HomeBrand Move !!Tesla ทำกำไร Q2 ทุบสถิติ 1.14 พันล้านเหรียญ ได้เปรียบคู่แข่ง เพราะใช้ ชิปจาก Powerwall มาผลิตรถ

Tesla ทำกำไร Q2 ทุบสถิติ 1.14 พันล้านเหรียญ ได้เปรียบคู่แข่ง เพราะใช้ ชิปจาก Powerwall มาผลิตรถ

แชร์ :

shutterstock_tesla logo

ไม่เพียงแต่เป็นไตรมาสที่เทสล่า (Tesla) มีผลประกอบการทุบสถิติ โดยสามารถทำ “กำไร” ครั้งประวัติศาสตร์ได้มากถึง 1.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ในไตรมาส 2 ของปี 2021 นี้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ยังได้เผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ Tesla สามารถส่งมอบรถได้มากกว่า 2 แสนคัน ทั้ง ๆ ที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนชิปครั้งใหญ่ด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาแล้วสำหรับ Tesla โดยบริษัททำรายได้จากธุรกิจยานยนต์ไปทั้งสิ้น 10,206 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 97% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2020 ที่ทำไว้ 5,179 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถส่งมอบรถยนต์ได้มากกว่า 201,250 คัน จากรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมด 206,421 คัน (นับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน) ทั้ง ๆ ที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกเผชิญหน้าสถานการณ์ขาดแคลนชิปเซ็ทอย่างหนักหน่วง

ส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานก็เติบโตขึ้นเช่นกัน โดยไตรมาสนี้ Tesla ขายโซลาร์เซลล์ และระบบจัดเก็บพลังงานสำหรับติดตั้งในบ้าน-บริษัทไปได้ถึง 801 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เพียงแต่ไม่มีรายงานว่าบริษัทขายไปได้จำนวนกี่ชิ้น

อีกส่วนที่เพิ่มขึ้นคือรายได้จากบริการ (Services) ที่ทำไปได้ถึง 951 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2020 โดยปัจจุบัน Tesla มีศูนย์บริการ 598 แห่ง

อย่างไรก็ดี ในไตรมาสนี้ บริษัทได้ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในหมวด “Restructuring and other” ที่มาจากการด้อยค่าสินทรัพย์ประเภทบิทคอยน์มูลค่า 23 ล้านเหรียญสหรัฐรวมอยู่ด้วย

โยกชิปจาก Powerwall ไปใช้ผลิตรถยนต์

อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla ยังได้ตอบคำถามเรื่องที่ว่าทำไม Tesla ไม่ผลิตชิปเซ็ทเป็นของตัวเอง เพื่อจะได้รอดพ้นจากสถานการณ์การขาดแคลนนี้ ซึ่งอีลอน มัสก์ตอบว่ามันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพียงแต่สิ่งที่ Tesla ทำก็คือ การลดกำลังการผลิต Powerwall และระบบแบตเตอรี่ Megapack ลง และนำเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้กับสองอุปกรณ์นั้นมาใช้กับการผลิตรถยนต์แทน (ในการผลิตรถยนต์และการผลิตอุปกรณ์กักเก็บพลังงานของ Tesla มีการใช้เซมิคอนดักเตอร์และเซลล์แบตเตอรี่แบบเดียวกันหลายตัว บริษัทจึงสามารถทำแบบนี้ได้)

แต่การทำเช่นนี้ก็ส่งผลให้ Tesla ไม่มีสินค้าในกลุ่ม Megapack ขายไปจนถึงปลายปี 2022 เลยทีเดียว (สินค้าขึ้นป้าย Sold out)

อย่างไรก็ดี หากมีเซมิคอนดักเตอร์มาเพิ่ม อีลอน มัสก์ก็ยอมรับว่า จะให้ความสำคัญไปกับการผลิตรถยนต์ก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อมีชิ้นส่วนเหลือมากพอ จึงจะพิจารณาถึงการผลิต Powerwall และ Megapack เพิ่มเติม

ผลประกอบการไตรมาสนี้พบด้วยว่า Tesla ทำรายได้ไปถึง 11,960 ล้านเหรียญสหรัฐ และถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทมีกำไรทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐด้วย ส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% เลยทีเดียว

Source

Source


แชร์ :

You may also like