Circular of Lux
ครั้งแรก “สยามพิวรรธน์” รุกตลาดสินค้าหรูมือสองเปิดร้าน Circular of Lux ร้านแบรนด์เนมมือสองน้องใหม่ สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าแบรนด์เนมในศูนย์การค้า Paragon-ICONSIAM เพื่อเชื่อม Ecosystem ของการช้อปปิ้งอย่างครบวงจร
จากจุดเริ่มต้นของเป้าหมายที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในธุกิจค้าปลีก ในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็น Zero Waste โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์การค้าแรกในประเทศไทยที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในปี 2030 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ทำให้ทางค่ายเริ่มมองหาธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
ทั้งนี้เพื่อทำธุรกิจค้าปลีก ที่หัวใจหลักคือการช้อปปิ้ง แฟชัน และประสบการณ์ที่ดี “สยามพิวรรธน์” ได้ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าในกลุ่มที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าแบรนด์เนม พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อซื้อสินค้าไปแล้ว 4-5 ปี มักจะปล่อยสินค้าอออกไปหากไม่ได้ใช้
เมื่อนำมาผสานกับแนวคิด สินค้า 1 ชิ้น สามารถมีชีวิตได้มากกว่า 1 ครั้ง ทำให้ “สยามพิวรรธน์” มองว่า เพื่อเป็นการส่งต่อสินค้าที่มีคุณค่าและได้รับการดูแลด้วยความรัก และมอบต่อให้กับผู้ดูแลท่านต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงได้เปิดบริการร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ภายใต้ชื่อร้าน “Circular of Lux” บนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร กับสินค้าแบรนด์เนมกว่า 300 รายการ ณ ชั้น M สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 ก.พ.67 เป็นต้นไป
คุณอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า“หลังจากการ Revamp ศูนย์การค้าของเราตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังระดับกลางที่มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป และกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ได้มากขึ้นราว 40-50% ซึ่งแน่นอนว่าเรายังมองโอกาสในการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น จึงเลือกเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา และยังเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าของศูนย์การค้าในเครือฯ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในตลาดบน ไปยังลูกค้าในกลุ่ม Gen Z หรือวัย 30 ปีมากขึ้น เนื่องจากมองว่าลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็ว หากชื่นชอบ นั่นทำให้สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสในตลาดลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
นอกจากจะเป็นการขยายฐานคนรุ่นใหม่แล้ว ยังเป็นการให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ศูนย์อยากส่งต่อสินค้าให้คนอื่น เป็นช่องทางการปล่อยของให้ลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการเจาะช่องว่างของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าระดับบนเสมอไป แต่สามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ได้
เปิด 6 เงื่อนไข ถ้าอยากฝากขายแบรนด์เนมหรู ต้องมีอะไรบ้าง
ด้วยเป้าหมายของสยามพิวรรธน์ที่ต้องการสร้าง Ecosystem ของ Retail ให้ครบทั้งระบบ ไปพร้อมกับการนำศักยภาพและประสบการณ์ความเป็นผู้นำในตลาดลักชัวรี่มาพัฒนาธุรกิจรีเทลที่ครบวงจร และเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับคนจำนวนมาก การเปิด “Circular of Lux” จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของแพลตฟอร์มการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน เติมเต็มการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่
ภายใต้วิสัยทัศน์ Thailand’s Leading Luxury Circulator หรือการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและส่งต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในธุรกิจค้าปลีก โดยเป้าหมายของ “Circular of Lux” คือการเป็นศูนย์กลางการให้บริการส่งต่อและแลกเปลี่ยนสินค้าลักชัวรี่แบรนด์ชั้นนำให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากสยามพารากอน หรือไอคอนสยาม ซึ่งนอกจากความสะดวกสบายในการซื้อขายแล้ว ภายในร้านยังมีระบบการจัดเก็บสินค้าที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าร้านค้าชั้นนำระดับโลก พร้อมระบบรักษาอุณหภูมิตลอด 24 ชั่วโมง
โดยลูกค้าที่อยากฝากขายสินค้าแบรนด์เนมหรูใน Circular of Lux มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- จะต้องเป็นแบรนด์เนมที่ซื้อมาจาก Paragon-ICONSIAM เท่านั้น
- กลุ่มสินค้าที่รับฝากขาย ปัจจุบันประกอบไปด้วย กระเป๋า แฟชันเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ รองเท้า รวมถึงสินค้าคอลเลคชันพิเศษ สินค้าลิมิเต็ดเอดิชัน
- สินค้าทั้งหมดจะผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และได้รับประกาศนียบัตร พร้อมทั้งเทคโนโลยีในระบบ AI ที่ตรวจสอบได้อย่างละเอียดแม่นยำ
- การฝากขายลูกค้าจะต้องมีใบเสร็จ หลักฐานในการซื้อจากสาขา Paragon-ICONSIAM
- ระยะเวลาการฝากขายอยู่ที่ 1 เดือน หากสินค้ายังไม่มีการซื้อจากลูกค้าจะต้องส่งกลับคืนเจ้าของ
- ในกรณีที่ลูกค้าที่สนใจซื้อสินค้า หากอยากต่อราคา ทางร้านจะโทรหาผู้ฝากขายโดยตรง เพื่อให้ราคาที่พอใจที่สุด
- ช่องทางการฝากขาย และซื้อสามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์
อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ระดับกลางยังคงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่สยามพิวรรธน์ยังคงเดินนหน้าพัฒนากลยุทธ์รูปแบบต่างๆออกมารองรับ โดยในอนาคตมีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าแบรนด์เนมมือสองไปยังกลุ่มเฟอร์นิเจอร์หรู และอาจจะมีแนวโน้มขยายสาขาเพิ่มในอนาคต โดยวางเป้าหมายรายได้ 100 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE