HomePR NewsAP โชว์แกร่ง ครึ่งปีกวาดรายได้ 25,270 ล้าน กำไรเพิ่มขึ้น 31%  มีที่อยู่อาศัยพร้อมขาย 160 โครงการ  

AP โชว์แกร่ง ครึ่งปีกวาดรายได้ 25,270 ล้าน กำไรเพิ่มขึ้น 31%  มีที่อยู่อาศัยพร้อมขาย 160 โครงการ  

แชร์ :

สัญญาณฟื้นตัวธุรกิจอสังหาฯ หลังโควิดเริ่มชัดเจน เมื่อดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ประกาศแผนเร่งผุดโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมจำนวนมากอีกครั้งในปีนี้ เพื่อรองรับดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มกลับมาแล้ว สะท้อนจากผลประกอบการบริษัทอสังหาฯ ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บิ๊กอสังหาฯ “เอพี ไทยแลนด์” สรุปตัวเลขครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทำรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% และ JV) และธุรกิจอื่นๆ สูงสุดถึง 25,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 23% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่ทำได้ 20,506 ล้านบาท

ด้านกำไรสุทธิ  3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 2,518 ล้านบาท

เป้ายอดขายทั้งปี 50,000 ล้านบาท 

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าปีนี้กลุ่มสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ยังคงเป็นสินค้าสำคัญสร้างรายได้เติบโต ควบคู่กับการกลับมาของตลาดคอนโดที่รับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง  ช่วงไตรมาส 3 เตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากการโอนกรรมสิทธิ์ 2 คอนโดใหม่ที่ก่อสร้างเสร็จ ได้แก่ RHYTHM เอกมัย เอสเตท และ LIFE สาทร เซียร์รา (ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มียอดขายรอโอน 33,637 ล้านบาท)

ปัจจุบันแม้มีปัจจัยลบเรื่องภาวะเงินเฟ้อ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ตลอดจนการปรับตัวขึ้นของต้นทุนด้านต่างๆ แต่ “เอพี” ยังสามารถสร้างสถิติยอดขายใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยสิ้นเดือนกรกฎาคม มียอดขาย 29,960 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ที่ 50,000 ล้านบาท ยอดขายที่ทำได้นั้นเติบโตขึ้นกว่า 45% หากเทียบกับครึ่งปีก่อนหน้า

โดยมีสินค้าซูเปอร์สตาร์อย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่ช่วยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่ยอดขายกลุ่มธุรกิจคอนโดก็ปรับตัวดีขึ้น จากดีมานด์เริ่มฟื้นตัว

ช่วงครึ่งปีหลัง “เอพี” จะมีโครงการพร้อมขายกระจายทั่วกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดรวมกันมากถึง 160 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 122,350 ล้านบาท

การพัฒนาโครงการในต่างจังหวัด ใช้สินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ “อภิทาวน์” ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเปิดโครงการไปแล้วใน 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ระยอง นครศรีธรรมราช เชียงราย และอยุธยา และในครึ่งปีหลังนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ฉะเชิงเทรา และ อุบลราชธานี

ส่วนโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเปิดอีกจำนวนมาก ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 16 โครงการ มูลค่า 16,440 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน 18 โครงการ มูลค่า 24,030 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท


แชร์ :

You may also like