HomeBrand Move !!สยามพิวรรธน์ ระดมกูรูฟันธง 5 เทรนด์ “ดิจิทัลแห่งอนาคต” เขย่าโลกค้าปลีก

สยามพิวรรธน์ ระดมกูรูฟันธง 5 เทรนด์ “ดิจิทัลแห่งอนาคต” เขย่าโลกค้าปลีก

แชร์ :

นับถอยหลังหลายปีที่ผ่านมา โลกเกิดพลวัตครั้งสำคัญ เมื่อ “ดิจิทัล ดิสรัปชั่น” กลายเป็นพายุใหญ่ถาโถมธุรกิจให้ซวนเซ องค์กรเล็กใหญ่ตบเท้า “ทรานส์ฟอร์มองค์กร” เปลี่ยนผ่าน กระบวนการคิด ทำงาน ปรับโมดลธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทโลกใหม่ ที่มีพลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดตลอดเวลา “เร็ว” และ “แรง” ไม่มีทีท่าจะเบาบางลง ปี 2563 โลกเจอ “โจทย์ใหญ่” ยิ่งกว่า เมื่อต้องรับมือกับมหาวิกฤติสำคัญ จากการแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” หลายองค์กรอยู่ในภาวะยากลำบากเป็นประวัติการณ์ ต้องหาทางประคองธุรกิจให้ “อยู่รอด” และก้าวข้ามห้วงเวลาแห่งความ “กลัว” หรือ Fear Factor จากไวรัสมฤตยู แต่จะกี่ปัจจัยเสี่ยงรายล้อม ผู้ประกอบการสามารถ “สร้างภูมิคุ้มกัน” ให้ธุรกิจแข็งแรง พร้อมรับแรงปะทะใหม่ๆอย่างแกร่งกล้า นำพาธุรกิจให้รอดพ้นทุกสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะการ “เข้าใจแนวโน้ม” หรือ Trend ต่างๆ อยู่เสมอ

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตกกระแสในยุคดิจิทัลที่มาพร้อมโรคโควิด-19  การปรับตัวก้าวทันการเปลี่ยนแปลงรับวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) หรือ สิ่งใหม่ที่จะเกิดเป็นปกติในห้วงเวลาถัดไป (Next Normal) แม้กระทั่งสิ่งปกติเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว (Now Normal)ฯ  เป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ “สยามพิวรรธน์” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกของเมืองไทย ระดมกูรูจากแวดวงธุรกิจการตลาดหลายเซ็กเตอร์ มากะเทาะเจาะลึกเทรนด์สำคัญบนโลกดิจิทัล ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีก ผ่านงาน “Siam Piwat Knowledge Forum”

คุณเมธิศร์ มุกดาสิริ คุณสีตลา ชาญวิเศษ และ คุณเลอทัด ศุภดิลก

สำหรับสิ่งที่กูรูองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เช่น แมคคินซีย์แอนด์โค บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เอไอเอส วีซ่า ธนาคารกสิกร ธนาคารไทยพาณิชย์ เฟซบุ๊ก ประเทศไทย ไลน์ ประเทศไทย และเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ได้ร่วมแชร์ข้อมูล ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงาน ตลอดจนกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจที่จะเชื่อมโลกแห่งการค้าในทุกมิติ ให้ทุกคนสามารถก้าวสู่ความสำเร็จบนเวทีค้าปลีกในอนาคตร่วมกัน สยามพิวรรธน์ ได้ตกผลึก 5 เทรนด์ใหญ่ ดังนี้

1. “5G” เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของ “เทคโนโลยี 5G” จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยประสิทธิภาพของคลื่นความถี่ที่เหนือกว่า ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างไร้ขีดจำกัด (IoT – Internet of things) เกิดเป็นนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ มาก มาย เช่น กล้อง VR ที่จะสร้างประสบการณ์ความบันเทิงที่แปลกใหม่ให้ผู้คนได้สัมผัสบนโลกเสมือนจริง หรือ การพัฒนาของอุปกรณ์ตรวจจับ และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น Smart Store Analytics จากกล้องวีดีโอที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าภายในร้าน หรือ Smart Coolers/ Shelves ชั้นวางขายสินค้าอัจฉริยะที่ไม่ต้องมีพนักงาน ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะเชื่อมโยงการทำงานของทุกสิ่งอย่างไร้ขอบเขต สร้างความสะดวกสบาย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ผู้ประกอบการมีข้อมูลมากพอที่จะนำมาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการตอบโจทย์ตรงใจผู้คน

ทั้งนี้ หากองค์กรธุรกิจต้องการก้าวให้ทันเกมการค้าในยุคดิจิทัล ผู้ประกอบการจึงควรเริ่มวางรากฐานของธุรกิจให้ตอบรับเทคโนโลยี 5G และเตรียมความพร้อมในการนำข้อมูล (Data) มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. “ข้อมูล”(Data) ในยุคดิจิทัล การมี “ข้อมูล” เป็นเรื่องที่ทรงพลังมาก สร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจอย่างดี จนมีคำกล่าวเปรียบเปรย ข้อมูลมีค่ายิ่งกว่าน้ำมัน หรือ Data Is The New Oil ยิ่งกว่านั้นคือ การมี “ข้อมูลผู้บริโภค” เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้แบรนด์สินค้าและบริการ นักการตลาด สามารถรู้จัก และเข้าใจพฤติกรรมที่แตกต่าง และความต้องการของผู้บริโภคในเชิงลึกมากขึ้น

ข้อมูลที่ถูกต้อง ผ่านการคัดกรอง จะช่วยทำให้ธุรกิจเดินกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ เพราะช่วยนำมาสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และสร้างโปรแกรมทางการตลาดที่แตกต่าง ตรงใจ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การจะนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ทางการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจะต้องคำนึงถึง 4 ปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) Personalization ออกแบบกิจกรรมทางการตลาดเฉพาะให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละบุคคล 2) Automatic นำระบบอัตโนมัติมาใช้สื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้สามารถตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุด 3) Prediction นำข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าล่วงหน้า และ 4) Precision สร้างฐานข้อมูลให้ถูกต้องเพื่อที่จะสามารถนำมาใช้วิเคราะห์และสื่อสารกับลูกค้าได้ตรงจุด

3. “Digital Payment” เลิกพกเงินสด แค่กดๆ ก็จ่ายได้ ไลฟ์สไตล์ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้ช่องทางดิจิทัล (Digital Solution) ต่างๆ ถูกนำมาใช้เร็วขึ้น รวมถึงช่องทางการชำระเงินแบบดิจิทัล (Digital Payment) ที่ผู้คนเปลี่ยนมาใช้กันอย่างกว้างขวาง การใช้ชีวิตแบบสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society จึงเห็นภาพชัดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีคนใช้ Mobile Banking สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้น การพัฒนา “ช่องทางการชำระเงิน” ให้สะดวกกับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่าน Mobile Banking การแสกน QR Code หรือ การเชื่อมโยงการใช้จ่ายเงินบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้ เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถ ตัดสินใจซื้อของได้ง่ายยิ่งขึ้น

4. “Omni-Channel” หมดยุคการแบ่งแยกโลกช้อปปิ้งออฟไลน์ ออนไลน์แล้ว เพราะยุคดิจิทัลธุรกิจต้องเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อให้เข้าไปอยู่ในชีวิตผู้บริโภคหรือออนไลฟ์ (On Life)

ปัจจุบันธุรกิจบนโลกออนไลน์เติบโตเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง แต่ผู้บริโภคยังคงมองหาประสบการณ์ และความน่าเชื่อถือของตราสินค้าจากการได้เห็นและได้สัมผัสเช่นเดิม ดังนั้น การปรับธุรกิจให้เข้ากับโลกออนไลน์ จึงไม่ใช่การปิดหน้าร้านบนโลกออฟไลน์ แต่จะต้องเชื่อมโยงประสบการณ์ เพิ่มช่องทางการสื่อสาร และการขายให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนี่เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะคิดค้นวิธีการสื่อสาร และการทำการตลาดใหม่ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สดขายของจากหน้าร้านเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทุกที่ทุกเวลา (Engagement) รวมไปถึงการปรับแพคเกจจิ้งขนส่ง ให้มีลูกเล่นก็จะช่วยเพิ่มให้มีความน่าสนใจมากขึ้น

5. “Branding” สร้างคุณค่าของแบรนด์ ไม่ว่าโลกธุรกิจ พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างไร การสร้างคุณค่าของแบรนด์ การสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภคจำเป็นเสมอ ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ผ่านมาอาจทำให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ให้ความสำคัญกับสินค้าปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต เพิ่มความมั่นคง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด จึงเห็นการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง การเก็บออมเงินมากขึ้น ตัวแปรดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึง “คุณค่า” ของสินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคห้วงเวลานี้ จึงต้องเป็นของดีมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องสร้างคุณค่าของแบรนด์สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แบรนด์ไม่ควรละทิ้ง คือการหมั่นศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อเพิ่มหาโอกาสทางการค้าใหม่ๆ การหลีกเลี่ยงการทำสงครามราคาและหันมาสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับผู้บริโภคมีความสำคัญยิ่งขึ้น

สำหรับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้หลายคนต้องเผชิญกับความยากลำบากและต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตครั้งใหญ่ แต่ในวิกฤตก็กลายเป็นโอกาสสำหรับคนที่รู้จักพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ในวันนี้ที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ หากทุกคนเตรียมพร้อมปรับธุรกิจให้ตอบรับเทรนด์ดิจิทัลแห่งอนาคต ย่อมทำให้ทุกคนมีโอกาสประสบความสำเร็จบนเวทีค้าปลีกได้อย่างแน่นอน

คุณชฎาทิพ จูตระกูล และ Speakers SPW Knowledge Forum

 


แชร์ :

You may also like