HomeBrand Move !!เครือสหพัฒน์ จ่อขึ้นราคาสินค้า ‘มาม่า-ผงซักฟอก’ แบกต้นทุนไม่ไหว รอพาณิชย์ไฟเขียว 

เครือสหพัฒน์ จ่อขึ้นราคาสินค้า ‘มาม่า-ผงซักฟอก’ แบกต้นทุนไม่ไหว รอพาณิชย์ไฟเขียว 

แชร์ :

วิกฤติ “ต้นทุน” ทำให้ราคาสินค้าและบริการปรับสูงขึ้นต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน  จนตัวเลข “เงินเฟ้อ” ปีนี้ขยับสูงขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ให้มุมมองสถานการณ์ “ต้นทุน” ปีนี้ว่าปรับตัวสูงขึ้นรุนแรงกว่าครั้งวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่เป็นจุดเริ่มต้นการจัดงาน “สหกรุ๊ปแฟร์”

สถานการณ์โควิด 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ราคาวัตถุดิบขยับขึ้นมากเท่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเกิดขึ้นมากว่า 3 เดือนแล้วและยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่  ซึ่งส่งผลให้วัตถุดิบหลายชนิดเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นราคาพลังงานน้ำมัน, น้ำมันปาล์ม, ข้าวสาลี  ที่กระทบอย่างมากกับต้นทุนสินค้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” 

ปัจจุบันประเทศอื่นๆ  ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ได้ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปแล้วจากผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบ ขณะที่ “มาม่า” สินค้าหลักแบบซองขนาด 60 กรัม ขายราคา 6 บาท มาตั้งแต่ปี 2551 หรือ 14 ปี โดยไม่ขึ้นราคา

สินค้าของเครือสหพัฒน์ ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมีหลายกลุ่ม ไม่ใช่แค่ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” เท่านั้น ต้นทุน “ผงซักฟอก” ก็ขยับขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้ต้องยื่นกระทรวงพาณิชย์ขอปรับขึ้น เพราะเป็นสินค้าควบคุมราคา

MAMA

“มาม่า” ขึ้นราคาแน่

“เครือสหพัฒน์ กำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์ขอขึ้นราคาสินค้า เพราะเมื่อต้นทุนวัตถุดิบขยับขึ้น ราคาสินค้าก็ต้องขึ้นตาม หากไม่ขึ้นเราก็อยู่ไม่ได้ และแบกภาระต้นทุนไม่ไหว การปรับราคา “มาม่า” จะขึ้นได้เท่าไหร่กำลังคุยกันอยู่ แต่ต้องขึ้นแน่ เพราะวันนี้ราคาวัตถุดิบยังขยับขึ้นต่อเนื่อง”

หากรัฐควบคุมราคาสินค้านาน และผู้ผลิตไม่สามารถซื้อวัตถุดิบราคาสูงได้ สินค้าอาจขาดตลาดได้เช่นกัน

วิกฤติต้นทุนครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เครือสหพัฒน์ จึงต้องขอขึ้นราคาสินค้าบางประเภท จะไม่ขึ้นราคาเลยคงเป็นไปไม่ได้ ปัจจุบันราคาวัตถุดิบสินค้าหลายประเภทขยับขึ้นไปหมดแล้ว

รูปแบบการขึ้นราคาสินค้าจะทำเป็นขั้นตอนและมีหลายวิธี เช่น  ขึ้นราคาบางรายการ, ลดปริมาณสินค้า, ขึ้นราคาสินค้าใหม่  โดยจะดูตามความเหมาะสมของสินค้าแต่ละประเภทและสถานการณ์ แต่เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องเตรียมตัว เตรียมใจกับการปรับขึ้นราคาในอนาคต

ประเทศไทยฟื้นตัวจากโควิดเร็ว

–  สถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คุณบุณยสิทธิ์ มองว่าประเทศไทยน่าจะฟื้นตัวจากโควิดได้เร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ เห็นได้จากการฟื้นตัวของหลายธุรกิจหลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการ และตลาดส่งออกยังมีโอกาสเติบโตสูง

– หลังโควิดมองว่าธุรกิจกลุ่ม  Health Care & Wellness น่าจะเติบโตได้ดี เพราะผู้บริโภคดูแลสุขภาพมากขึ้น เครือสหพัฒน์ หลายบริษัทมีการพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มนี้ออกมาทำตลาดเพิ่มขึ้น

– ทิศทางเครือสหพัฒน์ปี 2565 เติบโตดีกว่า 2 ปีโควิด (ปี 2563-2564) แต่ก็ยังไม่กลับมาฟื้นตัวหรือมีรายได้เหมือนก่อนโควิด หวังว่าหากโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครนจบเร็ว ประเทศไทยก็จะฟื้นตัวได้เร็วภายใน 1-2 ปีจากนี้ ก็จะกลับไปเติบโตได้เหมือนก่อนโควิด

02_SahagroupFair 26

จัดสหกรุ๊ปแฟร์ วันที่ 30 มิ.ย.- 3 ก.ค.นี้

หลังจากไม่ได้จัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ แบบ On Site มา 2 ปีจากสถานการณ์โควิด ปีนี้เครือสหพัฒน์ กลับมาจัดงานอีกครั้งทั้งรูปแบบ On Site และออนไลน์

คุณธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่าการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26 แบบ On Site จะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 20,900 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00–22.00 น.

โดย ฮอลล์ 100 เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้านวัตกรรม ส่วน ฮอลล์ 98-99 จะมีสินค้าแบรนด์ดังราคาพิเศษมาให้เลือกซื้อกว่า 1,000 คูหา กว่า 100 บริษัท ประกอบด้วยอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องกีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ชุดชั้นในวาโก้ เครื่องแต่งกายจากกีลาโรชและลาคอสต์ เครื่องสำอางบีเอสซี หน้ากากอนามัยเวลแคร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเปา ซื่อสัตย์ ซิสเท็มมา โชกุบุสซึ โคโดโมะ

นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ Metaverse จากบริษัทในเครือสหพัฒน์ และพบกับโซนสินค้าญี่ปุ่นที่ยกทัพแบรนด์ดังอย่าง ไดโซะ ดองกิ ลอว์สัน วาเซดะ และบุงกะ มาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โซนสินค้าเพื่อสุขภาพจากกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness ที่มานำเสนอสินค้าในคอนเซ็ปต์ สุขภาพดี 24 ชั่วโมง รวมทั้งสินค้าภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) และการจำหน่ายสินค้าแบบ B2B โดยมี KERRY EXPRESS ผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย มาให้บริการส่งของสำหรับผู้ซื้อสินค้าในงานพร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50% และยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของงานสหกรุ๊ปแฟร์อีกมากมาย อาทิ แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต การประกวด การสัมมนา การเซ็นสัญญาร่วมทุน การรับสมัครงาน เป็นต้น

SahagroupFair 26

ในส่วนของงาน Online ได้เปิดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดังอย่าง LAZADA, SHOPEE, JD CENTRAL รวมถึงแพลตฟอร์มของเครือสหพัฒน์ทั้ง SAHAGROUPONLINE, SHOP CHANNEL, IDF ONLINE, ICC SHOPPING, SAHAPAT DELIVERY และ LION SHOP ONLINE นอกจากนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ภายในเครือสหพัฒน์ ที่มีช่องทางการขายออนไลน์ของตัวเองก็พร้อมใจกันเปิดให้ช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษด้วย โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อทั้ง แฟชั่น ชุดชั้นใน ความงาม ของใช้แม่และเด็ก ของใช้ในครัวเรือน อาหารและเครื่องดื่ม บริการ/สื่อการเรียนรู้ สุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา พร้อมโปรโมชัน 30 วัน 30 โปร และแจกทองสำหรับผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายชื่อแบรนด์ที่เปิดให้ช้อปออนไลน์และโปรโมชันได้ที่ www.sahagroupfair.com และในเว็บนี้ยังมีกิจกรรมตลอดงาน อาทิ การไลฟ์สด และ Flash Sale

“ตอนนี้ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นมาก สินค้าหลายรายการปรับราคาขึ้นไปแล้ว และยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่เตรียมขึ้นราคา เครือสหพัฒน์จึงจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ เพื่อปลดล็อกค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยนำสินค้าของกินของใช้มาให้ช้อปสวนกระแสในราคาเบาๆ พร้อมโปรโมชันที่พิเศษกว่าทุกปี”


แชร์ :

You may also like