consumer Insight ใหม่ ๆ ได้ทัน พร้อมดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากธุรกิจอาหารกลับมาเปิดให้บริการตามปกติของธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่องทางรับประทานอาหารที่ร้าน (Dine-in) ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบ “บริการส่งตรงถึงบ้าน” (Home Delivery) ยังคงได้รับความนิยมและสร้างยอดขายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยเฉพาะการเปิดโมเดลใหม่ร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วน “โออิชิ บิซโทโระ” (Oishi Biztoro) ที่เน้นขยายสาขาออกไปอยู่นอกห้าง เพื่อเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และให้ความคุ้มค่า รวมทั้งร้านอาหารแบบ A-la-carte ในรูปแบบชาบูสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง “ร้าน ชาบู บาย โออิชิ” (Shabu by Oishi) ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
ควบคู่ไปกับการส่งผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานเร่งเครื่องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เรดี้มีลและกลุ่มซอสปรุงรสบรรจุขวด พร้อมลุยทุกช่องทางการขาย ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลให้เติบโตในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่ พร้อมผลักดันการขายเกี๊ยวซ่าและแซนด์วิช จาก “โออิชิ อีทโตะ” (Oishi Eato) เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศ
‘โออิชิ กรีนที ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0%’ ที่พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ
ฟากของธุรกิจธุรกิจเครื่องดื่มตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘โออิชิ กรีนที ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0%’ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้ได้รับความสนใจและการตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จแคมเปญ ‘ดาบพิฆาตอสูร’ ซีซั่นแรกที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงสร้างสรรค์ซีซั่น 2 ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ลวดลายใหม่ของดาบพิฆาตอสูรในผลิตภัณฑ์ขนาด 350 มล. และ 380 มล. พร้อมทำกิจกรรมโปรโมทยังโรงเรียนต่างๆ ในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง