HomeBrand Move !!เปิดสูตรปั้น “คน” ฉบับ SC ASSET ตอบโจทย์ Living Solutions Provider อย่างแท้จริง

เปิดสูตรปั้น “คน” ฉบับ SC ASSET ตอบโจทย์ Living Solutions Provider อย่างแท้จริง

แชร์ :

 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในฐานะหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย SC ASSET มุ่งปั้นบุคลากรที่มีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรับมือ Business Transformation

คุณศิริกุล เกรียงไกร รองหัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกเล่าถึงที่มาที่ไปว่า “จากการที่เราปรับบทบาทตัวเองจากดีเวลลอปเปอร์มาเป็น Living Solutions Provider และพัฒนาบ้านในทุกระดับราคา ทำให้แบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย จากเดิมที่เป็นแบรนด์ระดับหรู เน้นจับกลุ่มเป้าหมายลักชัวรี่ ก็ปรับเป็นเจาะตลาดทุกระดับราคา สื่อสารถึงความสดใหม่เสมอเพื่อให้เข้ากับทุกกลุ่มเป้าหมาย”

โดยคุณศิริกุลให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดดิสรัปชั่น (Disruption) ในหลายอุตสาหกรรม SC ASSET จึงเล็งเห็นความสำคัญและเร่งปรับตัวด้วยแนวทางดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและผู้อยู่อาศัย พร้อมมีการปรับองค์กรในหลายส่วน ภายใต้ 4 แกนหลัก ดังต่อไปนี้

1. โครงสร้างองค์กร ปรับให้ตอบโจทย์การดูแลลูกค้า มีหน่วยงาน Living Solutions ทีมงานคนรุ่นใหม่ และยกระดับความเข้มข้นการดูแลลูกค้าจากเดิม ด้วยแพลตฟอร์ม ‘RueJai Club’ (รู้ใจคลับ) ช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิต ตอบโจทย์ปรัชญา For Good Mornings อยู่บ้าน SC ASSET ต้อง Worry-free Home

อีกอย่างที่เราเน้นคือคุณภาพของบ้านมาตรฐานคุณภาพสูง ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาทำให้ช่วงโควิด-19 เราขายดี เพราะผู้บริโภคทราบดีว่า บ้านเราคุณภาพดี เราไม่ทิ้งลูกค้าและดูแลต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกของ Care, Sincere และ Fresh งานบริการหลังการขายของเราไม่แพ้ใคร เป็นอีกปัจจัยที่ลูกค้าเลือกซื้อเรา””

2. วัฒนธรรมองค์กร เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก เพราะต่อให้ปรับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยคนก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง โดยตั้งแต่ปลายปี 2018 ทางบริษัทฯ ได้ให้พนักงานทุกคนร่วมกันคิด ว่าวัฒนธรรมใหม่ที่จะนำไปสู่ Living Solutions Provider คืออะไร และจากข้อเสนอแนะของพนักงาน 800-900 คน สุดท้ายก็ได้ #SCskydive เป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่เกิดจาก 4 Core Values ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น DNA ของคน SC นั่นก็คือ Care ใส่ใจลูกค้า รู้ใจลูกค้า Courage กล้าคิด กล้าทำ นำเสนอสิ่งใหม่ Collaboration ทำงานร่วมต่างแผนก ต่างบริษัท มุ่งมั่นไปสู่จุดหมายร่วมกัน และ Continuous Improvement เรียนรู้สิ่งใหม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้น ต้องให้พนักงานเห็นภาพพฤติกรรมการทำงานในแบบ #SCskydive ที่ตรงกัน โดยสื่อสารผ่านภาพกีฬากระโดดร่มที่เล่นเป็นทีม ต้องดูแลช่วยเหลือ ร่วมมือกัน และการกระโดดลงไปข้างล่างต้องใช้ความกล้า เมื่อลงไปถึงพื้นแล้วยังทำได้ไม่ดีพอก็ต้องปรับปรุงใหม่ นี่คือ Character ของวัฒนธรรมองค์กร #SCskydive ที่ทุกคนในองค์กรต้องเข้าใจตรงกันจึงจะแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ออกมาได้ พร้อมกับสร้างบรรยากาศในองค์กรที่ทำให้พนักงาน “คิด พูด ทำ” ได้อย่างอิสระ

ช่วงเริ่มต้นจึงเปิดรับอาสาสมัครพนักงาน โดยตั้งชื่อพนักงานกลุ่มนี้ว่า “Robin” มาจากชื่อนกที่มีแผงอกสีส้มเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างโดดเด่นและมีชีวิตชีวา สอดคล้องกับสีส้มที่เป็นสีของแบรนด์และถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี”

“โดยปีนี้ เราได้แต่งตั้งทีมใหม่ เปรียบเหมือนการวิ่งผลัดที่มีคนมารับไม้ต่อเรียกว่า ‘People Champion” เป็นตัวแทนของพนักงานแต่ละหน่วยงาน มาทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นเหมือน HR Network ที่ฝังตัวอยู่ในแต่ละทีม แต่ละแผนก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราไม่มีปัญหาในการสื่อสาร เพราะสื่อสารได้รวดเร็วและตรงประเด็น”

นอกจากนี้ ซีอีโอ ของเรา (คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SC ASSET) ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารเป็นอย่างมาก โดยจัดให้มีการประชุมที่เรียกว่า All-hands meeting เป็นประจำทุกเดือน ส่งเสริมการ “คิด พูด ทำ” ภายใต้วัฒนธรรม #SCskydive และทุก ๆ ไตรมาสจะมี All-hands meeting ที่ Town Hall สำหรับพนักงานทุกคน เพื่อรับฟังวิสัยทัศน์และทิศทางธุรกิจจากซีอีโอ เปิดโอกาสให้พนักงานเสนอความคิดเห็น  พร้อมกับสามารถฟังคำตอบโดยตรงจากซีอีโอ จากคำถามที่โหวตโดยพนักงาน

“เราทำสำรวจความคิดเห็น เรียกว่า Voice of people อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับฟังเสียงของพนักงาน ในการนำมาปรับปรุงพัฒนา และให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร

และเราจัดให้ผู้บริหาร ผู้จัดการทุกคนเข้าห้อง Contact Center เพื่อรับฟังเสียงของลูกค้าว่าคอมเพลนท์อะไรบ้าง  เมื่อฟังแล้ว จะได้นำไปปรับปรุง แก้ไข ด้วยวิธีการนี้ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร เรื่อง Care ที่เราใส่ใจลูกค้า”

3. Learning and Development ต้องreskill หรือการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน รวมถึง upskill หรือการเสริมและพัฒนาทักษะของพนักงานจากงานเดิม เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงาน และส่วนใหญ่เป็นการนำเทคโนโลยีหรือดิจิทัลมาปรับใช้ให้เข้ากับการทำงานเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งทั้งสองอย่างต้องทำควบคู่กันไป สิ่งที่เน้นหนักมากก็คือ mindset เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะปรับยากมาก ถ้าไม่เปลี่ยน mindset

ส่วนรูปแบบการทำงาน จะเน้นการทำงานแบบ Agile Team ให้พนักงานตัดสินใจด้วยตนเอง มีอิสระทางความคิด กล้าทดลองทำในสิ่งใหม่ๆ ทำให้สามารถพัฒนาโครงการต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น เกิดความคล่องตัวในองค์กร ช่วยลดการทำงานที่เป็นแบบไซโล และสลับซับซ้อนได้ดีขึ้น

คุณศิริกุลอธิบายเพิ่มเติมว่า “โจทย์ที่ทาง HR อยากเห็นคือ passion ในการทำงาน อยากให้พนักงานทุกคน มีจุดมุ่งหมาย อยากมาทำงาน รักและภูมิใจในงานที่ทำ ซึ่งก็น่ายินดีที่พนักงานส่วนใหญ่บอกว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขและเช้าที่ดีให้กับลูกค้า”

จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา จึงไม่แปลกใจว่าอัตราการลาออกของพนักงาน SC ASSET จะมีอัตราที่น้อยกว่าอัตราเฉลี่ยของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ คุณศิริกุลบอกว่า ทุกๆ บริษัทก็มีการลาออกเป็นเรื่องปกติ สำคัญที่ว่าทำอย่างไรไม่ให้คนเก่งลาออก ซึ่งเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงดูแลพนักงาน ควบคู่กับการบริหารผลงาน และการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง

4. Technology ใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ Future of work ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มให้พนักงาน เรียกว่า “SCinONE” ซึ่งเป็น Mobile Application ที่รวบรวมทุกอย่างที่จำเป็นไว้ในที่เดียว ทำให้เข้าถึงพนักงานทุก Gen โดยเฉพาะ Gen Y ที่มีสัดส่วน 70% ของคนในองค์กร เพื่อดูแลทุกคนให้ได้รับประสบการณ์การทำงานที่ดีผ่านบริการต่างๆ แบบ Self Service ที่สะดวกและคล่องตัว

ภายใน APP นี้ ทุกคนสามารถค้นหาข้อมูลด้านทรัพยากรบุคคล สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ การเลือก Flex benefits ตามไลฟ์สไตล์ การฝึกอบรมพัฒนา ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งการออกแบบ ก็จะเป็นในรูปแบบของ gamification มีการสะสมแต้ม เรียกว่า “The Point” เพื่อแลกรับของรางวัลต่าง ๆ เช่น ส่งดาวให้เพื่อน (แสดงพฤติกรรมสอดคล้องกับค่านิยมองค์กร) หรือแม้แต่การออกกำลังกาย ถือเป็นการเสริมสร้าง Social Engagement

และที่สำคัญที่สุดของการเป็น Digital HR นี้ ทำให้เราได้ข้อมูลโดยตรงจากตัวพนักงานเอง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ HR วิเคราะห์และวางกลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีให้กับพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับความท้าทายที่สุดใน 4 แกนหลักที่กล่าวมา คุณศิริกุลชี้ว่า “โครงสร้างองค์กรเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและเร็วที่สุด แต่ถ้าต้องวิ่งแบบยาวๆ นานๆ ก็คือวัฒนธรรมองค์กร แม้จะยากแต่หลายอย่างเราก็ทำสำเร็จ ในขณะที่ เทคโนโลยีก็ทำให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่วนการพัฒนาทักษะต่างๆ ก็ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”

ส่องงาน SC Employee Fest 2020

นอกจากนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานให้เหนียวแน่น สร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และตอกย้ำวัฒนธรรมองค์กร #SCskydive พร้อมกับถ่ายทอดความรู้เรื่องแบรนด์ เพื่อขับเคลื่อนบริษัทฯ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน  Living Solutions Provider จึงจัดงาน SC Employee Fest 2020 ภายใต้แนวคิด สนุก ฟรี มีอนาคต! ขึ้นที่ Co. Lab อาคารชินวัตร 3 ซึ่งเต็มไปด้วยสาระและบันเทิงแบบครบครัน พร้อมเปิดตัว ‘People Champion’  บุคลากรที่มีส่วนสนับสนุนวัฒนธรรม และการสื่อสารองค์กรให้มีประสิทธิภาพในแบบฉบับ SC ASSET


แชร์ :

You may also like