ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอีกหมวดสินค้าที่มีการแข่งขันรุนแรง แบรนด์มากมายขับเคี่ยวกันเพื่อครองใจลูกค้า หากจะเอ่ยถึงแบรนด์ที่ “บุกเบิก” ทำตลาดในไทยเป็นรายแรกๆ “โตชิบา” (Toshiba) ต้องอยู่ในใจ (Top of Mind) เพราะอยู่ในประเทศไทยยาวนานกว่า 52 ปีแล้ว มีสินค้าหลายกลุ่ม เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องครัว ฯ ตอบสนองความต้องการ อำนวยความสะดวก ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
“โตชิบา…นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” เป็นสโลแกนติดหู อยู่คู่คนไทยมานาน แต่โลกของการทำตลาด เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และบริบทแวดล้อมต่างๆ แบรนด์จะต้องไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเอง และ “ปรับตัว” ให้สอดคล้องกับความต้องการเชิงลึก(Insight) ของผู้บริโภค ปี 2564 “โตชิบา” จึงตอกย้ำนิยามใหม่หรือ Tag line “เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด” สร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง จากออกสตาร์ทตั้งแต่ปี 2562 และถือเป็นแคมเปญระดับโลก (Global Campaign)
กลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์ให้ความสำคัญกับการ “เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด” เพราะหากมองเทรนด์ผู้บริโภค ปัจจุบันไลฟ์สไตล์และวิธีคิดของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ วัยมิลเลเนียล (Millennial) หรือเจนเนอเรชั่น Y อายุ 22-37 ปี มีความสลับซับซ้อน มีความต้องการเฉพาะตัว หากเจาะลึกจะพบ 4 เทรนด์ ได้แก่
– Eco Shame ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงพร้อมเป็นส่วนหนึ่่งรักษ์โลก ซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
– Metamorphic สินค้าดีตอบความต้องการได้ บริการหลังการขายต้องสมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย
– The Burnout ผู้บริโภคต้องการความง่าย สะดวกสบาย ทำให้ “โตชิบา” เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์สู่ระบบดิจิทัลทั้งหมด เช่น ตู้เย็นใช้ Digital Control
– Civil Media ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคแยกย่อย (Segmentation) มากขึ้น การสื่อสารตลาดจึงต้องหลากหลาย ตอบทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้
นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ดังกล่าว ยังมีอิทธิพลในการขับเคลื่อนโลก เปลี่ยนกระแสสังคม และมีอำนาจซื้อในอนาคต การมองหาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องมีเทคโนโลยีทันสมัย ใส่ใจฟังก์ชั่น รายละเอียดต่างๆมากขึ้น ดังนั้น การดีไซน์เพียงเล็กน้อยที่่คลิกโดนใจว่า “ใช่” ตอบสนองความต้องการได้แม่นยำ สะท้อนตัวตนหรือ Personalize แบรนด์จะเป็นตัวเลือกของลูกค้าได้อย่างดี จึงเป็นเหตุผลให้โตชิบา เพิ่มนิยามใหม่ในการทำตลาดคือ “Details Matter” ยิ่งกว่านั้นถือเป็นการตอกย้ำ DNA ความเป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น ที่สะท้อนคุณภาพเทคโนโลยี เอกลักษณ์ ดีไซน์ผลิตภัณฑ์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ล้วนใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮไลท์ในครึ่งปีหลังที่ “โตชิบา” จะผลักดันทำตลาด คือ “ตู้เย็น” ในฐานะแบรนด์ “อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคไว้วางใจถึง 12 ปีซ้อน” ซึ่งปีนี้โตชิบา ส่งตู้เย็น 2 รุ่นมาเอาใจคนรุ่นใหม่ ดังนี้
ตู้เย็นโตชิบาประตูเปิดซ้ายขวา หรือ Toshiba Side by Side รุ่น GR-RS682WE-PMT ที่ #DetailsMatter “ใส่ใจทุกคนในครอบครัว” ด้วยคอนเซ็ปต์ Luxury Matters มีจุดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างความเรียบหรูแบบยุโรปและรายละเอียดที่ลึกซึ้งแบบญี่ปุ่น เห็นได้จากการใส่ใจแม้ในรายละเอียดเล็กน้อยอย่าง Texture มือจับ เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ พัฒนาบานประตู 10 ชั้น ประกอบด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันจึงป้องกันรอยขีดข่วนและป้องกันรอยนิ้วมือ ยังคงเลือกใช้สี Morandi Grey สียอดนิยมในกลุ่มสินค้า Luxury เพิ่มความหรูหรา ร่วมสมัยให้กับบ้านทุกสไตล์
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ฟังก์ชั่นครบครันทั้งการประหยัดไฟด้วย Origin Inverter, Quick Cooling Air ระบส่งลมเย็นด้านบนล่าง แผงควบคุมดิจิทัลแบบสัมผัส ช่องกดน้ำดื่มด้านหน้าเครื่อง เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น สามารถดื่มน้ำเย็นได้ทุกเวลา
ไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีฟังก์ชั่นเร่งทำความเย็น และฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน เพราะใช้พลังงานน้อยเพียง 20% อีกทั้งลดเสียงรบกวน แต่ประสิทธิภาพการทำงานยาวนาน ติดตั้งด้วยกระจกนิรภัยทำให้ชั้นวางแข็งแรง และปลอดภัยกว่าตู้เย็นทั่วไป อีกทั้งรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม (กก.) ทำให้เก็บของได้มากขึ้น เป็นต้น ทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคทุกรายละเอียดจริงๆ
อีกสินค้าไฮไลท์คือตู้เย็นโตชิบา 2 ประตู รุ่นใหม่ RT-series ที่ควงกันมาเปิดตัวพร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ GR-RT624 16.8คิว, GR-RT559 14.5คิว, GR-RT468 11.9คิว และ GR-RT416 11คิว จุดเด่นของ RT- series ตอกย้ำ #DetailsMatter ในมิติ “Fresh Matters เพราะเราใส่ใจความสดใหม่”
ทั้งนี้ จุดแข็ง ที่สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นด้วยระบบ Airfall Cooling ที่ปล่อยลมเย็นด้านหน้าของตู้เย็น ช่วยให้อาหารถึงจุดอุณหภูมิที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้ของที่อยู่ตรงชั้นวางประตูเย็นทั่วถึง ระบบ Auto Adjust Cooling ปรับความเย็นให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่แช่ เทคโนโลยี Origin Inverter ที่ช่วยปรับสมดุลให้กับอุณหภูมิซึ่งจะช่วยคงความสดของอาหารได้นานขึ้น สามารถแช่อาหารแบบกึ่งแช่แข็ง ที่อุณหภูมิต่ำที่ -3°C โดยใช้พลังงานน้อยลง 20% พร้อมช่องแช่เย็นแบบถาดเลื่อนมีฝาปิด
นอกจากนี้ ยังถือเป็นแบรนด์เดียวในตลาดตอนนี้ที่มีระบบทำความเย็นแยกอิสระมากถึง 3 ตัวในเครื่องเดียว ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าความเย็นกระจายทั่วถึง ทั้งระบบควบคุมความชื้นช่องแช่ผักแยกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบกำจัดกลิ่น Pure BIO ทำจากเซรามิกรวงผึ้งชุบด้วยสาร Ag+ ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย
ทั้งหมดเป็นกลยุทธ์การตลาดที่หลอมรวมทุก “จุดแข็ง” ของแบรนด์ ตั้งแต่ DNA ญี่ปุ่น ทั้งคุณภาพ เทคโนโลยี ดีไซน์ เอกลักษณ์สินค้า ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งาน ตอกย้ำภาพ “โตชิบา…นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” และมี “ความใส่ใจทุกรายละเอียด” จริงๆ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3fjZsTl