สำนักข่าวรอยเตอร์เผยกลุ่มเทเลนอร์ (Telenor Group) อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มซีพี (CP Group) ในการควบกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย โดยหากดีลนี้ประสบความสำเร็จ จะเท่ากับการควบกิจการระหว่างดีแทคกับทรู คอร์ปเปอเรชันเข้าด้วยกัน และทำให้เกิดบริษัทใหม่ที่มีส่วนแบ่งตลาด 52% แซงหน้าผู้นำตลาดปัจจุบันอย่าง AIS ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 44% ได้สำเร็จ (อ้างอิงจาก Danske Bank)
สำนักข่าวต่างประเทศยังมีการวิเคราะห์กันด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้กลุ่มเทเลนอร์พิจารณาทางเลือกอย่างการควบกิจการนั้น เป็นเพราะธุรกิจโทรคมนาคมในปัจจุบันได้รับแรงกดดันให้มีการลงทุนในเทคโนโลยี 5G มากขึ้น ขณะที่การทำกำไรของธุรกิจไม่อาจพุ่งแรงได้เหมือนในอดีต
การถอนตัวออกจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มเทเลนอร์มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็มีการประกาศขายธุรกิจในเมียนมาร์ 100% มูลค่า 105 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับกลุ่ม M1
สำหรับมูลค่ากิจการของดีแทค ณ ปัจจุบัน ตามข้อมูลของ Refinitiv Eikon พบว่าอยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ทรู คอร์ปเปอเรชั่นมีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านตลาดหุ้นไทยวันนี้พบว่าหุ้นของดีแทคมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทำสูงสุดที่ 42.25 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 41.25 บาท
ทั้งนี้ หากย้อนไปดูผลประกอบการดีแทค ไตรมาส 3 พบว่า ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 26,000 รายจากไตรมาสก่อน ส่วนรายได้ค่าบริการไม่รวม IC ลดลง 2.1% จากไตรมาสก่อน โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 832 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในดีลดังกล่าวนั้น ล่าสุดทั้งสองบริษัทจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (22 พ.ย. 2021) เวลา 14.30 น.